โดยในปี 2565 นี้ ไวซ์ไซท์ได้พัฒนาเครื่องมือและบริการใน 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ 1. WARROOM 2. WISESIGHT RESEARCH และ 3. ZOCIAL EYE ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
- WARROOM
เพิ่มประสิทธิภาพให้กับทีมงานดูแลลูกค้าผ่านหน้าจอเดียวด้วย WARROOM ด้วย 4 ฟีเจอร์ใหม่ ได้แก่
- WARROOM Mini App แอปพลิเคชันที่ถูกพัฒนาให้ใช้งานได้ 7 รูปแบบ โดยไม่จำเป็นต้องทำการสลับหน้าจอเครื่องมือเหล่านี้ในระบบอื่นๆ
- WARROOM Mini App SDK เปิดโอกาสให้ธุรกิจหรือผู้พัฒนาแอปพลิเคชันนำแอปฯ มาใช้งานบน WARROOM ตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลาย
- Automation Workflow ขยายขีดความสามารถด้านการดูแลลูกค้าด้วยระบบอัตโนมัติที่ช่วยบริหารจัดการความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์และลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว ช่วยลดภาระการทำงานของทีมดูแลลูกค้า และสามารถทำงานที่สำคัญได้อย่างเต็มศักยภาพ
- Direct Message on Instagram อีกหนึ่งช่องทางสำคัญบน Instagram ที่รวบรวมการสื่อสารระหว่างแบรนด์กับลูกค้า
- WISESIGHT RESEARCH
บริการ WISESIGHT RESEARCH สามารถออกแบบรายงานวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกได้มากถึง 12 รูปแบบ ใน 2 หมวดหมู่ด้วยกัน คือ 1. MEASUREMENT บริการรายงานผลลัพธ์สำหรับแบรนด์และธุรกิจ ซึ่งช่วยในการวัดผลประสิทธิภาพการทำงานของโซเชียลมีเดีย ทั้งในระดับแคมเปญแบบครั้งเดียวหรือติดตามผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงตลอดทั้งปี โดยแสดงผลใน 7 รูปแบบรายงาน ช่วยให้ธุรกิจรู้ข้อมูลของโซเชียลมีเดียในแต่ละด้าน ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหา, อินฟลูเอนเซอร์, แคมเปญ, การทำประชาสัมพันธ์และการใช้สื่อออนไลน์, โซเชียลมีเดีย, การสรุปข้อมูล และการสื่อสารแบรนด์บนโซเชียลมีเดีย และ 2. ANALYSIS บริการที่ช่วยให้แบรนด์เข้าใจผู้บริโภคได้ดียิ่งขึ้นจากการวิเคราะห์เทรนด์ที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด โดยแสดงผลใน 5 รูปแบบรายงาน ได้แก่ Brand Analysis, Product Analysis, Personal Reputation Analysis, Consumer Analysis และ Trend Analysis ซึ่งภายใต้การวิเคราะห์ข้อมูลทั้งหมดนี้ ไวซ์ไซท์มี KIRIN ENGINE ระบบปฏิบัติเบื้องหลังที่ช่วยให้สามารถประมวลผลได้แม่นยำและรวดเร็ว และ WISESIGHT METRICS ตัวชี้วัดประสิทธิภาพของโซเชียลมีเดียตามค่ามาตรฐานที่คำนวณจากฐานข้อมูลของไวซ์ไซท์สำหรับคนทำงานสายการตลาดโดยเฉพาะ
- ZOCIAL EYE
เพราะเสียงของผู้บริโภคมีความสำคัญมากขึ้นสำหรับการดำเนินธุรกิจในทุกวัน ไวซ์ไซท์จึงพัฒนาฟีเจอร์ใหม่บนแพลตฟอร์ม ZOCIAL EYE ให้สามารถเก็บข้อมูล รวมถึงแสดงผลข้อมูลในเชิงที่ลึกและครอบคลุมยิ่งขึ้น ประกอบด้วย
- Demographics แสดงผลข้อมูลเชิงลึกของลูกค้าในด้านเพศและช่วงอายุ
- Brand Involvement วัดผลลัพธ์ประสิทธิภาพบัญชีของอินฟลูเอนเซอร์ได้อย่างแม่นยำ ทำให้เลือกใช้งานอินฟลูเอนเซอร์เพื่อการตลาดได้ดียิ่งขึ้น
- Instagram Reels & TikTok ช่องทางยอดนิยมสำหรับนักการตลาด โดยไวซ์ไซท์สามารถเก็บข้อมูลบนช่องทางดังกล่าวมาประมวลผล
- Logo Detection ระบบวิเคราะห์และจับข้อความจากภาพที่มีสัญลักษณ์โลโก้ เพื่อการมอนิเตอร์ข้อมูลสำหรับธุรกิจที่ครบถ้วนยิ่งขึ้น
- Intelligence Analytics ระบบที่ช่วยสรุปและอ่านข้อมูลจากแคมเปญโซเชียลมีเดีย โดยที่ผู้ใช้งานไม่จำเป็นต้องมีความรู้ในการวิเคราะห์ข้อมูลมาก่อนก็สามารถเข้าใจและนำข้อมูลไปประยุกต์ใช้งานต่อได้หลากหลายมากกว่าที่เคย
นอกจากนี้ เรายังมีเครื่องมือให้นักการตลาดได้ใช้งานฟรีอย่าง WISESIGHT TREND เครื่องมือสำหรับเฝ้าดูเทรนด์และติดตามกระแสบนโลกออนไลน์ที่ไวซ์ไซท์ปรับเปลี่ยนรูปแบบการแสดงเนื้อหาให้มองเห็นภาพรวมของข้อมูลเชิงลึกในแต่ละแพลตฟอร์มได้ง่ายขึ้น และ INFLUENCER PORTFOLIO เครื่องมือช่วยสร้าง Portfolio สำหรับอินฟลูเอนเซอร์ เพื่อนำไปต่อยอดในเชิงธุรกิจได้ง่ายและรวดเร็ว
"โลกการตลาดในยุคนี้มีเครื่องมือใหม่ๆ เกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก นักการตลาดที่มีทักษะความเข้าใจและสามารถใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ย่อมเตรียมตัวได้ก่อน วางกลยุทธ์ได้อย่างรวเร็วและประสบความสำเร็จเหนือคู่แข่งได้ไม่ยาก ดังนั้น สิ่งสำคัญคือ นักการตลาดควรใช้เครื่องมือ Marketing Technology ให้เหมาะสมกับวัตถุประสงค์ทางการตลาด และคอยหมั่นอัปเดตความรู้อยู่เสมอ" คุณกล้า ตั้งสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร, บริษัท ไวซ์ไซท์ (ประเทศไทย) จำกัด เสริม
ที่มา: ไวสแบรนด์