การลงนามในครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจาก Enterprise Singapore (ESG) ซึ่งเป็นหน่วยงานรัฐบาลภายใต้กระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมของสิงคโปร์ ซึ่ง ESG ได้เป็นสื่อกลางเชื่อมโยงภาคธุรกิจอย่าง SWAT Mobility ให้ได้พบกับหน่วยงานต่างๆที่สำคัญในประเทศไทย โดย MOU ในวันนี้ เป็นความร่วมมือระดับทวิภาคีที่สำคัญ ระหว่างบริษัท ไปรษณีย์ไทยดิสทริบิวชั่น จำกัด (ปณด) เป็นบริษัทภาครัฐชั้นนำของประเทศไทย และ SWAT Mobility ของประเทศสิงคโปร์ ในการพัฒนาประสิทธิภาพการวางแผนระบบขนส่ง ด้วยการนำเทคโนโลยี AI (Artificial Intelligence ) และระบบ Machine Learning มาใช้ เพิ่มความพึงพอใจแก่ผู้รับบริการ ขณะเดียวกันยังสามารถลดจำนวนยานพาหนะและทรัพยากรที่ใช้ในการขนส่ง เพื่อร่วมรักษาสิ่งแวดล้อม ในก้าวเข้าสู่การเป็น" Green Logistics "อย่างยั่งยืนของเอเซีย ที่มีส่วนร่วมกับการแก้ปัญหาลดภาวะโลกร้อนในระดับนานาชาติต่อไป
นายเควิน ชุก เอกอัครราชทูตสิงคโปร์ประจำประเทศไทย ได้กล่าวถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่า "ผมขอแสดงความยินดีกับ SWAT Mobility และ บริษัท ไปรษณีย์ไทยดิสทริบิวชั่น จำกัด ที่ได้บรรลุข้อตกลงในการร่วมกันวิจัยการใช้ระบบ AI และ Machine Learning เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการวางแผนเส้นทางและการบรรทุก สำหรับรถขนส่งของไปรษณีย์ไทยดิสทริบิวชั่น ซึ่งนี่เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่ดีของบริษัทจากประเทศสิงคโปร์และประเทศไทยที่ทำงานอย่างใกล้ชิดเพื่อประโยชน์ร่วมกัน ในฐานะที่ทั้งสองประเทศเป็นทั้งเพื่อนและพันธมิตรธุรกิจที่ยาวนาน และมีความอันดีต่อกันมาโดยตลอด ในการนี้ ผมจึงขอสนับสนุนให้บริษัทจากทั้งสองประเทศได้มองหาโอกาสในความร่วมมือใหม่ๆต่อไป เพื่อร่วมคิดค้นนวัตกรรมและคว้าโอกาสไปด้วยกัน ซึ่งสิ่งนี้มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งในด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน และการเติบโตของระบบเศรษฐกิจดิจิทัล"
ด้านนายพีระ อุดมกิจสกุล กรรมการผู้จัดการบริษัท ไปรษณีย์ไทยดิสทริบิวชั่น จำกัด (ปณด) กล่าวว่า การเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการ และยึดมั่นความพึงพอใจให้แก่ลูกค้า เป็นสิ่งที่ปณด ยึดมั่นมาตลอด ซึ่งการร่วมมือกับSWAT Mobility นำระบบเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ ในการจัดระบบและวางแผนเส้นทางการขนส่ง เป็นการเติมเต็มในการพัฒนาประสิทธิภาพในระบบขนส่งของปณด และสามารถต่อยอดรองรับกับแผนบริหารจัดการการขนส่ง ที่ทางปณด กำลังดำเนินการและเตรียมเปิดตัวในเร็วๆนี้ ในรูปแบบของ"แพลตฟอร์มบริหารการขนส่งเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรรายย่อยหรือวิสาหกิจชุมชนจัดหารถขนส่งที่ดีและราคาถูก" มุ่งหวังลดการสูญเปล่าจากการบริหารรถเที่ยวกลับ (Backhau ) ลดความสิ้นเปลืองด้านพลังงาน ส่งผลให้ประชาชนเข้าถึงใช้บริการโลจิสติกส์ที่ถูกลง
นายอาเธอร์ ชัว ประธานกรรมการบริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง SWAT Mobility กล่าวว่า "เรารู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับบริษัทจัดส่งที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย โดยความร่วมมือในครั้งนี้ นอกเหนือจากการบรรลุวัตถุประสงค์ในด้านประสิทธิภาพการขนส่งที่เพิ่มขึ้นแล้ว ยังรวมถึงแรงผลักดันร่วมกันที่จะสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในเชิงบวก ผ่านการวางแผนยานพาหนะที่รัดกุม และการลดระยะทางรวมถึงทรัพยากรในการขนส่งอีกด้วย โดยความยั่งยืนนี้ เป็นสิ่งที่ SWAT Mobility ยึดถือเป็นส่วนสำคัญในเทคโนโลยีของเรา"
ที่มา: SWAT Mobility