กรุงเทพฯ--10 ส.ค.--เอไอเอส
เอไอเอสเปิดตัวบริษัท แอดวานซ์ เอ็มเปย์ จำกัด ทำธุรกรรมการเงินบนมือถือครั้งแรกในประเทศไทย พร้อมผนึกความร่วมมือกับโดโคโม ยักษ์ใหญ่ด้านสื่อสารไร้สายของญี่ปุ่น เพื่อนำบริการที่หลากหลายสู่มือคุณ
เอไอเอส สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่เปิดตัวบริษัท แอดวานซ์ เอ็มเปย์ จำกัด หลังจากได้รับใบอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทยให้ดำเนินธุรกิจให้บริการธุรกรรมการเงินบนโทรศัพท์เคลื่อนที่รายแรกในประเทศไทย พร้อมผนึกความร่วมมือกับ บริษัท เอ็นทีที โดโคโม อินคอร์ปอเรชั่น บริษัทสื่อสารยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่น นำศักยภาพความเข้มแข็งด้านเทคโนโลยีของ 2 ผู้นำสื่อสารไร้สายประยุกต์และเชื่อมโยงเข้ากับรูปแบบการใช้จ่ายของผู้บริโภค เพื่อสร้างความหลากหลาย และอำนวยความสะดวกในการใช้จ่ายของผู้บริโภคได้ทุกที่ ทุกเวลา
นายสมประสงค์ บุญยะชัย ประธานกรรมการบริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือ (เอไอเอส) กล่าวว่า ด้วยบริการ เอ็มเปย์ (MPAY) ซึ่งเป็นบริการใหม่ของเอไอเอสที่เปิดให้บริการไปเมื่อปลายปี 2547 และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี พร้อมทั้งการขยายตัวทางธุรกิจของบริการนี้มีแนวโน้มจะเติบโตมากขึ้น เนื่องด้วยบริการของเอ็มเปย์ เป็นบริการที่มีความหลากหลาย อำนวยความสะดวก มีความปลอดภัย และยังสามารถตรวจสอบได้ ดังนั้นเอไอเอสจึงเล็งเห็นว่าเป็นโอกาสที่ดีด้านการลงทุนจึงได้จัดตั้งบริษัท แอดวานซ์ เอ็มเปย์ จำกัด ขึ้น เพื่อดำเนินธุรกิจให้บริการธุรกรรมการเงินบนโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งได้รับใบอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทยให้ดำเนินธุรกิจดังกล่าวเป็นรายแรกในประเทศไทย โดย บริษัท แอดวานซ์ เอ็มเปย์ จำกัด เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง เอไอเอส และบริษัท เอ็นทีที โดโคโม จำกัด ซึ่งเป็นผู้ให้บริการสื่อสารไร้สายยักษ์ใหญ่ของประเทศญี่ปุ่น ในสัดส่วนการถือหุ้นของเอไอเอส 70 % และ เอ็นทีที โดโคโม 30 % ด้วยทุนจดทะเบียน 300 ล้านบาท
“ด้วยศักยภาพการดำเนินธุรกิจที่แข็งแกร่งของเอไอเอส ประกอบกับคุณภาพในด้านเครือข่าย เทคโนโลยี บริการ และบุคลากร ตลอดจนการพัฒนาการให้บริการและคุณภาพอย่างต่อเนื่อง จนทำให้มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ชัด ประสบความสำเร็จ และได้รับความเชื่อถือจากผู้ใช้บริการและประชาชนทั่วไป เมื่อผนึกความร่วมมือกับบริษัท เอ็นทีที โดโคโม ซึ่งเป็นผู้ให้บริการสื่อสารไร้สายที่มีความแข็งแกร่งที่สุดของญี่ปุ่น จะทำให้บริการธุรกรรมการเงินบนโทรศัพท์เคลื่อนที่มีรูปแบบใหม่ๆที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น ซึ่งผมเชื่อมั่นว่าจากบริการเอ็มเปย์นี้จะทำให้ผู้ใช้บริการมีทางเลือกในวิธีการจ่ายเงินเพิ่มมากขึ้น มีความหลากหลายในการเลือกใช้บริการ ได้รับความสะดวกสบาย สามารถใช้ได้
ทุกที่ ทุกเวลา และสิ่งที่สำคัญคือ เป็นบริการที่มีความปลอดภัย ซึ่งผู้ใช้บริการสามารถมั่นใจในการทำธุรกรรมผ่านเอ็มเปย์ได้ และยังสามารถตรวจสอบรายการการทำธุรกรรมได้อีกด้วย” นายสมประสงค์ บุญยะชัย กล่าว
นายมาซายูกิ ฮิราตะ รองกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส บริษัท เอ็นทีที โดโคโม อินคอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า ด้วยเศรษฐกิจของประเทศไทยที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วและมีจำนวนผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ที่สูงนั้น จึงเป็นตลาดที่น่าสนใจสำหรับการลงทุนธุรกิจให้บริการใหม่ๆที่เกี่ยวข้องกับโทรศัพท์เคลื่อนที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อผู้บริโภคคนไทยมีศักยภาพในการใช้จ่ายมากขึ้น การใช้งานบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตก็มีมากขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นเราคาดหวังว่าความต้องการใช้งานธุรกรรมการเงินบนโทรศัพท์เคลื่อนที่โดยผ่านบริการ mPAY นั้นจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ในประเทศญี่ปุ่นเอง โดโคโมได้เริ่มให้บริการธุรกรรมทางการเงินบนมือถือในชื่อว่า “Osaifu Keitai” หรือ “Mobile Wallet” เมื่อกลางปี 2547 ซึ่งขณะนี้มีผู้ใช้บริการจำนวน 5 ล้านคน โดยมีร้านค้าที่ร่วมให้บริการจำนวน 22,000 ร้านค้า และมีเครื่อง Vending Machine จำนวน 4,900 เครื่อง
“การร่วมลงทุนในบริษัท แอดวานซ์ เอ็มเปย์ กับเอไอเอสในครั้งนี้ถือเป็นโอกาสที่ดีของโดโคโมในการเข้ามาร่วมให้บริการธุรกรรมการเงินบนมือถือในประเทศไทย และครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่โดโคโมร่วมลงทุนเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ชั้นนำอื่นๆ ซึ่งถือว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับเรา เพราะเอไอเอสถือเป็นบริษัทผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ชั้นนำและเป็นรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เรามีความเชื่อมั่นในศักยภาพของเอไอเอสที่จะร่วมกันสร้างสรรค์ธุรกิจบริการ mPAY ให้เติบโต โดยโดโคโมจะร่วมให้การสนับสนุนในด้านประสบการณ์และความเชี่ยวชาญอย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อให้บริษัท แอดวานซ์ เอ็มเปย์ ประสบความสำเร็จและเป็นตัวผลักดันให้ตลาดการให้บริการธุรกรรมการเงินบนมือถือนี้เติบโตอย่างสดใส และเป็นที่เชื่อถือไว้วางใจของผู้บริโภค” นายมาซายูกิ ฮิราตะ กล่าว
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net--จบ--