บทวิเคราะห์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส (FSSIA) ระบุถึง บมจ.ทางยกระดับดอนเมือง หรือ DMT ว่า การเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวที่เข้ามา น่าจะช่วยกระตุ้นรายได้ค่าผ่านทางของ DMT ให้เพิ่มขึ้นได้ โดยมีปัจจัยบวกซึ่งประกอบไปด้วย 1. ในปัจจุบันสถานการณ์โควิดอยู่ภายใต้การควบคุม 2. การกลับมาเปิดประเทศอีกครั้ง และ 3. การเปิดภาคเรียนการศึกษาใหม่แบบ Onsite ได้เริ่มต้นแล้ว เราเชื่อว่าการจราจรบนทางยกระดับของ DMT ตั้งแต่ไตรมาส 2 ของปีนี้เป็นต้นไปน่าจะกลับมาฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง ยิ่งไปกว่านั้นจากการที่การจราจรของ DMT มีความสัมพันธ์อย่างมากกับจำนวนผู้โดยสารที่สนามบินดอนเมือง (DMK) FSSIA เชื่อว่าการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวจะเป็นปัจจัยบวกและส่งผลโดยตรงให้แก่ผลประกอบการของ DMT ในปี 2565-2566 จากข้อมูลที่มีการเปิดเผยจำนวนจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในประเทศไทยเป็นจำนวน 8.5 ล้านคนในปีนี้และจะเดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้นเป็น 34.1 ล้านคนในปี 2566 ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 0.4 ล้านคนในปี 2564 ที่มีการจำกัดการเดินทาง
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีผลประกอบการที่ไม่น่าตื่นเต้นมากนักในไตรมาสแรกปีนี้ เนื่องจากปริมาณการจราจรที่ปรับลดลงบนทางยกระดับ ซึ่งเชื่อว่าผลประกอบการของ DMT ในไตรมาส 1/65 ได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และปริมาณการจราจรน่าจะกลับมาเติบโตอีกครั้ง ตามการฟื้นตัวของผู้โดยสารที่สนามบินดอนเมือง รวมทั้งจากการเดินทางเข้ามาของนักท่องเที่ยวตามที่กล่าวข้างต้น ทั้งนี้ ในเดือน เม.ย.65 จำนวนผู้โดยสารที่สนามบินดอนเมืองพุ่งขึ้นแตะ 1.1 ล้านคน ซึ่งเป็นจำนวนที่สูงสุดในรอบ 16 เดือน
"เชื่อมั่นว่าโมเมนตั้มของการฟื้นตัวของผู้โดยสารที่สนามบินดอนเมือง และการเดินทางเข้ามาของนักท่องเที่ยวนี้น่าจะยังคงดำเนินต่อไป ซึ่งDMT ก็น่าจะได้ประโยชน์จากเรื่องนี้โดยตรง"
คาดการณ์ปริมาณการจราจรของ DMT แตะที่ 34.4 ล้านเที่ยวในปี 2565 โดยมีการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในอัตรา 65% จากปีที่แล้ว อย่างไรก็ตามตัวเลขการคาดการณ์ของเรายังต่ำกว่าปริมาณการจราจรในปี 2563 ที่มีจำนวน 34.9 ล้านเที่ยว และ 53.8 ล้านเที่ยวในช่วงก่อนโควิดในปี 2562 ตัวชี้วัดต่างๆตามที่กล่าวข้างต้น เช่น การคาดการณ์ของจำนวนนักท่องเที่ยวในปี 2565 ที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย 8.5 ล้านคน ซึ่งมากกว่าตัวเลข 6.7 ล้านคนในปี 2563 FSSIA คาดว่ารายได้ค่าผ่านทางของ DMT จะก้าวกระโดดไปที่ 1,984 ล้านบาท (+65% y-y) ในปี 2565
อย่างไรก็ตาม DMT มีการบริหารการจัดการต้นทุนดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพและก้าวข้ามจากวิกฤตโควิด-19 ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา (2563-2564) โดยที่ต้นทุนจากการตัดจ่ายต้นทุนสัมปทานตามปริมาณการจราจรที่เกิดขึ้นจริงที่จะเพิ่มขึ้นตามการเติบโตของปริมาณการจราจร ในส่วนของของค่าใช้จ่ายด้านการบำรุงรักษาทางยกระดับเป็นไปตามแผนงานการบำรุงรักษาตามหลักการทางวิศวกรรมตามมาตรฐาน ดังนั้น เราคาดว่ากำไรสุทธิของ DMT จะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าจากปีที่แล้วไปที่ระดับ 859 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรา 113% ในปี 2565
FSSIA ยังคงแนะนำ ซื้อ ในปี 2565 ด้วยราคาเป้าหมายใหม่ด้วยวิธี DCF ที่ 16 บาท ลดลงจาก 17 บาท โดยปัจจัยบวกจาก 1.ผลประกอบการในไตรมาส 1 ปี 65 ได้ผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว 2. โมเมนตั้มในการฟื้นตัวที่ต่อเนื่องซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย และ 3. ด้วยค่า P/E ที่ต่ำ และอัตราเงินปันผลที่ประเมินไว้ 5% ในปี 2565 และ 8% ในปี 2566 ทั้งนี้ ราคาเป้าหมายที่คาดการณ์นั้นไม่ได้รวมความเป็นไปได้ที่ DMT จะชนะการประมูลในโครงการต่างๆในปีหน้า
ที่มา: ทางยกระดับดอนเมือง