AIS ไทยลีก และ WMS มอบเหรียญรางวัลจากขยะอิเล็กทรอนิกส์ เหรียญแรกแห่งวงการฟุตบอลไทยในงาน FA Thailand Awards ตอกย้ำเป้าหมาย "Green ไทยลีก"

จันทร์ ๒๕ กรกฎาคม ๒๐๒๒ ๑๖:๒๓
AIS ไทยลีก และ WMS มอบเหรียญรางวัลจากขยะอิเล็กทรอนิกส์ เหรียญแรกแห่งวงการฟุตบอลไทยในงาน FA Thailand Awards ตอกย้ำเป้าหมาย "Green ไทยลีก" บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ประเดิม คว้ารางวัล FOOTBALL CLUB E-WASTE CHALLENGE AWARD สุดยอดสโมสรฟุตบอลรักษ์โลกประจำฤดูกาล
AIS ไทยลีก และ WMS มอบเหรียญรางวัลจากขยะอิเล็กทรอนิกส์ เหรียญแรกแห่งวงการฟุตบอลไทยในงาน FA Thailand Awards ตอกย้ำเป้าหมาย Green ไทยลีก

สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดงานประกาศเกียรติคุณให้กับบุคคลผู้สร้างผลงานดีเด่นในวงการฟุตบอลไทยด้านต่างๆ FA Thailand Awards 2021/22 โดยงานนี้ AIS และ ไทยลีก ร่วมเป็นหนึ่งในผู้ตัดสินและมอบรางวัล FOOTBALL CLUB E-WASTE CHALLENGE AWARD ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้กับสโมสรฟุตบอลในไทยลีก 1 ทั้ง 16 สโมสร ที่สามารถรวบรวมขยะอิเล็กทรอนิกส์หรือ E-Waste ได้มากที่สุดจากกิจกรรมแฟนบอลไทยไร้ E-Waste ความพิเศษของรางวัลนี้คือการนำขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่ได้จากแฟนบอลไปทำเป็นเหรียญรางวัลเกียรติยศที่ผลิตขึ้นจากขยะอิเล็กทรอนิกส์เหรียญแรกของไทย ซึ่งสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เป็นสโมสรที่สามารถรวมรวบขยะอิเล็กทรอนิกส์ได้มากสุด คว้ารางวัล FOOTBALL CLUB E-WASTE CHALLENGE AWARD ได้สำเร็จเป็นครั้งแรกของวงการฟุตบอลไทย ถือเป็นก้าวที่สำคัญสู่การต่อยอดแนวคิด "Green ไทยลีก" ให้เกิดการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในวงการฟุตบอลและไทยลีก ต่อไป

นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยลีก จำกัด กล่าวว่า "เราขอแสดงความยินดีกับทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่สามารถคว้ารางวัล FOOTBALL CLUB E-WASTE CHALLENGE AWARD ซึ่งประกาศขึ้นเป็นครั้งแรกในงาน FA Thailand Awards อย่างที่เคยเน้นย้ำความตั้งใจของไทยลีกต่อจากนี้ คือการยกระดับสู่การเป็น Green ไทยลีก การมอบรางวัลดังกล่าวถือเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญในการต่อยอดและขยายผลให้ฟุตบอลไทยลีกในทุกดิวิชั่น ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนในทุกด้าน โดยเฉพาะการร่วมกันดูแลสิ่งแวดล้อม ผ่านการมีส่วนร่วม ระหว่าง สโมสร นักกีฬา แฟนบอล สปอนเซอร์ และพันธมิตรภาคส่วนต่างๆ"

นายปรัธนา ลีลพนัง หัวหน้าคณะผู้บริหาร กลุ่มลูกค้าทั่วไป AIS กล่าวว่า "เราขอขอบคุณทางสโมสรไทยลีก 1 ทั้ง 16 สโมสร และพลังของแฟนบอล ที่ให้ความร่วมมือและแสดงออกถึงความตั้งใจในการมีส่วนร่วมกับการแข่งขันนอกสนาม ในการร่วมกันทิ้งขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างถูกวิธี โดยรางวัล FOOTBALL CLUB E-WASTE CHALLENGE AWARD ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญที่จะเชื่อมต่อภาคส่วนต่างๆ ให้เข้ามามีส่วนร่วมในการให้ความสำคัญกับการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์ พวกเราชาว AIS ขอแสดงความยินดีกับสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่คว้ารางวัลนี้ไปครองได้สำเร็จ เราเชื่อว่ารางวัลดังกล่าวจะเป็นอีกหนึ่งแรงขับเคลื่อนที่สำคัญสู่การสร้าง Green ไทยลีกควบคู่ไปกับการสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการฟุตบอลไทยสู่การแข่งขันที่ยั่งยืนไปด้วยกัน"

นางสาวสมาพร ผลบุตร ผู้อำนวยการสายงานฟุตบอล สโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กล่าวว่า "ในฐานะตัวแทนสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เรารู้สึกยินดีและภูมิใจอย่างมากที่สามารถคว้ารางวัลเกียรติยศนี่มาครองได้ ทั้งนี้ที่ผ่านมาทางสโมสรได้ให้ความสำคัญกับมิติของสิ่งแวดล้อมมาโดยตลอด ซึ่งการเป็นส่วนหนึ่งในการรับขยะอิเล็กทรอนิกส์เพื่อนำไปกำจัดอย่างถูกวิธีก็เป็นหนึ่งเป้าหมายที่สำคัญที่ทางสโมสรพร้อมร่วมขับเคลื่อนและทำงานกับทุกภาคส่วน และก้าวเดินต่อจากสโมสรของเราก็พร้อมเป็นส่วนสำคัญของวงการฟุตบอลไทยที่จะช่วยสร้างการพัฒนาอย่างรอบด้านทั้งกีฬา, เศรษฐกิจ, การท่องเที่ยว และสิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืนต่อไป"

รางวัล FOOTBALL CLUB E-WASTE CHALLENGE AWARD เป็นรางวัลที่ให้สโมสรไทยลีก 1 จำนวน 16 ทีม เข้าร่วมการแข่งขัน โดยทีมที่สามารถรวบรวมขยะอิเล็กทรอนิกส์จากแฟนบอล ไม่ว่าจะเป็น โทรศัพท์มือถือ/แท็บเล็ต สายชาร์จ หูฟัง พาวเวอร์แบงก์ แบตเตอรี่มือถือ ได้มากที่สุดก็จะคว้ารางวัลนี้ไปครอง โดยปีนี้ สโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด สามารถคว้ารางวัลดังกล่าวนี้ไปได้ ได้รับเหรียญที่ผลิตจากขยะอิเล็กทรอนิกส์ โดยบริษัท เวสท์ แมเนจเม้นท์ สยาม จำกัด หรือ WMS ได้นำขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่รวบรวมจากโครงการ "แฟนบอลไทยไร้ E-Waste"เช้าสู่กระบวนการคัดแยกเพื่อการรีไซเคิลอย่างถูกต้องตามมาตรฐานสากล ในส่วนของโลหะมีค่าที่เป็นองค์ประกอบของขยะอิเลคทรอนิกส์เช่น ทอง เงิน ทองแดง จะถูกส่งไปเข้าสู่กระบวนการหลอมที่ประเทศญี่ปุ่นเพื่อสกัดออกมาเป็นโลหะทอง หรือ เงิน และนำไปผลิตเป็นเหรียญรางวัลด้วยเทคโนโลยีเดียวกับการผลิตเหรียญโตเกียว โอลิมปิกส์ทั้งนี้ สโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ถือเป็นสโมสรไทยสโมสรแรกที่คว้าเหรียญรางวัลประวัติศาสตร์นี้ไปครอบครองได้สำเร็จ

เกี่ยวกับ AIS
บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS ผู้นำด้าน Digital Life Service Provider อันดับ 1 ที่มีคลื่นความถี่ในการให้บริการมากที่สุดรวม 1420 MHz และมีจำนวนผู้ใช้งานมากที่สุดกว่า 44.6 ล้านเลขหมาย (ณ มีนาคม 2565) พร้อมขับเคลื่อนประเทศไทยด้วยเทคโนโลยี 5G ที่ครบ 77 จังหวัดแล้วเป็นรายแรกผ่าน 3 สายธุรกิจ ได้แก่ โทรศัพท์เคลื่อนที่, อินเทอร์เน็ตบ้านความเร็วสูงภายใต้แบรนด์ AIS Fibre และบริการดิจิทัล 5 ด้าน ได้แก่ วิดีโอ คลาวด์ ดิจิทัลเพย์เมนท์ อินเทอร์เน็ตในทุกสิ่ง (IoT) และบริการร่วมกับพาร์ทเนอร์ตลอดจนขยายสู่กลุ่มธุรกิจใหม่ อาทิ AIS eSports, AIS Insurance Service ทั้งหมดนี้เพื่อสนับสนุนความแข็งแกร่งด้านโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของประเทศขยายขีดความสามารถของภาคอุตสาหกรรม และยกระดับ คุณภาพชีวิตของคนไทยไปพร้อมกัน พบกับเราได้ที่ www.ais.th

ที่มา: โพลีพลัส พีอาร์

AIS ไทยลีก และ WMS มอบเหรียญรางวัลจากขยะอิเล็กทรอนิกส์ เหรียญแรกแห่งวงการฟุตบอลไทยในงาน FA Thailand Awards ตอกย้ำเป้าหมาย Green ไทยลีก

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ