สำหรับการจัดงานในครั้งนี้ BEDO มีเป้าหมายเพื่อเป็นการเผยแพร่ผลงานและสร้างการรับรู้ถึงแนวทางการสร้างเศรษฐกิจชุมชนตามหลักการ BEDO-BCG ซึ่งประกอบด้วย 1) การใช้ทรัพยากรความหลากหลายทางชีวภาพภายในชุมชนซึ่งสอดคล้องกับหลักการเศรษฐกิจชีวภาพ (Bioeconomy) 2) กระบวนการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งสอดคล้องกับหลักการเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular economy) และหลักเศรษฐกิจสีเขียว (Green economy) และ 3) การแบ่งปันรายได้กลับไปอนุรักษ์และฟื้นฟูความหลากหลายทางชีวภาพชุมชน ให้เกิดการรับรู้ในวงกว้าง นอกจากนี้ยังมีเป้าหมายในการเชื่อมโยงเครือข่ายชุมชน และเป็นการเพิ่มโอกาสทางการตลาดให้แก่เครือข่ายชุมชน BEDO โดยที่ผ่านมา BEDO ได้สนับสนุนการสร้างเศรษฐกิจชีวภาพระดับชุมชน จำนวน 156 ชุมชน ในพื้นที่ 42 จังหวัด ทั้งในพื้นที่อนุรักษ์ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และชุมชนในพื้นที่เอกสารสิทธิ์ ซึ่งได้มีการนำสินค้าจากทรัพยากรชีวภาพจากเครือข่ายชุมชน BEDO ส่วนหนึ่งมาจัดแสดงในงานชุมชนไม้มีค่า-ป่าครอบครัว: 15 ปี BEDO ตำรับเศรษฐกิจชีวภาพชุมชน และสามารถสร้างรายได้ให้ชุมชนกลับไปอนุรักษ์ทรัพยากรชีวภาพต่อไป
"จากความสำเร็จดังกล่าว ชี้ให้เห็นว่าการพัฒนาศักยภาพการใช้ประโยชน์จากความหลากหลายทางชีวภาพของประเทศ และการปันรายได้สู่การอนุรักษ์ตามหลักการ BEDO-BCG นั้น สอดคล้องกับแนวทางการดำเนินงานของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สามารถช่วยยกระดับเศรษฐกิจจากฐานรากสู่ระดับประเทศตามนโยบายแก้จนของรัฐบาล และสำหรับก้าวต่อไปของ BEDO นั้น ยังคงมุ่งมั่นที่จะยกระดับ เพิ่มมูลค่า สร้างรายได้จากฐานทรัพยากรชีวภาพ เพื่อนำผลตอบแทนกลับมาดูแลทรัพยากรชีวภาพที่ชุมชนมีอยู่หมุนเวียนไปอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบโจทย์กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในการสร้างรายได้เป็นเครื่องมือการอนุรักษ์ และพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากเพื่อแก้จนของรัฐบาลต่อไป" นางสุวรรณา กล่าวทิ้งท้าย
ที่มา: คาริสม่า มีเดีย