นายเฉลิมชัย มหากิจศิริ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TTA และ บริษัท พี80 โก จำกัด กล่าวว่า "เราต้องการมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือผู้ใช้รถมอเตอร์ไซค์ โดยเฉพาะผู้ประกอบอาชีพไรเดอร์ที่ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและสภาพเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รวมถึงเป็นการสนับสนุนนโยบายของภาครัฐบาลอีกแรงหนึ่งด้วย นอกจากนี้ TTA มีนโยบายการทำธุรกิจที่ยั่งยืนและให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเรื่องการลดปริมาณคาร์บอนฟุตพริ้นท์ (Carbon Footprints) ดังนั้น ธุรกิจรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าของบริษัท พี80 โกฯ จึงสอดคล้องกับนโยบายของ TTA และจะช่วยลดผลกระทบต่อมลภาวะที่เกิดขึ้นได้ เช่น ฝุ่นจากการเผาไหม้ และมลภาวะทางเสียง เป็นต้น เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่กล่าวมานี้ เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่มีโอกาสร่วมมือกับบริษัท สตรอม (ไทยแลนด์) จำกัด ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกยานยนต์ไฟฟ้าที่มีชื่อเสียงในประเทศไทย ตลอดจนมีศักยภาพที่จะช่วยพัฒนารถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและประหยัดพลังงานให้กับแบรนด์ P80 Go เพื่อให้ P80 Go ก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในผู้นำตลาดรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าในอนาคต"
ทั้งนี้ TTA มีธุรกิจในเครือ คือ Skootar ซึ่งเป็นธุรกิจบริการเรียกเมสเซนเจอร์ออนไลน์ และร้าน Pizza Hut ดังนั้น ช่วงประมาณเดือนสิงหาคม 2565 บริษัท พี80 โกฯ จะนำรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ารุ่นทดสอบมาให้ไรเดอร์ Pizza Hut และ Skootar ทดลองใช้ก่อนในเฟสแรก ซึ่งยังเป็นรุ่นที่ชาร์จแบตเตอรี่กับไฟฟ้าตามที่อยู่อาศัย และชาร์จที่ EV Charging Station ตามปั๊มน้ำมันก็ได้เช่นกัน
รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าแบรนด์ P80 Go มีกำลังการผลิตเบื้องต้นประมาณการไว้ที่ร้อยละ 10-20 ของตลาดรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าภายในประเทศ หรือ 1,000-2,000 คันต่อปี ช่วงราคาตั้งแต่ 50,000 ถึง 120,000 บาท
ในอนาคต ผู้ใช้รถมอร์เตอร์ไซค์ไฟฟ้าแบรนด์ P80 Go จะได้รับความสะดวกอย่างยิ่ง เพราะสามารถสลับเปลี่ยนแบตเตอรี่กับเครือข่ายตู้สลับแบตเตอรี่ (battery swapping station) ของ Swap & Go ซึ่งมีจุดให้บริการครอบคลุมหลายพื้นที่ในกรุงเทพฯ และมีแผนขยายเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง
นางสาวอาวีมาศ สิริแสงทักษิณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สวอพ แอนด์ โก จำกัด (Swap & Go) เปิดเผยว่า Swap & Go มุ่งให้บริการแพลตฟอร์ม หรือโครงสร้างพื้นฐาน สำหรับเครือข่าย Battery Swapping หรือการสลับแบตเตอรี่แบบไม่ต้องรอชาร์จ ดำเนินงานแบบสตาร์ทอัพ เน้นความคล่องตัว สามารถปรับกลยุทธ์การดำเนินงาน ให้สอดรับเทรนด์และเทคโนโลยีของโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เพื่อตอบสนองนโยบายและทิศทางการส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้าของภาครัฐ เพิ่มศักยภาพการใช้พลังงานสะอาดให้กับประชาชน และร่วมสร้างต้นแบบการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีพลังงานอนาคตครบวงจรมาใช้งานจริงในประเทศ
Swap & Go พัฒนารูปแบบธุรกิจการให้บริการสลับแบตเตอรี่ที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานให้กับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมุ่งเน้นออกแบบกระบวนการใช้งานให้ง่าย สะดวก และทันสมัย ผู้ใช้งานสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Swap & Go เชื่อมต่อกับรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่รองรับการใช้งาน เพื่อตรวจสอบปริมาณแบตเตอรี่ ค้นหาตำแหน่งสถานีสลับแบตฯ จองแบตฯ ใหม่ล่วงหน้า และมีระบบนำทางไปยังสถานี เมื่อไปถึงสถานีแล้ว สามารถสแกน QR code เพื่อสลับแบตฯ เดิมที่หมดกับแบตฯ ใหม่ที่พร้อมใช้งานในตู้ชาร์จด้วยตัวเองได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว พร้อมสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าทั้งในไทยและต่างประเทศ เพื่อแสวงหาผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน ปลอดภัย และให้บริการที่เหมาะสมกับสังคมไทย ความร่วมมือกับ P80 GO นี้นับเป็นการพัฒนา EV Ecosystem เพื่อเตรียมความพร้อมในการเพิ่มจำนวนการใช้งานรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าในประเทศไทยผ่านการสร้างพันธมิตรทางธุรกิจ สู่เป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกอย่างยั่งยืน
นายเฉลิมชัย กล่าวเสริมว่า "รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า EV ที่ผลิตในประเทศไทยภายใต้แบรนด์ P80 Go ซึ่งออกแบบอย่างพิถีพิถันให้เหมาะกับการใช้งาน สำหรับลูกค้าที่สนใจ ให้อดใจรอปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า ซึ่งจะมีบริการ 3 แบบ คือ แบบให้เช่าใช้รถ (สัญญามีกำหนดระยะเวลา คืนรถเมื่อถึงเวลา) แบบเช่าซื้อ (สัญญามีกำหนดระยะเวลา รถเป็นของผู้เช่าเมื่อครบระยะเวลา) และแบบขายขาด อย่างไรก็ตาม เพื่อมอบทางเลือกใหม่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมให้กับไรเดอร์และผู้ใช้งานทั่วไป เราจะเปิดให้ลงทะเบียนรับสิทธิ์ขับฟรี 3 เดือน ผ่านเพจเฟซบุ๊ก P80 Go ตั้งแต่วันที่ 26 กรกฎาคม 2565 ถึง 30 กันยายน 2565"
ที่มา: ปตท.