ทั้งนี้ จึงทำให้ผู้ประกอบการทั้งรายใหม่และรายย่อยที่ต้องการกลับมาดำเนินธุรกิจ หลังจากชะลอการลงทุนมาเป็นระยะเวลาเกือบ 2 ปี ต้องการเปลี่ยนทรัพย์สิน มาเพื่อเพิ่มสภาพคล่อง เพื่อขยายต่อยอดธุรกิจที่ฟื้นตัว ทำให้มีทั้งผู้ประกอบการและประชาชน นำทรัพย์สินไปจำนำมากขึ้น โดยเฉพาะอัญมณีและเครื่องประดับ ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าสูงทั้งทองคำ เครื่องประดับ เพชร พลอย ซึ่งจำเป็นต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญในการประเมิน และ ตรวจสอบ ว่าเป็นของแท้ หรือไม่ เพื่อที่จะได้เป็นประโยชน์ต่อทั้งสถานธนานุบาล สถานธนานุเคราะห์ และประชาชน ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการประเมินคุณภาพสินค้า หรือการตรวจสอบเบื้องต้นเพื่อป้องกันการรับจำนำของปลอม
ด้วยเหตุนี้ จึงได้สั่งการให้สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ GIT ให้เข้าไปมีส่วนร่วมในการพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการสถานธนานุบาล สถานธนานุเคราะห์ โดยร่วมมือในการจัดอบรมหลักสูตร In-House ธุรกิจทองคำและโลหะมีค่า รวมถึงการตรวจสอบและประเมินคุณภาพอัญมณีและเพชร ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมได้รับความรู้ในด้านการตรวจสอบและประเมินมูลค่าที่ถูกต้อง รวมถึงการสร้างความมั่นใจให้กับผู้อบรม ซึ่งสามารถนำองค์ความรู้ต่างๆ เหล่านี้ไปปรับใช้ในการให้บริการประชาชน รวมถึงการนำสินค้าที่หลุดจำนำมาจำหน่ายทอดตลาดได้อย่างมั่นใจ นอกจากนี้ยังขอให้ GIT ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยสร้างความเข้มแข็งให้แก่ผู้ประกอบการสถานธนานุบาล สถานธนานุเคราะห์
ที่มา: The Gem and Jewelry Institute of Thailand