บราเดอร์ โชว์ศักยภาพสร้างอัตราการเติบโต 20% สวนกระแสเศรษฐกิจ

พุธ ๐๓ สิงหาคม ๒๐๒๒ ๑๔:๒๓
นายธีรวุธ ศุภพันธุ์ภิญโญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยถึงปัจจัยที่ส่งผลให้ บราเดอร์ ประเทศไทย สามารถสร้างอัตราการเติบโตทางธุรกิจสวนกระแสภาพรวมตลาดในครั้งนี้ว่า เกิดจากสภาพเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศไทยได้เริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ โดยเห็นสัญญาณการฟื้นตัวตั้งแต่ต้นไตรมาส 2 ของปี 2565 เป็นต้นมา กลไกการทำงานภายในสำนักงานขององค์กรต่างๆ กลับมาเป็นเช่นเดิมเหมือนช่วงก่อนเกิดการระบาดของโควิด-19 ทำให้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของบราเดอร์มียอดสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับการปลดล็อคเรื่องการขาดแคลนสินค้าระยะสั้นของบราเดอร์อันเนื่องจากปัญหาการขาดแคลนชิ้นส่วนก็เริ่มคลี่คลายด้วยเช่นกัน ที่สำคัญการปรับกลยุทธ์ด้านการกระจายสินค้าให้เข้าถึงผู้บริโภคทั่วประเทศอย่างทั่วถึงก็ทำให้เกิดความสะดวกในการซื้อเพิ่มขึ้น เมื่อความต้องการในตลาดเพิ่มและบราเดอร์สามารถเติมเต็มความต้องการดังกล่าวได้อย่างถูกที่ถูกเวลา จึงทำให้เกิดการเติบโตทางธุรกิจอย่างเห็นได้ชัด ส่งผลให้ไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2565 (เม.ย.-มิ.ย.) บราเดอร์สามารถสร้างอัตราการเติบโตทางธุรกิจได้สูงถึง 20% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา
บราเดอร์ โชว์ศักยภาพสร้างอัตราการเติบโต 20% สวนกระแสเศรษฐกิจ

"ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา บราเดอร์ได้พบมุมมองใหม่ๆ ในการดำเนินธุรกิจ อุปสรรคที่เราต้องเผชิญทำให้เรามองเห็นโอกาสใหม่ๆ ในตลาดเพิ่มขึ้น เมื่อเราต้องประสบกับพฤติกรรมการทำงานที่เปลี่ยนไปจากการรวมศูนย์ในองค์กรมาเป็นการกระจายตัว (decentralized working) ในแบบ work from home หรือ social distancing ภายในองค์กร หรือแม้กระทั่งปัญหาสินค้าขาดแคลนระยะสั้น เราก็ต้องปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจเพื่อรับมือกับความท้าทายดังกล่าวที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว จากเดิมที่บราเดอร์มุ่งขยายธุรกิจในส่วนฮาร์ดแวร์ มาเพิ่มในส่วนการขายวัสดุสิ้นเปลือง (consumables) เพิ่มขึ้น" นายธีรวุธ ศุภพันธุ์ภิญโญ สะท้อนถึงการปรับตัวทางธุรกิจของ บราเดอร์ตลอดช่วง 2 ปีที่ผ่านมา

ด้านมุมมองของบราเดอร์ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2565 ต่อภาพรวมธุรกิจไอทีไทยนั้น นายธีรวุธคาดการณ์ว่า โควิด-19 ถือเป็นตัวเร่งให้สังคมไทยก้าวสู่ยุค digital transformation เร็วยิ่งขึ้น และแน่นอนว่าย่อมส่งผลดีต่อภาพรวมธุรกิจไอทีโดยรวมเช่นกัน บทพิสูจน์ที่เห็นชัดคือการเติบโตของบราเดอร์ ประเทศไทยหลังสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลาย แม้ภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศจะยังชะลอตัว แต่เรายังสามารถสร้างอัตราการเติบโตได้เพิ่มขึ้นและมียอดขายสูงสุดในอาเซียน เป็นเครื่องยืนยันได้ว่า ณ ปัจจุบัน สังคมไทยได้ก้าวสู่สังคมแห่งโลก digital transformation อย่างเต็มตัว

ทั้งนี้ อุปสรรคที่ภาคธุรกิจต้องนำมาทบทวนและปรับกลยุทธ์เพื่อรับมือ คือปัญหาเรื่องต้นทุนที่เพิ่มขึ้นซึ่งสวนทางกับรายได้ของผู้บริโภคในปัจจุบัน นายธีรวุธแสดงความเห็นต่อประเด็นดังกล่าวว่า บราเดอร์ยังเชื่อมั่นว่าสินค้าไอทียังคงเป็นกลุ่มสินค้าที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ ทั้งในส่วนภาคครัวเรือน ภาคธุรกิจ ตลอดจนภาครัฐหรือองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ก็ล้วนให้ความสำคัญเช่นกัน สิ่งที่เราพบคือช่วง 2 ปีที่ผ่านมา กระแส work from home ทำให้ยอดขายสินค้าไอทีที่ตอบโจทย์ภาคครัวเรือน (home use) เติบโตขึ้นอย่างมาก แต่ปัจจุบันการกลับมาของตลาดกลุ่มองค์กรและภาครัฐก็เริ่มเห็นชัดเจนขึ้นเช่นกัน บราเดอร์จึงต้องพร้อมในการปรับแผนเพื่อรับมือกับตลาดที่มีการปรับเปลี่ยนอย่างรวดเร็วนี้อยู่เสมอ ซึ่งเชื่อว่าการเติบโตในตลาดกลุ่มภาครัฐและองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ในช่วงไตรมาส 3 ของปี 2565 จะเติบโตมากขึ้นเพื่อรองรับการกลับเข้าสู่การทำงานตามปกติหลังจากที่ตลาดดังกล่าวชะลอตัวในช่วงโควิด-19

"ในปีนี้นอกเหนือจากเป้าหมายที่จะสร้างการเติบโตทางธุรกิจของสินค้าเส้นเลือดหลักอย่างเครื่องพิมพ์แล้ว บราเดอร์ยังมุ่งสร้างการเติบโตทางธุรกิจของกลุ่มสินค้า non print ที่บราเดอร์เรียกกลุ่มธุรกิจนี้ว่า BX (business expansion) เพราะช่วงที่ผ่านมาเราเห็นศักยภาพของตลาดกลุ่มนี้ที่ยังมีโอกาสทางธุรกิจอีกมาก หากเราทำตลาดได้ตรงตามความต้องการ ที่สำคัญอีกประการคือบราเดอร์จะเดินหน้าสานต่อการส่งมอบความคุ้มค่าให้แก่ผู้บริโภค ดังเช่นที่เราพยายามให้ความรู้แก่ผู้บริโภคเกี่ยวกับความคุ้มค่าที่จะได้รับจากการเลือกใช้หมึกแท้ที่นอกจากจะทำให้เครื่องพิมพ์สามารถใช้งานได้ในระยะยาวแล้ว เรายังสื่อสารให้เห็นว่าหมึกแท้นั้นมีการกำหนดปริมาณการพิมพ์ไว้อย่างชัดเจน เพราะเวลาผู้บริโภคซื้อจะไม่เห็นปริมาณหมึก หากมองที่ราคาเป็นตัวตั้งผลลัพธ์ที่ได้อาจไม่คุ้มค่า" นายธีรวุธ กล่าวเสริม

นอกจากนี้ การปรับตัวของบุคลากรก็เป็นส่วนสำคัญที่บราเดอร์มุ่งมั่นให้เกิดการทำงานเชิงสร้างสรรค์ ฉีกกรอบและสร้างวิธีคิดในการทำงานใหม่ๆ โดยนายธีรวุธกล่าวสรุปในส่วนนี้ว่า การเปิดกว้างให้พนักงานสามารถแสดงความสามารถด้านการทำงานนอกเหนือจากส่วนงานที่ตนรับผิดชอบ เป็นเรื่องที่บราเดอร์สนับสนุนมาโดยตลอด เพราะการไม่ปิดกั้นดังกล่าวทำให้องค์กรได้รับความคิดเห็นใหม่ๆ แม้เราต้องเผชิญอุปสรรคต่างๆ มากมายตลอด 2 ปีที่ผ่านมา แต่ความคิดใหม่ๆ เหล่านี้ จะเป็นตัวจุดประกายให้เกิดการปรับ เปลี่ยนแผนงานได้อย่างเหมาะสม เรามองว่าบุคคลากรคือสินทรัพย์ที่สำคัญที่สุด หากเรามีบุคลากรที่มากด้วยคุณภาพแล้ว การขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคตก็ไม่ใช่อุปสรรค์อีกต่อไป

ที่มา: โฟว์ดี คอมมิวนิเคชั่น

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๙:๕๕ ดร.เอ้ สุดยอดผู้นำด้าน AI เชื่อมั่น รพ.พระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร จะปฏิวัติการแพทย์ไทย ด้วย AI พร้อมความตั้งใจอันแน่วแน่
๐๙:๐๓ รมว.นฤมล ผลักดันกฎระเบียบว่าด้วยสินค้าที่ปลอดจากการตัดไม้ทำลายป่าของสหภาพยุโรป (EUDR)
๐๙:๑๖ เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ ร่วมกับ สภากาชาดไทย ชวนร่วมบริจาคโลหิต 26 ธันวาคมนี้ ชั้น 7 โซน A เพิ่มโลหิต เพิ่มชีวิต
๐๙:๔๗ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จัดเต็ม!! ลงพื้นที่เร่งลดความเหลื่อมล้ำ สร้างโอกาส สร้างชีวิตแก่ชาวหนองคายอย่างยั่งยืน
๐๙:๕๕ มูลนิธิอายิโนะโมะโต๊ะ ส่งมอบอาคารโรงอาหารอายิโนะโมะโต๊ะ ให้แก่ โรงเรียนบ้านดอนมะกอก จังหวัดสุราษฎร์ธานี
๐๙:๐๕ กทม. เข้มงวดโครงการก่อสร้างคอนโดฯ ในซอยสุขุมวิท 93 ปฏิบัติตามมาตรการ EIA
๐๙:๕๐ การเคหะแห่งชาติตั้งเป้าสร้างที่อยู่อาศัยรองรับสังคมผู้สูงอายุ
๐๙:๒๘ ทำอย่างไรจึงจะทำให้มีการใช้ generative AI มากขึ้น
๐๙:๔๐ NocNoc จับมือ กฟผ. ส่งความสุขปีใหม่ให้คนรักบ้าน มอบส่วนลดสินค้าประหยัดไฟเบอร์ 5 สูงสุด 500 บาท เมื่อช้อปผ่าน NocNoc Chat Shop ทัก-ช้อป-ลด เริ่ม 25 ธ.ค. 67
๐๙:๑๔ Warrior ตั้ม ศุภกิตติ์ หรือ ตั้ม โทมัส ทอม จากทีมมาสเตอร์ ดร.อั้ม อธิชาติ คว้าชัย The Social Warrior คนแรกของประเทศไทย