นายวิน พรหมแพทย์, CFA ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงานลูกค้าไฮเน็ตเวิร์ธ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "ท่ามกลางความผันผวนทางเศรษฐกิจจากผลกระทบของนโยบายการปรับดอกเบี้ยสกัดเงินเฟ้อซึ่งมีผลต่อตลาดหุ้น กรุงศรีมองว่าการลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือกอย่าง Private Equity เป็นโอกาสที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุน ซึ่งจะช่วยเสริมการลงทุนให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยหากเราดูตัวเลขสถิติย้อนหลังที่ทางกรุงศรีและแบล็คร็อคเห็นสอดคล้องกันคือโดยส่วนมากสินทรัพย์ทางเลือกจะให้ผลตอบแทนที่ผันผวนน้อยกว่าสินทรัพย์ประเภทอื่นๆ โดยเฉพาะหุ้น และมีค่าความสัมพันธ์ (Correlation) ต่ำเมื่อเทียบกับสินทรัพย์แบบเดิม นั่นหมายความว่าหากนักลงทุนสามารถเติมสินทรัพย์ทางเลือกเข้ามาในพอร์ตการลงทุนจะมีโอกาสลดความเสี่ยงและสร้างผลตอบแทนได้เพิ่มขึ้น ดังนั้นธนาคารกรุงศรีอยุธยา และ บลจ. กรุงศรี จึงได้เลือกนำเสนอกองทุนที่จะช่วยให้นักลงทุนเข้าถึงการลงทุนใน Private Equity คุณภาพสูง ภายใต้ชื่อ กรุงศรีไพรเวทแคปปิตอลระยะยาว-ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย (KFLTPC-UI) เป็นทางเลือกสำหรับนักลงทุน ที่สำคัญกองทุนนี้จะลงทุนผ่าน BlackRock Long Term Private Capital, SCSp ซึ่งเป็นกองทุนหลักของแบล็คร็อค พันธมิตรระดับโลกของกรุงศรี ที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์การลงทุนใน Private Equity มาอย่างยาวนานมาบริหารกองทุน ทั้งนี้ กองทุนหลัก ซึ่งก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2562 สามารถทำผลตอบแทนสะสมได้สูงถึง 1.52 เท่าของเงินลงทุน และในปีนี้ ท่ามกลางตลาดหุ้นที่ผันผวน กองทุนหลักทำผลตอบแทนในไตรมาสแรก ได้ -0.53% นับว่าทำได้ดีกว่าผลตอบแทนของหุ้นที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์"
นางสุภาพร ลีนะบรรจง กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด (บลจ. กรุงศรี) เปิดเผยว่า "กองทุนเปิดกรุงศรีไพรเวทแคปปิตอลระยะยาว-ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย (KFLTPC-UI) ลงทุนผ่านกองทุนหลัก BlackRock Long Term Private Capital, SCSp ซึ่งมีเป้าหมายในการสร้างการเติบโตของเงินลงทุนจากการคัดเลือกบริษัทที่มีคุณภาพสูง ที่คาดว่าจะให้ผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้นอย่างสม่ำเสมอ"
"กองทุนหลักจะใช้กลยุทธ์การลงทุนโดยตรงและการเข้าไปมีอำนาจควบคุมหรือร่วมควบคุมในโครงสร้างการถือหุ้นของบริษัทในฐานะ 'Active owner' เพื่อเพิ่มขีดความสามารถและสร้างมูลค่าของธุรกิจให้ดียิ่งขึ้นด้วยทีมงานที่แข็งแกร่งของแบล็คร็อคที่เชี่ยวชาญในการค้นหาบริษัท การวิเคราะห์ข้อมูลในเชิงลึก และการระดมแนวคิดในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับบริษัท รวมทั้งมีพันธมิตรในหลากหลายอุตสาหกรรมที่จะช่วยให้คำปรึกษากับทีมผู้บริหารของบริษัทที่ลงทุน พอร์ตเป้าหมายของกองทุนคือการลงทุนใน 10-15 บริษัทที่มีศักยภาพในกลุ่มอุตสาหกรรม Consumer, Financial Services, Technology, Media and Telecom, Healthcare, Industrials และ Business Services โดยจะเน้นที่อเมริกาและยุโรปเป็นหลัก"
กองทุนเปิดกรุงศรีไพรเวทแคปปิตอลระยะยาว-ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย หรือ KFLTPC-UI ถือเป็นทางเลือกที่เปิดโอกาสให้นักลงทุนรายใหญ่พิเศษที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์ของ กลต.ได้ร่วมลงทุนใน Private Equity ไปพร้อมกับนักลงทุนสถาบันเริ่มเสนอขายครั้งแรกระหว่างวันที่ 25 ก.ค. - 8 ส.ค. 65 นี้ ด้วยเงินลงทุนครั้งแรกขั้นต่ำ 1 ล้านบาท
สอบถามรายละเอียดข้อมูลกองทุนเพิ่มเติมพร้อมขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ บลจ. กรุงศรี จำกัด โทร. 02-657-5757 เว็บไซต์ www.krungsriasset.com หรือ ธนาคารกรุงศรีอยุธยาทุกสาขา
- ควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน
- ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวมมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
- กองทุนนี้เป็นกองทุนรวมที่มีความเสี่ยงสูงหรือซับซ้อน ผู้ลงทุนควรขอคำแนะนำเพิ่มเติมก่อนทำการลงทุน
- กองทุนนี้ไม่ถูกจำกัดความเสี่ยงด้านการลงทุนเช่นเดียวกับกองทุนรวมทั่วไป จึงเหมาะกับผู้ลงทุนที่รับผลขาดทุนระดับสูงได้เท่านั้น
- ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อยกองทุนรวมสำหรับผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่พิเศษเท่านั้น กองทุนรวมที่มีความเสี่ยงสูงหรือมีความซับซ้อน
นโยบายการลงทุนของกองทุน KFLTPC-UI
- ลงทุนในกองทุนรวมต่างประเทศ BlackRock Long Term Private Capital, SCSp (กองทุนหลัก) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชี ? 80% ของ NAV
- ระดับความเสี่ยง 8+ เสี่ยงสูงอย่างมีนัยสำคัญ | กองทุนป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน จึงมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งอาจทำให้ผู้ลงทุนขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ (โดยปกติกองทุนจะป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ย 80% ของมูลค่าเงินลงทุนในต่างประเทศ)
เกี่ยวกับกรุงศรี
กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ) เป็นกลุ่มธุรกิจการเงินที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 5 ของไทยด้านสินทรัพย์ สินเชื่อ และเงินฝาก และเป็นหนึ่งในหกสถาบันการเงินที่มีความสำคัญเชิงระบบ (D-SIB) โดยดำเนินธุรกิจมานานถึง 77 ปี กรุงศรีเป็นบริษัทในเครือของมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG) กลุ่มสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น และเป็นหนึ่งในกลุ่มสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดระดับโลก กลุ่มกรุงศรีให้บริการทางการเงินการธนาคารอย่างครบวงจร ทั้งในด้านสินเชื่อเพื่อรายย่อย การลงทุน การบริหารจัดการกองทุน รวมทั้งผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินอันหลากหลายแก่กลุ่มลูกค้าบุคคล ลูกค้า SME และลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ ผ่านสาขาของธนาคารกว่า 629 สาขา (เป็นสาขาที่ให้บริการทางการเงินในรูปแบบปกติ 590 สาขาและสาขาที่ให้บริการเฉพาะสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ 39 สาขา) และช่องทางการขายกว่า 34,258 แห่งทั่วประเทศ นอกจากนี้ กรุงศรียังเป็นผู้ออกบัตรเครดิตรายใหญ่ที่สุดของประเทศ โดยมีจำนวนบัญชีบัตรเครดิตและสินเชื่อเพื่อการผ่อนชำระ/สินเชื่อส่วนบุคคลมากกว่า 9.7 ล้านบัญชี และเป็นผู้ให้บริการด้านสินเชื่อรถยนต์ชั้นนำ (กรุงศรี ออโต้) พร้อมทั้งมีบริษัทบริหารจัดการกองทุนที่มีอัตราเติบโตสูงที่สุดแห่งหนึ่ง (บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนกรุงศรี จำกัด) ทั้งยังเป็นผู้บุกเบิกธุรกิจสินเชื่อเพื่อผู้มีรายได้น้อย (บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน)) อีกด้วย
กรุงศรีมีพันธสัญญาในการดำเนินธุรกิจด้วยความซื่อสัตย์สุจริตอย่างสูงสุด ธนาคารและบริษัทในเครือได้ผ่านการรับรองการเป็นสมาชิกอย่างสมบูรณ์ของ "แนวร่วมปฏิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านทุจริต" โดยมุ่งร่วมมือกับองค์กรชั้นนำในไทยและผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียของธนาคาร เพื่อให้การดำเนินธุรกิจปราศจากการทุจริตคอร์รัปชั่น
เกี่ยวกับบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด (บลจ.กรุงศรี) เป็นหนึ่งในบริษัทจัดการกองทุนชั้นนำของประเทศไทย ได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ นำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการการลงทุนประเภทต่างๆ ได้แก่ กองทุนรวม กองทุนส่วนบุคคล กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และการจัดการลงทุนสัญญาซื้อขายล่วงหน้า กองทุนรวมของบริษัทมีความหลากหลายให้ลูกค้าเลือกลงทุนได้แก่ กองทุนตราสารทุน กองทุนตราสารหนี้ กองทุนดัชนีสินค้าโภคภัณฑ์ กองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศ (FIF) และ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์
ปัจจุบัน บลจ.กรุงศรี มีผู้ถือหุ้นรายใหญ่คือ บมจ. ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ซึ่งเป็นธนาคารชั้นนำของประเทศไทย อีกทั้ง การที่ธนาคารได้ผนึกกำลังกับธนาคารแห่งโตเกียว มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ตั้งแต่ปลายปี 2556 ถือเป็นโอกาสที่ดีของบริษัทที่จะขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มลูกค้าทั้งนิติบุคคลและลูกค้าบุคคลธรรมดารายใหญ่ของธนาคารแห่งโตเกียว มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ซึ่งบริษัทมีความเชื่อมั่นว่าจะสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการเติบโตตลอดจนเสริมความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ บลจ.กรุงศรี กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.krungsriasset.com
เกี่ยวกับมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG)
มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG) เป็นหนึ่งในกลุ่มสถาบันทางการเงินชั้นนำระดับโลก มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ ณ กรุงโตเกียว ด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานในการดำเนินธุรกิจกว่า 360 ปี MUFG มีเครือข่ายสำนักงานราว 2,400 แห่ง ในกว่า 50 ประเทศทั่วโลกและมีพนักงานกว่า 170,000 คน MUFG นำเสนอบริการทางการเงินที่หลากหลายครอบคลุมทั้งธุรกิจธนาคารพาณิชย์ ทรัสต์แบงก์กิ้ง ธุรกิจหลักทรัพย์ ธุรกิจบัตรเครดิต ธุรกิจสินเชื่อเพื่อรายย่อย ธุรกิจหลักทรัพย์จัดการกองทุน ธุรกิจเช่าซื้อ MUFG มีเป้าหมายที่จะเป็น "กลุ่มสถาบันทางการเงินที่ได้รับความเชื่อถือมากที่สุดในโลก" ด้วยการผสานศักยภาพในการดำเนินธุรกิจเพื่อตอบสนองทุกความต้องการทางการเงินของลูกค้าโดยคำนึงถึงสังคมและการแบ่งปัน สู่ความเติบโตอย่างยั่งยืน MUFG จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์โตเกียว ตลาดหลักทรัพย์นาโกยา และตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ MUFG กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ https://www.mufg.jp/english
ที่มา: ธนาคารกรุงศรีอยุธยา