ดร.ธีรญา กฤษฎาพงษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สเปเชี่ยลตี้ เนเชอรัล อินโนเวชั่น จำกัด (SNI) กล่าวว่า "ในช่วงที่ผ่านมาถึงเศรษฐกิจในภาพรวมจะมีความไม่แน่นอนสูง แต่เราอยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมสุขภาพและความงามซึ่งตอบโจทย์ Mega trend ไม่ว่าจะเป็นการหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของผู้บริโภค การเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุของหลายประเทศทั่วโลก บริษัทจึงมีการเติบโตอย่างมากสอดคล้องกับกระแสการบริโภคสินค้ากลุ่มเวชสำอาง อาหารเสริม และผลิตภัณฑ์สมุนไพร (ผลิตภัณฑ์จากสมุนไพร, ยาแผนไทย, ยาพัฒนาจากสมุนไพร) ทำให้บริษัทขยายกำลังการผลิตสินค้ากว่า 2 เท่าในปีที่ผ่านมา อีกทั้งบริษัทยังได้ผลิตสินค้ากว่า 1,000 รายการ ซึ่งเป็นทั้งการผลิตผลิตภัณฑ์ของลูกค้าที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง และผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาขึ้นใหม่ โดยบริษัทยังคงเล็งเห็นศักยภาพในการเติบโต เตรียมขยายงานในหลายด้าน ทั้งด้านการนำงานวิจัยมาใช้ การวิจัยร่วมกับหน่วยงานต่างๆ การพัฒนาผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์นวัตกรรม การนำเทคโนโลยีมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ตลอดไปจนถึงการบริหารจัดการด้านการผลิตและการส่งมอบ โดยเรามีการบริหารจัดการทุกบริษัทในกลุ่ม SNI ให้สามารถรองรับความต้องการผลิตสินค้าสุขภาพและความงามภายใต้แบรนด์ลูกค้า"
ทางด้านการขยายกำลังการผลิต บริษัทเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต และเพิ่มความแข็งแกร่งของ supply chain ลดความสูญเสีย ลดความผิดพลาดในกระบวนการผลิต ทำให้เราสามารถปรับตัวในสภาวะผันผวนของต้นทุน และพัฒนาประสิทธิภาพการผลิตอย่างต่อเนื่อง รองรับความต้องการของตลาดในประเทศและตลาดโลก พร้อมทั้งยังคงตอบรับกับความต้องการผลิตของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นปริมาณขั้นต่ำในการสั่งผลิตที่สามารถเริ่มต้นที่จำนวนไม่มาก พัฒนาผลิตภัณฑ์และผลิตเป็นสินค้าสำเร็จรูปในระยะเวลาที่สั้นลง ทำให้ผู้ว่าจ้างผลิตสามารถออกสินค้าสู่ตลาดได้อย่างทันท่วงที รวมไปถึงการพัฒนาสินค้านวัตกรรมใหม่ๆ เช่น อาหารเสริมประเภทเจลลี่ แผ่นมาสก์ในรูปแบบต่างๆไม่ว่าจะเป็นแผ่นมาสก์ที่เห็นกันทั่วไป แผ่นแบบ hydrogel หรือแผ่นมาสก์ที่มีการนำเทคโนโลยี micro needle มาใช้ ทำให้ลูกค้าที่สั่งผลิตสินค้ากับ SNI เหนือกว่าคู่แข่งด้วยนวัตกรรมด้านการผลิตที่มีประสิทธิภาพ
"กลุ่มบริษัท SNI ประกอบด้วย บริษัท สเปเชี่ยลตี้ เนเชอรัล โปรดักส์ จำกัด (SNP) เป็นโรงงานสกัดสมุนไพรไทย และเป็นโรงงานแห่งแรกๆที่มีการควบคุมปริมาณของสารออกฤทธิ์ในสมุนไพรไทย ซึ่งสามารถใช้ในวงการแพทย์ และได้รับการรับรองมาตรฐานระดับสากล ซึ่งปัจจุบันนี้ SNP มีสารสกัดสมุนไพรกว่า 300 ชนิด พร้อมด้วยกำลังการผลิตวัตถุดิบซึ่งเป็นสารสกัดกว่า 244 ตันต่อปี และอีกหนึ่งแรงขับเคลื่อนใหญ่ในกลุ่มบริษัทคือ บริษัทสเปเชียลตี้ อินโนเวชั่น จำกัด (SI) ที่มีวัตถุประสงค์หลักในการประกอบธุรกิจเพื่อพัฒนาและผลิตสินค้าภายใต้แบรนด์ลูกค้า (OEM,ODM) ซึ่งล่าสุดเราได้รับการรับรองมาตรฐาน FSSC22000 เป็นมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับจาก Global Food Safety Initiative (GFSI) เป็นหนึ่งในไม่กี่มาตรฐานที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก และด้วยศักยภาพในการผลิตสินค้าสำเร็จรูปกว่า 1.5 ล้านชิ้นต่อเดือน ทำให้บริษัทสเปเชียลตี้ อินโนเวชั่น จำกัด (SI) สามารถรองรับลูกค้าที่ต้องการขยายตลาดส่งออกไปยังประเทศต่างๆ ทั้งฝั่งยุโรปและอเมริกาได้ นอกจากในแง่ของผลิตภัณฑ์แล้ว SNI ได้มีการร่วมทุนกับ KANAE Japan Co. Ltd. จากประเทศญี่ปุ่น บริษัท คาเน ประเทศญี่ปุ่น เป็นผู้ให้บริการในหลากหลายสาขาธุรกิจ ได้แก่ ยา ของใช้ส่วนตัว เครื่องสำอาง อุตสาหกรรมอาหาร และอุปกรณ์ทางการแพทย์ เราได้นำองค์ความรู้และเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยในการทำบรรจุภัณฑ์สำหรับไลฟ์สไตล์สมัยใหม่ บรรจุภัณฑ์คาเนเป็นบรรจุภัณฑ์รูปแบบซองฟอยล์ที่สามารถยืดหยุ่นไปตามเนื้อของผลิตภัณฑ์ มีคุณสมบัติปกป้องผลิตภัณฑ์จากความชื้น อากาศ และแสงที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายกับเนื้อผลิตภัณฑ์ได้ เหมาะกับผลิตภัณฑ์ที่มีความไวต่อการเกิดปฎิกิริยาทางเคมี เช่น วิตามินบางชนิด หรือ กลุ่มจุลินทรีย์ อย่างโพรไบโอติกส์หรือพรีไบโอติกส์" ดร. ธีรญา กล่าวเสริม
"ทั้งนี้การเติบโตของ SNI ไม่ว่าในด้านใดเรายังคงมุ่งมั่นเรื่อง BCG (Bio-Circular-Green Economy) เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม สุขภาพที่ดีของผู้บริโภค และพร้อมจะเป็นส่วนช่วยผู้ประกอบการให้ประสบความสำเร็จและเหนือกว่าคู่แข่งในตลาดสินค้าอาหารเสริม" ดร. ธีรญา ทิ้งท้าย
ที่มา: คิปส์ คอมมูนิเคชั่น