ห้องอาหาร ไหม เรสเตอร์รองท์ แอนด์ บาร์ ตั้งอยู่บนห้องอาหารบนชั้น 21 ของโรงแรม ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับ เดอะ เลเวล เลาจน์ (The Level Lounge) ถือเป็นชั้นสูงสุดของอาคาร และเหนือห้องอาหาร ไหม เรสเตอร์รองท์ แอนด์ บาร์ จะเป็นที่ตั้งของ ไหม เดอะ สกาย บาร์ (Mai The Sky Bar) บาร์บนยอดอาคารที่สูงที่สุดในเมืองเชียงใหม่ที่มีกำหนดเปิดให้บริการเร็ว ๆ นี้
ห้องอาหาร ไหม เรสเตอร์รองท์ แอนด์ บาร์ ได้รับการตกแต่งอย่างงดงามโดยนำศิลปะวัฒนธรรมอันงดงามของเชียงใหม่มาเป็นส่วนประกอบ ไม่ว่าจะเป็นโคมไฟบนเพดานของห้องอาหารที่ออกแบบโดยนำโครงสร้างของร่มบ่อสร้างมาเป็นแรงบันดาลใจ ผนังห้องอาหารก็ถูกประดับประดาไปด้วยงานศิลปะที่ใช้รูปแบบของร่มบ่อสร้างมาสรรสร้างชิ้นงาน รวมไปถึงงานศิลปะที่รังสรรค์จากผ้าโบราณที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นเครื่องแต่งกายชาวเขาที่อาศัยอยู่ทางตอนเหนือของประเทศไทย
"เชียงใหม่เป็นเมืองที่มีร้านอาหารท้องถิ่นซึ่งให้บริการอาหารเลิศรสมากมาย ดังนั้นเรารู้ตั้งแต่เริ่มแรกแล้วว่า ห้องอาหาร ไหม เรสเตอร์รองท์ แอนด์ บาร์ จะต้องเป็นห้องอาหารที่ไม่เพียงให้บริการอาหารที่รสชาติเยี่ยมเท่านั้น แต่ยังต้องสร้างประสบการณ์ที่แตกต่างด้วยการบริการที่น่าประทับใจ และบรรยากาศในห้องอาหารที่ได้รับการตกแต่งอย่างสวยงาม สามารถเป็นจุดเช็คอินชมทิวทัศน์อันงดงามของแม่น้ำปิง ทิวเขาโดยรอบเมืองเชียงใหม่ และวัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหารที่ตั้งอยู่บนดอยสุเทพ" มร. เอ็ดเวิร์ด สนุ๊ก ผู้จัดการทั่วไป โรงแรม มีเลีย เชียงใหม่ กล่าว
"ประเภทอาหารที่ให้บริการที่ ห้องอาหาร ไหม เรสเตอร์รองท์ แอนด์ บาร์ นั้นเป็นอาหารไทยภาคเหนือแบบล้านนาร่วมสมัยที่มีกลิ่นอายของอาหารเมดิเตอร์เรเนียน อาหารทุกจานจะผ่านการคิดอย่างละเอียด ทั้งขั้นตอนการปรุงอาหาร และการเลือกใช้ผลผลิตจากฟาร์มออร์แกนิคของโรงแรม ทั้งนี้เพื่อการส่งเสริมการรับประทานอาหารอร่อยสดใหม่จากวัตถุดิบท้องถิ่นเพื่อสุขภาพที่ดี ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด และมีส่วนช่วยพัฒนาการเกษตรให้เติบโตแบบยั่งยืนตามแนวคิดโปรแกรมครัว 360 องศา" มร. เอ็ดเวิร์ด สนุ๊ก กล่าวเสริม
เชฟ สุขสันต์ ชุตินธราทิพย์ หรือ "เชฟ บิลลี่" หัวหน้าพ่อครัวใหญ่ (Executive Chef) และ เชฟ ก้าน โพธิ์จัน รองหัวหน้าพ่อครัว (Sous Chef) ได้ร่วมกันรังสรรค์อาหารไทยภาคเหนือแบบล้านนาร่วมสมัยที่มีกลิ่นอายของอาหารเมดิเตอร์เรเนียนจากวัตถุดิบตามฤดูกาล เพื่อให้บริการที่ ห้องอาหาร ไหม เรสเตอร์รองท์ แอนด์ บาร์ อาหารแนะนำได้แก่ ออเดิร์ฟไหม หรือ Mai's Samplers ที่ประกอบไปด้วยอาหารขนาดพอดีคำ 5 ชนิดแสนอร่อย ได้แก่ ไส้อั่ว น้ำพริกหนุ่มหนังปลาแซลมอน สลัดโรลดอกไม้กินได้ น้ำพริกอ่องตอติลญ่า และยำส้มโอกับปลาดุกฟู ส่วนข้าวซอยเส้นพัพพาร์เดลล์เล่กับเนื้อสันนอกลนไฟ เสิร์ฟกับผักดองเป็นเครื่องเคียง ถือเป็นอาหารพิเศษที่ต้องลองเพราะเป็นอาหารสร้างสรรค์จาก "ข้าวซอย" อาหารท้องถิ่นที่ทุกคนโปรดปรานเมื่อมาเยือนเชียงใหม่ แต่ใช้เส้นพัพพาร์เดลล์เล่ เส้นพาสต้าขนาดใหญ่ที่มักใช้ทำอาหารแบบตะวันตกทดแทนเส้นข้าวซอย ราดซอสที่ทำจากเครื่องแกงข้าวซอยรสชาติเข้มข้นตามตำรับชาวไทยภาคเหนือ นอกจากนั้นยังมีปลาแซลมอนเทราต์อบ เสิร์ฟกับน้ำพริกอ่องพริกระฆัง ผัดผักเชียงดา และข้าวหอมมะลิกลิ่นใบเตย เป็นอาหารแนะนำลูกผสมระหว่างอาหารไทยภาคเหนือและอาหารเมดิเตอร์เรเนียนได้อย่างลงตัว
เมนูอาหารถูกแบ่งประเภทเป็นอาหารมังสวิรัติ อาหารประเภทเนื้อ และอาหารที่มีส่วนประกอบของอาหารทะเล ซึ่งมีอาหาร 12 จานที่เป็นอาหารตามแนวคิดโปรแกรมครัว 360 องศา ที่เชฟรังสรรค์อาหารแต่ละจานโดยมีเป้าหมายเพื่อลดการเกิดขยะและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เชฟเลือกใช้วัตถุดิบจากออริจิ้น เดอะกัวร์เม่ ฟาร์ม (ORI9IN The Gourmet Farm) ฟาร์มออร์แกนิคซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากโรงแรม และแต่ละขั้นตอนการปรุงอาหารเชฟจะพยายามใช้ทุกส่วนของวัตถุดิบให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้มาปรุงอาหาร เศษอาหารทั้งที่เหลือจากการปรุงอาหารและการรับประทานจะถูกส่งกลับไปที่ฟาร์มเพื่อทำเป็นปุ๋ยหมัก
เชฟ บิลลี่ หัวหน้าพ่อครัวใหญ่ เป็นเชฟที่มีประสบการณ์ด้านงานครัวมานานกว่า 28 ปี เริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ. 2537 โดยร่วมงานกับโรงแรมที่มีชื่อเสียงหลายแห่งทั้งในกรุงเทพฯ และต่างประเทศ ร่วมไปถึงโรงแรม โลตัส วัน (Lotus One) ที่ ดูไบ และ โรงแรม รัฟเฟิล (Raffles) ที่ประเทศสิงค์โปร์
ส่วนเชฟ ก้าน รองหัวหน้าพ่อครัว นั้นได้เริ่มงานกับ โรงแรม มีเลีย เชียงใหม่ตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว โดยก่อนที่จะร่วมงานกับโรงแรม มีเลีย เชียงใหม่ในครั้งนี้ เชฟ ก้าน เคยร่วมงานกับห้องอาหารบ้านสุริยศัย และ ห้องอาหารเสน่ห์จันทร์ ซึ่งเป็นห้องอาหารที่ถูกแนะนำในคู่มือแนะนำร้านอาหารและที่พักระดับโลก 'มิชลิน ไกด์' ประเทศไทย และเมื่อย้อนไปในปี พ.ศ. 2536 เชฟ ก้าน เคยทำงานกับห้องอาหารไทย มหานากา ในตำแหน่ง เชฟ เดอ ปาร์ตีย์ (Chef de Partie) ซึ่งหลังจากนั้น เชฟ ก้านก็ได้มีโอกาสเดินทางไปที่ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ เพื่อร่วมงานกับห้องอาหาร พัทรา ซึ่งเป็นห้องอาหารไทยที่ถูกแนะนำในคู่มือแนะนำร้านอาหารและที่พักระดับโลก 'มิชลิน ไกด์' เช่นกัน
ห้องอาหารไหม เรสเตอร์รองท์ แอนด์ บาร์ ตั้งอยู่ที่ชั้น 21 ของโรงแรม มีเลีย เชียงใหม่ เปิดให้บริการ วันพุธ ถึง วันอาทิตย์ เวลา 18.00 น ถึง 22.00 น. ให้บริการเมนูอาหารไทยภาคเหนือที่มีกลิ่นอายของอาหารเมดิเตอร์เรเนียน ราคาเริ่มต้นจานละ 190 บาท
สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือสำรองที่นั่งโทร 052 090 603 หรืออีเมล [email protected]
ราคายังไม่รวมค่าบริการ 10% และภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%
ที่มา: โรงแรม มีเลีย เชียงใหม่
