โดยไตรมาส 1 ทำรายได้อยู่ที่ 165.8 ล้านบาทและไตรมาส 2 อยู่ที่ 254.5 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่มาจากโครงการคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ Bangkok Horizon Lite @ สถานีเพชรเกษม 48 และ The Cuvee ติวานนท์ และยังมีห้องจ่อคิวรอโอนต่อเนื่องในช่วงไตรมาส 3 อีกกว่า 500 ล้านบาท โดยบางส่วนมาจากการซื้อ Big Lot ของโครงการ The Excel รัชดา 18 ทางด้านโครงการพรีเซลล์ Cerocco บางนา 36 ท็อปฟอร์ม Sold Out แล้ว 2 อาคาร กวาดยอด Backlog ไปแล้วกว่า 500 ล้านบาท ซึ่งจากการปรับกลยุทธ์การตลาดใหม่ ทำให้เข้าถึงกลุ่ม Real Demand ยิ่งขึ้น พร้อมกับการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการต้นทุน ส่งผลให้ผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2565 รายได้รวมของกลุ่มบริษัทเติบโตสูงขึ้น 28.1% หรือ 73.7 ล้านบาท โดยเพิ่มจาก 262.7 ล้านบาทในไตรมาส 1 มาอยู่ที่ 336.4 ล้านบาทในไตรมาส 2 โดยเป็นการเติบโตจากกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นธุรกิจหลัก สามารถทำให้กลุ่มบริษัทพลิกกลับมาทำกำไรได้ 2.8 ล้านบาท
แม้ในครึ่งปีแรก CMC จะยังคงต้องเผชิญกับปัจจัยในเรื่องเศรษฐกิจชะลอตัวและได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่อย่างไรก็ตาม CMC ยังเชื่อมั่นว่าธุรกิจอสังหาฯ จะกลับมาฟื้นตัวในครึ่งปีหลัง เนื่องจากบ้านยังคงเป็นปัจจัย 4 ในการดำรงชีวิต โดย CMC มีแผนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ให้สอดรับกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป พร้อมกับนำฟังก์ชั่นและนวัตกรรมเทคโนโลยีใหม่ ยกระดับการอยู่อาศัยให้ทันสมัยมากยิ่งขึ้น เพื่อช่วยกระตุ้นการตัดสินใจให้กับผู้บริโภคเสริมปัจจัยหลักการตัดสินใจในเรื่องทำเล-ราคา"
นายแพทย์วิเชียร กล่าวเพิ่มเติมว่า "ในครึ่งปีหลัง CMC ลุยเปิดตัว 3 โครงการใหม่ เจาะตลาดคนรุ่นใหม่ในราคาเข้าถึงง่าย เริ่มต้นไม่เกิน 2 ล้านบาท ได้แก่ โครงการทาวน์โฮม Kasa Deva Westgate ทาวน์โฮม 2 ชั้น แบบหน้ากว้าง ทำเลบ้านกล้วย-ไทรน้อย มูลค่ากว่า 500 ล้านบาท โครงการคอนโดมิเนียม The Cuvee Nawamin ทำเลนวมินทร์-รามคำแหง อาคารสูง 35 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 665 ยูนิต มูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท และโครงการคอนโดมิเนียม The Cuvee Suksawat ทำเลสุขสวัสดิ์-พระราม 3 อาคารสูง 40 ชั้น 1 อาคาร อาคารจอดรถ 8 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 828 ยูนิต มูลค่ากว่า 2,100 ล้านบาท รวมมูลค่าโครงการกว่า 4,600 ล้านบาท"
ที่มา: เจ้าพระยามหานคร