นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ JMART เปิดเผยว่า ผลประกอบการงวดประจำไตรมาส 2/2565 (เมษายน - มิถุนายน 2565) กำไรสุทธิอยู่ที่ 389 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 68% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และมีรายได้รวมอยู่ที่ 3,272 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24% ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 34% อัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 11% ปรับตัวสูงขึ้นจากปีที่ผ่านมา จากผลงานทุกบริษัทในกลุ่มสามารถเดินตามเป้าหมาย พิสูจน์ฝีมือแม้ภายใต้สถานการณ์วิกฤติแต่ไร้กังวล ด้วยจุดแข็ง Strong Synergy & Ecosystem ที่ครบวงจร ทั้งด้านธุรกิจ Retail - Finance - Technology ทำให้พูดได้อย่างมั่นใจว่า เจมาร์ทแข็งแรงที่สุดแล้ววันนี้ในธุรกิจของเรา
โดย JMT เป็นหัวหอกการทำกำไร ด้วยความสามารถจัดเก็บหนี้ Cash Collection ที่ยังสร้างกระแสเงินสดที่มั่นคง และทิศทางครึ่งปีหลังเตรียมซื้อหนี้เข้ามาบริหารได้เพิ่มขึ้น ด้วยพอร์ตที่มีคุณภาพ ประกอบกับ ในช่วงกลางปีที่ผ่านมา JMT ได้แจ้งความคืบหน้าในการจับมือกับธ.กสิกรไทย จัดตั้งบริษัทร่วมทุน ในชื่อ บริษัท เจเค (JK) ลุยธุรกิจเอเอ็มซี คาดความร่วมมือจะสนับสนุนผลดำเนินงานเติบโตต่อเนื่องระยะยาว และแข็งแกร่งในฐานะผู้นำธุรกิจบริหารหนี้ด้อยคุณภาพภาคเอกชนของไทย ด้านธุรกิจ SINGER มีการขยายเครือข่ายตัวแทนขายและแฟรนไชส์สาขาย่อย ทำให้ภาพรวมการขายและการปล่อยสินเชื่อยังคงเป็นไปตามเป้าหมาย ด้วยการรักษา NPL ในระดับต่ำ สะท้อนการจัดการหนี้ที่ดีเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรม สำหรับ JAS ASSET เริ่มสร้างมูลค่าจากโครงการศูนย์การค้าชุมชนในมือ และขยายไปสู่ธุรกิจด้านสุขภาพที่เป็นรากฐานการทำกำไรที่มั่นคงในอนาคต
ขณะที่ Jaymart Mobile ยิ้มรับช่องทางการขายผ่าน Synergy และกำลังเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นในครึ่งปีหลัง สินค้ามือถือ และเทคโนโลยีใหม่ๆ ทยอยเปิดตัว หนุนงบสตรองตามเป้า โดยมีการปล่อยสินเชื่อจาก SINGER และ KBJ เข้ามาเสริมทัพการเติบโต และไฮไลท์จากบริษัท เจ เวนเจอร์ส จำกัด (JVC) บริษัทด้านเทคโนโลยีที่วันนี้ยังซ่อนมูลค่าให้กับกลุ่มบริษัทแบบที่ทุกคนคาดไม่ถึง ล่าสุดสร้างบล็อคเชนเป็นของตัวเอง JFIN Chain ด้วยลักษณะ Proof of Stake Configuration และปีนี้เห็นภาพชัด จากการเริ่มสร้างกำไรและตัวเลขการเติบโตที่มีนัยสำคัญ โดยครึ่งปีแรกนี้ JVC ทำกำไรสุทธิแล้วที่ 7 ล้านบาท มั่นใจจะเป็นบริษัทที่เป็นอนาคตของ JMART ที่ทุกคนต้องจับตา
ทั้งนี้ จากความสำเร็จในไตรมาส 2 ที่ผ่านมา สนับสนุนภาพรวมครึ่งปีแรก 2565 JMART กำไรสุทธิอยู่ที่ 715 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน อย่างไรก็ตามหากไม่รวมกำไรพิเศษในไตรมาส 1/2564 ของการเปลี่ยนแปลงสัดส่วนการถือหุ้นของ KBJ Capital จะมีกำไรสุทธิเติบโต 43% โดยมีรายได้รวมอยู่ที่ 6,784 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23% มองครึ่งปีหลังเติบโตกว่าครึ่งปีแรก และนำเงินที่ได้จากความสำเร็จในการเพิ่มทุนในช่วงปลายปีที่ผ่านมา ใช้สำหรับขยายการเติบโตให้สอดคล้องกับกลยุทธ์หลักในฐานะบริษัทโฮลดิ้งที่มีกลยุทธ์การลงทุนแบบ Technology Investment Holding Company (T-IHC) สนับสนุนเป้าหมายกำไรจะเติบโตในระดับ 50% ต่อเนื่อง 3 ปี นับตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป
และเริ่มเดินเกม Synergy ด้วยการประกาศผนึกพันธมิตรรายใหม่ โดยที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติการเข้าทำสัญญาซื้อขายหุ้นของบริษัท พีอาร์ ทีอาร์ จำกัด (มหาชน) หรือ PRTR ซึ่งเป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจให้บริการจัดหาบุคลากรและให้บริการบริหารทรัพยากรบุคคล (HR Outsourcing) แบบครบวงจร ที่มุ่งเน้นการพัฒนา และนำเทคโนโลยีเข้ามาสนับสนุน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารทรัพยากรบุคคล ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างครบถ้วน มองว่าจะสามารถสร้าง Synergy Ecosystem ทางด้านการค้าปลีกการเงิน และเทคโนโลยี ลุยสร้าง J-Curve เติบโตต่อเนื่องในระยะยาวได้ นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างพูดคุยกับพันธมิตรรายใหม่ๆ เพิ่มเติมอีก
ซึ่ง PRTR อยู่ระหว่างการยื่นขออนุญาตออกและเสนอขายหุ้นที่ออกใหม่เพื่อเสนอขายต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) โดย JMART ตกลงจะซื้อหุ้น PRTR จำนวน 90,000,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 15% ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของ PRTR ภายหลัง IPO จากผู้ถือหุ้นเดิมของ PRTR จำนวน 3 ราย ในราคาเท่ากับราคา IPO โดยบริษัทจะเข้าซื้อหุ้นจำนวนดังกล่าวในวันแรกที่หุ้น PRTR ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยดำเนินการผ่านการซื้อขายหลักทรัพย์รายใหญ่ (Big-Lot Board) และจะดำเนินการชำระค่าหุ้นตามขั้นตอนที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยกำหนด
และเพื่อตอบแทนผู้ถือหุ้น ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานงวดครึ่งปีแรก (มกราคม - มิถุนายน 2565) ในอัตรา 0.45 บาทต่อหุ้น กำหนดวันปิดสมุดทะเบียน (Record Date) ในวันที่ 25 สิงหาคมนี้ และกำหนดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลแก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 9 กันยายน 2565
ที่มา: ไออาร์ พลัส