นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ยื่นแบบแสดงรายงานข้อมูลการเสนอขายตราสารหนี้และร่างหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เพื่อออกและเสนอขายหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ ต่อผู้ลงทุนทั่วไป (Public Offering) โดยหุ้นกู้ที่ออกจำหน่ายครั้งนี้มีทั้งหมด 4 รุ่น ได้แก่ รุ่นอายุ 1 ปี อัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 3.00% ต่อปี รุ่นอายุ 2 ปี อัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 3.50% ต่อปี รุ่นอายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 3.95% ต่อปี และรุ่นอายุ 4 ปี อัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 4.25% ต่อปี โดยจะนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นกู้ในครั้งนี้ ไปใช้ในการชำระคืนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนด และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบธุรกิจและขยายกิจการของบริษัทต่อไป
นายพีระพงศ์ ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า "ในปี 2565 บริษัทฯ มีแผนเปิดตัวโครงการคอนโดใหม่ มากถึง 19 โครงการมูลค่ารวมกว่า 28,600 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้บริษัทฯขึ้นแท่น "เจ้าตลาด" ที่เปิดโครงการคอนโดมากที่สุดในปีนี้ ครอบครุมทุกเซ็กเมนต์ราคาและไลฟ์สไตล์ โดยปีที่แล้วเป็นปีที่เราเริ่มลองบุกตลาดกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ พัฒนาคอนโดสำหรับกลุ่มสตาร์ทอัพ กลุ่ม Pet Lover กลุ่มนักศึกษาและคนทำงานมหาวิทยาลัย หรือ Campus Condo กลุ่มนักลงทุน ซึ่งตลาดเหล่านี้ได้รับการตอบรับดีมาก ปีนี้เราจึงบุกตลาดเหล่านี้อย่างต่อเนื่อง พร้อมกับมีแบรนด์ใหม่ที่มีบุคลิกของแบรนด์แตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ เพิ่มเติม เช่น So Origin และ Origin Play มาช่วยกันบุกตลาดทุกไลฟ์สไตล์ ทุกเจเนอเรชั่น"
ในส่วนของแผนธุรกิจของบริษัทฯ จะมุ่งปูทางสู่ธุรกิจใหม่ๆ มากขึ้น เช่น ธุรกิจบริการด้านอสังหาฯ และธุรกิจโรงแรม เป็นต้น เพื่อต่อยอดจากธุรกิจดังเดิมของบริษัทฯ และให้แต่ละธุรกิจสามารถเติบโตด้วยตัวเอง ทั้งนี้ทางบอร์ดของบริษัทฯได้มีมติอนุมัติแผนการออกและเสนอขายหุ้นสามัญที่ออกใหม่ของ บริษัท พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PRI ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ ที่ถือหุ้นอยู่ร้อยละ 100 ของทุนจดทะเบียนชำระแล้ว ต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) และการนำ PRI เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ตามแผนการ Spin-Off ของบริษัทฯ โดยได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์และร่างหนังสือชี้ชวนเพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) ต่อสำนักงานกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 27 ก.ค. 2565 ที่ผ่านมา
สถาบันการเงินผู้จัดจำหน่ายหุ้นกู้มั่นใจว่า หุ้นกู้ ORI ที่จะเสนอขายภายในเดือนสิงหาคมนี้ จะได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ลงทุนเหมือนเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา โดยเฉพาะผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนในตราสารหนี้ที่ออกโดยผู้ออกหุ้นกู้ที่มีความมั่นคง มีอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ Investment grade มีโอกาสและมีศักยภาพในการเติบโต รวมทั้ง ORI ยังคงความเป็นผู้นำในพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของประเทศ
สำหรับผู้ลงทุนทั่วไปที่สนใจจองซื้อหุ้นกู้ บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI สามารถจองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท และทวีคูณ 100,000 บาท โดยคาดว่าจะเสนอขายระหว่างวันที่ 29 - 31 สิงหาคม 2565 และสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.sec.or.th หรือติดต่อผ่านสถาบันการเงินซึ่งเป็นผู้จัดการการจำหน่ายหุ้นกู้ดังนี้
ฃ
- ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) โทร. 02-111-1111 หรือจองซื้อทางออนไลน์ ผ่านแอปพลิเคชัน Krungthai Next หรือ ผ่าน Money Connect by Krungthai (https://moneyconnect.krungthai.com/)
- ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) (โดยบุคคลธรรมดาจองซื้อทางออนไลน์ผ่านhttps://www.kasikornbank.com/kmyinvest ยกเว้นบุคคลสัญชาติต่างด้าว และนิติบุคคล สามารถจองซื้อผ่านสำนักงานใหญ่และสาขา) โทร. 02-888-8888 กด 819
- ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) (โดยบุคคลธรรมดาสามารถจองซื้อทางออนไลน์ผ่าน Mobile Application - CIMB THAI Digital Banking ได้อีก 1 ช่องทาง) โทร. 02-626-7777
- บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) (รวมถึง ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) ในฐานะหน่วยงานขาย) โทร. 02-165-5555
- บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด โทร. 02-680-4004
- บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด โทร. 02-009-8351-56
หมายเหตุ: บริษัทอยู่ระหว่างการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงาน ก.ล.ต. ซึ่งยังไม่มีผลใช้บังคับ
การจัดสรรขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ เงื่อนไขการจัดจำหน่ายเป็นไปตามที่กำหนดในร่างหนังสือชี้ชวน
คำเตือน: โปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลในร่างหนังสือชี้ชวนก่อนการตัดสินใจลงทุน
ที่มา: ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย