การปรับลดอันดับเครดิตของหุ้นกู้ของ RLT เป็นผลมาจากการประกาศปรับลดอันดับเครดิตสากลระยะยาวของ CGH ซึ่งเป็นผู้ค้ำประกันหุ้นกู้ดังกล่าว เป็น BB+ จาก BBB- เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2565 โดยยังคงเครดิตพินิจเป็นลบแก่อันดับเครดิตทั้งหมดของ CGH ซึ่งสะท้อนถึงความเสี่ยงที่สูงขึ้นในระยะเวลาอันใกล้ ฟิทช์จะยกเลิกเครดิตพินิจเป็นลบของหุ้นกู้มีประกันของ RLT หลังจากที่เครดิตพินิจเป็นลบของอันดับเครดิตสากลระยะยาวของ CGH ได้รับการยกเลิก ทั้งนี้ อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของหุ้นกู้มีประกันของ RLT อาจถูกปรับลดลงมากกว่าหนึ่งอันดับ หากฟิทช์มีการปรับลดอันดับเครดิตของ CGH
ปัจจัยที่มีผลต่ออันดับเครดิต
อันดับเครดิตของหุ้นกู้มีประกันของ RLT สะท้อนถึงการค้ำประกันหุ้นกู้ดังกล่าวในลักษณะเต็มจำนวน ไม่มีเงื่อนไขและเพิกถอนไม่ได้โดย CGH ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ RLT โดยหนี้จากการค้ำประกันมีสถานะทางกฏหมายเท่าเทียมกับหนี้ที่ไม่มีหลักประกันและไม่ด้อยสิทธิอื่นๆ ของ CGH
การปรับลดอันดับเครดิตของ CGH สะท้อนถึงความยืดหยุ่นทางการเงินของบริษัทที่ลดลง เนื่องจากสถานการณ์ที่ท้าทายในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในประเทศจีน ฟิทช์เชื่อว่าสภาพคล่องสำรองของ CGH แม้จะอยู่ในระดับที่เพียงพอ แต่ก็ถูกกดดันจากยอดขายที่ลดลงและความต้องการใช้เงินทุนหมุนเวียน ซึ่งกระทบต่อความสามารถในการสร้างกระแสเงินสด ในขณะที่สภาวะตลาดทุนที่อ่อนแอลง ส่งผลให้แหล่งเงินทุนของ CGH มีความจำกัดมากขึ้น
เครดิตพินิจเป็นลบของ CGH สะท้อนถึงความเห็นของฟิทช์ว่าแรงกดดันที่มีต่อกระแสเงินสดน่าจะยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากการฟื้นตัวอย่างมีเสถียรภาพของยอดขายยังคงมีความไม่แน่นอน ทั้งนี้ ฟิทช์ยังคงติดตามความคืบหน้าของ CGH ในการจัดหาเงินทุนเพิ่มเติมจากตลาดทุนภายในประเทศ
อันดับเครดิตของ CGH ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากสถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่ง ขนาดของธุรกิจที่ใหญ่ และการกระจายความเสี่ยง ฟิทช์เชื่อว่าสภาพคล่องของบริษัทน่าจะอยู่ในระดับที่เพียงพอ เนื่องจาก CGH น่าจะยังคงสามารถเข้าถึงแหล่งทุนได้หลากหลายช่องทาง โดยหนี้ที่ครบกำหนดในช่วงที่ผ่านมาของ CGH ได้รับการชำระคืนจากการออกตราสารในตลาดทุนและการใช้เงินสดคงเหลือ
การกำหนดอันดับเครดิตโดยสรุป
อันดับเครดิตของหุ้นกู้มีประกันของ RLT สะท้อนถึงสถานะทางเครดิตของผู้ค้ำประกันได้แก่ CGH ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัยชั้นนำในประเทศจีน โดยเป็นหนึ่งในบริษัทที่มีที่ดินกระจายอยู่ในหลายภูมิภาคมากที่สุดในประเทศจีนเมื่อเปรียบเทียบคู่แข่ง อันดับเครดิตสากลระยะยาวที่ BB+ ของ CGH สามารถเทียบเคียงกับอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของประเทศไทยที่ A+(tha) หรือ A(tha) ตามตารางการเทียบเคียงอันดับเครดิตสำหรับประเทศไทยของฟิทช์ ฟิทช์จัดอันดับเครดิตของหุ้นกู้ของ RLT ที่ A(tha) ที่เป็นระดับที่ต่ำกว่า เนื่องจาก เมื่อเปรียบเทียบกับบริษัทที่มีอันดับเครดิตที่ใกล้เคียงกันในประเทศไทย CGH มีความเสี่ยงที่สูงกว่าในระยะเวลาอันใกล้ทั้งในด้านการสร้างกระแสเงินสดและการเข้าถึงตลาดทุน
ขนาดของธุรกิจที่ใหญ่และสถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่ง ของ CGH สามารถเทียบได้กับบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC (A+(tha)/แนวโน้มเครดิตเป็นลบ) ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ที่มีธุรกิจที่หลากหลายในธุรกิจปูนซีเมนต์และวัสดุก่อสร้าง ธุรกิจปิโตรเคมี และธุรกิจแพคเกจจิ้ง แนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบของ SCC สะท้อนถึงความเสี่ยงในการลดอัตราส่วนหนี้สินในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า ในขณะที่ เครดิตพินิจเป็นลบของ CGH สะท้อนถึงความเสี่ยงที่สูงกว่าในระยะเวลาอันใกล้ ดังนั้นอันดับเครดิตของหุ้นกู้ของ RLT จึงต่ำกว่าอันดับเครดิตของ SCC หนึ่งอันดับ
เมื่อปรียบเทียบกับบริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) หรือ SCCC (A(tha)/แนวโน้มเครดิตมีเสถียรภาพ) ซึ่งเป็นผู้ผลิตปูนซีเมนต์ที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศไทย CGH มีขนาดของธุรกิจที่ใหญ่กว่ามาก และมีสถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งกว่ามาก อย่างไรก็ตาม ปัจจัยดังกล่าวสามารถชดเชยด้วยอัตราส่วนหนี้สินของ SCCC (ที่วัดจาก อัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย) ที่น่าจะลดลงจนต่ำกว่า 1.5 เท่า ส่งผลให้อันดับเครดิตของ SCCC และหุ้นกู้ของ RLT อยู่ในระดับเดียวกัน
ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต
ปัจจัยบวก:
- เครดิตพินิจเป็นลบจะได้รับการยกเลิกหลังจากเครดิตพินิจเป็นลบของของอันดับเครดิตสากลระยะยาวสกุลเงินต่างประเทศของ CGH ได้รับการยกเลิก
ปัจจัยลบ:
- การปรับลดอันดับเครดิตสากลระยะยาวของ CGH
โดยการเปลี่ยนแปลงอันดับเครดิตในทางลบของ CGH อาจมีผลให้มีการปรับลดอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของหุ้นกู้มีประกันของ RLT มากกว่าหนึ่งอันดับได้
ส่วนปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตสากลระยะยาวในอนาคตของ CGH ที่แสดงใน Rating Action Commentary ลงวันที่ 15 สิงหาคม 2565 ได้แก่
ปัจจัยบวก:
เครดิตพินิจจะได้รับการยกเลิกเมื่อปัจจัยลบต่ออันดับเครดิต ไม่เกิดขึ้น
ปัจจัยลบ:
- เงินทุนหมุนเวียนไหลออกอย่างต่อเนื่อง
- ไม่มีการการฟื้นตัวอย่างมีเสถียรภาพของยอดขายหรือการเรียกเก็บเงินจากสัญญาการขาย
- ไม่มีการออกตราสารหนี้ใหม่ในประเทศในจำนวนที่มีนัยสำคัญ
สภาพคล่อง
สภาพคล่องของผู้ค้ำประกันอยู่ในระดับที่เพียงพอ: อันดับเครดิตของหุ้นกู้มีประกันของ RLT สะท้อนถึงสถานะทางเครดิตของผู้ค้ำประกันได้แก่ CGH CGH มีเงินสดคงเหลือจำนวน 9.2 หมื่นล้านหยวน ณ สิ้นปี 2564 (ณ สิ้นปี 2563: 1.2 แสนล้านหยวน) โดยไม่รวมเงินสดที่มีภาระผูกพัน จำนวน 8.9 หมื่นล้านหยวน และเงินมัดจำสำหรับการก่อสร้างอสังหาริมทรัพย์ที่ทำสัญญาขายแล้ว
เงินสดคงเหลืออยู่ในระดับต่ำกว่าหนี้สินระยะสั้นจำนวน 9.5 หมื่นล้านหยวน ณ สิ้นปี 2564 (ณ สิ้นปี 2563: 1.2 แสนล้านหยวน) ซึ่งได้รวมตราสารประเภท Asset-backed Securities (ABS) อย่างไรก็ตาม เงินสดคงเหลือดังกล่าว คิดเป็น 3 เท่าของตราสารหนี้ที่จะครบกำหนดชำระในช่วง 12 เดือนข้างหน้า รวมถึง ABS โดยฟิทช์เชื่อว่า CGH จะสามารถต่ออายุ (Rollover) เงินกู้ธนาคารได้เป็นส่วนใหญ่
ลักษณะธุรกิจ
RLT เป็นบริษัทย่อยที่ CGH ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัยชั้นนำในมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน ถือหุ้นโดยทางอ้อมในสัดส่วนร้อยละ 100 RLT ได้เปิดโครงการ 2 โครงการแรกในประเทศไทยในปี 2561 ในปัจจุบัน RLT มีโครงการที่อยู่อาศัยทั้งแบบคอนโดมิเนียม และแนวราบทั้งหมด 7 โครงการ
อันดับเครดิตที่เกี่ยวโยงกับอันดับเครดิตอื่น
อันดับเครดิตของหุ้นกู้ สะท้อนถึงอันดับเครดิตของผู้ค้ำประกัน ซึ่งได้แก่ CGH
ที่มา: ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย)