วิศวะมหิดล ผนึก 3 องค์กรญี่ปุ่น พัฒนากำลังคนด้านเทคโนโลยี-วิศวกรรมระดับสูง และระบบรับรอง Micro Credential ระหว่างไทย-ญี่ปุ่น

พฤหัส ๒๕ สิงหาคม ๒๐๒๒ ๑๑:๐๑
ความสัมพันธ์และความร่วมมือทางเทคโนโลยีและวิชาการไทย-ญี่ปุ่น เดินหน้าอย่างแข็งแกร่ง...คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล นำโดย รศ.ดร.จักรกฤษณ์ ศุทธากรณ์ คณบดี ผนึกความร่วมมือเพื่อสร้างสรรค์อนาคตด้านการศึกษาและงานวิจัยพัฒนาของไทย-ญี่ปุ่น หลังยุคโควิด กับ 3 สถาบันชั้นนำทางด้านเทคโนโลยีและวิศวกรรมในประเทศญี่ปุ่น เผยความร่วมมือกับสมาคมญี่ปุ่นเพื่อการศึกษาวิศวกรรม (Japan Society for Engineering Education : JSEE) เตรียมพัฒนาระบบ Micro Credential (MC)  พร้อมจับมือ มหาวิทยาลัยโอซากา เตรียมเปิดหลักสูตรสองปริญญา ระดับป.โทและ ป.เอก และร่วมกับมหาวิทยาลัยทามากาวะ เดินหน้างานวิจัยพัฒนาและแลกเปลี่ยนองค์ความรู้
วิศวะมหิดล ผนึก 3 องค์กรญี่ปุ่น พัฒนากำลังคนด้านเทคโนโลยี-วิศวกรรมระดับสูง และระบบรับรอง Micro Credential ระหว่างไทย-ญี่ปุ่น

รศ.ดร.จักรกฤษณ์ ศุทธากรณ์ คณบดี คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า หลังการผ่อนคลายมาตรการโควิด-19 ลง ประเทศไทยและนานาชาติต่างเปิดประเทศเพื่อฟื้นฟูวิถีชีวิตและขับเคลื่อนเศรษฐกิจท่ามกลางความผันผวนของภาวะเศรษฐกิจ ซัพพลายเชน สาธารณสุข สิ่งแวดล้อม และการเมือง คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล มุ่งเน้นการผลิตกำลังคนสมรรถนะสูงและมีคุณภาพในระดับมาตรฐานโลก พร้อมยกระดับคุณภาพการศึกษาและวิจัยนวัตกรรมที่สร้างมูลค่าเพิ่มเพื่อพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจยุคหลังโควิดให้มั่นคงอย่างต่อเนื่อง การเดินทางยังประเทศญี่ปุ่นในครั้งนี้ เป็นการผนึกความร่วมมือด้านวิศวกรรมและเทคโนโลยีในโลกวิถีใหม่ และเปิดมุมมองของการศึกษานานาชาติที่กว้างขึ้นสามารถสนองตอบตวามต้องการในประเทศและโลกอนาคต กับ 3 องค์กรและมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศญี่ปุ่น ดังนี้

1.สมาคมญี่ปุ่นเพื่อการศึกษาวิศวกรรม หรือ Japanese Society for Engineering Education (JSEE) ซึ่งเป็นองค์กรกลางของญี่ปุ่น ที่ให้การรับรองมหาวิทยาลัย/วิทยาลัยทางด้านวิศวกรรมศาสตร์ ห้องปฏิบัติการของรัฐ และบริษัทอุตสาหกรรม โดย JSEE ยังมีส่วนร่วมในกระบวนการรับรองมาตรฐานการศึกษาวิศวกรรมศาสตร์ในญี่ปุ่น ที่เรียกว่า  JABEE (Japan Accreditation Board for Engineering Education) สิ่งที่จะทำร่วมกันคือ สนับสนุนให้นักศึกษาทั้งสองประเทศเรียนรู้วิศวกรรมศาสตร์ในวิถีโลกใหม่อันท้าทายด้วยความเพลิดเพลินและภาคภูมิใจ ตลอดจนร่วมมือทำวิจัยและแลกเปลียนทั้งผ่านระบบออนไลน์และจัดในสถานที่จริง 

นอกจากนี้ยังจะร่วมพัฒนาระบบ Micro Credential (MC) ระหว่างมหาวิทยาลัยในไทยและญี่ปุ่น ซึ่งเป็นระบบการรับรองความสามารถแบบเฉพาะเจาะจง โดยเปิดโอกาสให้พิสูจน์ความสามารถผ่านหลักฐานและประสบการณ์จริง เหมาะสำหรับผู้ที่เรียนรู้ด้วยตนเองหรือแหล่งความรู้ต่างๆ โดยจะได้รับ"ประกาศนียบัตรดิจิทัล" (Digital Badge) สำหรับใช้ยืนยันความสามารถ เพราะการเรียนรู้ไม่ได้เกิดขึ้นแต่ในห้องเรียนเท่านั้น ทั้งนี้นับว่าสอดคล้องกับแผนงานการศึกษาทดลอง Sandbox ของวิศวะมหิดล

2.มหาวิทยาลัยโอซากา (Osaka University) เป็นมหาวิทยาลัยพันธมิตรอีกแห่งหนึ่งของคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ก่อตั้งมากว่า 295 ปี ซึ่งโดดเด่นทางด้านวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี รวมทั้งมีหลายสถาบันวิจัยระดับชาติตั้งอยู่ภายในรั้ว เช่น ศูนย์วิจัยนิวเคลียร์ฟิสิกส์ สถาบันวิศวกรรมเลเซอร์ และศูนย์ศึกษาโลกไซเบอร์ เป็นต้น ความร่วมมือระหว่าง ม.มหิดลกับ ม.โอซากาหลังยุคโควิด  เตรียมเปิดหลักสูตรสองปริญญา ในระดับป.โท และ ป.เอก โดยผู้เรียนจะได้ศึกษาที่สองมหาวิทยาลัยทั้งในประเทศไทยและญี่ปุ่น มีการร่วมกันทำวิจัยเป็นวิทยานิพนธ์เล่มเดียวกัน

3.มหาวิทยาลัยทามากาวะ (Tamagawa University) เป็นมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงระดับโลก ก่อตั้งมาเป็นเวลา 93 ปี มีความเชี่ยวชาญในด้านวิศวกรรมศาสตร์ ทั้งนี้ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยทามากาวะ และ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นพันธมิตรทางด้านการศึกษา และมีความร่วมมือกันในการแลกเปลี่ยนนักศึกษาไทย-ญี่ปุ่น ระหว่าง 2 สถาบัน สร้างเสริมความแข็งแกร่งทางวิจัยและพัฒนา กิจกรรมแลกเปลี่ยนความเข้าใจในการทำงานต่างวัฒนธรรม

ด้าน รศ.ดร.ธนภัทร์ วานิชานนท์ รองคณบดีฝ่ายการจัดการทุนมนุษย์และองค์กรสัมพันธ์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า นอกจากนี้ วิศวะมหิดลยังมีความร่วมมือระหว่างไทย-ญี่ปุ่นในโครงการ TAIST- Tokyo Tech โดย สวทช.และสถาบันเทคโนโลยีแห่งดตเกียว ในการพัฒนาศักยภาพคนไทยด้านเทคโนโลยีขั้นสูง 4 หลักสูตร คือ 1วิศวกรรมยานยนต์และระบบขนส่งขั้นสูง   2.ปัญญาประดิษฐ์และไอโอที 3.วิศวกรรมพลังงานและทรัพยากรที่ยั่งยืน 4.ระบบขนส่งทางราง นับเป็นประโยชน์ยิ่งต่อการยกระดับการศึกษานานาชาติและนวัตกรรมขั้นสูงในประเทศไทย พัฒนาบุคลากรวิจัยและนวัตกรรมทักษะสูงในทุกระดับตั้งแต่ระดับประกาศนียบัตร ปริญญาตรี และปริญญาโท

ที่มา: เบรนเอเซีย คอมมิวนิเคชั่น

วิศวะมหิดล ผนึก 3 องค์กรญี่ปุ่น พัฒนากำลังคนด้านเทคโนโลยี-วิศวกรรมระดับสูง และระบบรับรอง Micro Credential ระหว่างไทย-ญี่ปุ่น

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ