JP ส่งซิกครึ่งหลังปี 65 โตมีนัยสำคัญ รับกำลังซื้อฟื้น ออเดอร์ OEM พุ่ง - จ่อคลอดโปรดักส์กัญชงปลายปีนี้

พฤหัส ๒๕ สิงหาคม ๒๐๒๒ ๑๕:๑๕
"บมจ.โรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี หรือ JP" เดินหน้ามุ่งสร้างการเติบโตในทุกกลุ่มธุรกิจ ส่องทิศทางครึ่งหลังปี 65 มาร์จิ้นสดใส กำลังซื้อหนุน ดันออเดอร์ OEM ยอดคำสั่งซื้อทะลัก แถมจ่อคลอดโปรดักส์กัญชงปลายปีนี้ รอวันเก็บเกี่ยวรายได้ในอนาคต สนับสนุนเป้าหมายปี 65 ที่คาดว่าจะเติบโตจากปีก่อน ขณะที่ ผลงานครึ่งปีแรกปัจจัยภายนอกกระทบ โดย Q2/65 มีรายได้ 98.93 ลบ. รับยังขาดทุนสุทธิ 11.85 ลบ. สาเหตุหลักจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ การเมือง ขณะที่ค่าครองชีพของผู้บริโภคสูงขึ้นตั้งแต่ต้นปี กำลังซื้อผู้บริโภคลดลง และมีค่าใช้จ่ายการโฆษณา เพื่อสร้างการรับรู้ของแบรนด์ในการขยายฐานลูกค้าระยะยาว
JP ส่งซิกครึ่งหลังปี 65 โตมีนัยสำคัญ รับกำลังซื้อฟื้น ออเดอร์ OEM พุ่ง - จ่อคลอดโปรดักส์กัญชงปลายปีนี้

ดร.สิทธิชัย แดงประเสริฐ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ JP ผู้ดำเนินธุรกิจพัฒนา ผลิตและจำหน่าย ยาแผนปัจจุบัน ยาแผนโบราณ ผลิตภัณฑ์สมุนไพรและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแบบครบวงจร เปิดเผยว่า แนวโน้มผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2565 คาดว่าจะดีกว่าครึ่งปีแรก เพราะเป็นไฮซีซันของธุรกิจ อีกทั้งผลิตภัณฑ์อาหารเสริม จากเจ้าของแบรนด์ซึ่งเจรจากันในช่วงครึ่งปีแรก สินค้าจะถูกผลิตและนำออกสู่ตลาดในครึ่งปีหลังจำนวนมาก และคาดว่ากำลังซื้อของผู้บริโภคจะกลับมาและส่งผลให้ออเดอร์ OEM เพิ่มขึ้นสอดคล้องกันไป อีกทั้งคาดว่าอัตราการทำกำไร (มาร์จิ้น) จะเห็นภาพชัดเจนในช่วงครึ่งปีหลัง โดยบริษัทมั่นใจว่าทั้งปี 2565 ผลงานจะปรับตัวดีขึ้นตามเป้าหมายที่วางไว้

ขณะที่ล่าสุดเมื่อวันที่ 9 ส.ค. ที่ผ่านมา สำนักงาน อย.ได้อนุมัติใบอนุญาตการผลิตผลิตภัณฑ์อาหารที่มีส่วนประกอบของเมล็ดกัญชง น้ำมันจากเมล็ดกัญชง หรือโปรตีนจากเมล็ดกัญชง และผลิตภัณฑ์อาหารที่มีส่วนประกอบของกัญชาหรือกัญชง ในรูปแบบของเครื่องดื่มในภาชนะบรรจุที่ปิดสนิท ผลิตภัณฑ์ของนม ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร หมากฝรั่งและลูกอม กาแฟและชา รวมถึงผลิตภัณฑ์อาหารที่มีสารสกัดแคนนาบิไดออลเป็นส่วนประกอบในรูปแบบดอกเม็ด และแคปซูล ส่วนการขึ้นทะเบียนโรงงานสกัดสาร CBD คาดจะได้รับการอนุมัติจากอย. ในช่วงไตรมาส 3/2565 นี้

นอกจากนี้ บริษัทยังได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) อนุมัติให้เพิ่มไลน์ผลิตยาสมุนไพรแบบ Soft Gel (แคปซูลนิ่ม) ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีไลน์ผลิตยาแบบ Soft Gel ทั้งหมด 2 ไลน์ผลิต แบ่งออกเป็นไลน์อาหารเสริมและยาแผนปัจจุบัน จากโอกาสครั้งนี้เชื่อมั่นจะสามารถรับออเดอร์จากลูกค้าได้มากขึ้น

ปัจจุบันสัดส่วนเจ้าของแบรนด์มีออเดอร์เกิน 50% บริษัทจะเน้นการผลิตสินค้าให้เจ้าของแบรนด์ เพราะมีอัตรากำไร (มาร์จิ้น) สูง ส่วนการรับจ้างผลิต (OEM) บริษัทมีคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยผลิตภัณฑ์สินค้าภายใต้ แบรนด์ของตัวเอง (Own Brand) คาดปีนี้จะเติบโตสูงขึ้นเช่นกัน เนื่องจากบริษัทมีผลิตภัณฑ์ Own Brand ติดตลาด และสามารถสร้างยอดขายให้กับบริษัทได้ค่อนข้างสูง ในอนาคต คาดสัดส่วนยอดขายผลิตภัณฑ์ Own Brand จะเพิ่มขึ้นมาใกล้เคียงกับผลิตภัณฑ์ OEM ที่ 50:50 จากปัจจุบันมีสัดส่วนยอดขายที่ 37.2%

ทั้งนี้ บริษัทมีเป้าหมายก้าวสู่การเป็นบริษัทชั้นนำด้านการวิจัย ผลิตและจำหน่ายยา และอาหารเสริมครบวงจร โดยร่วมมือสถาบันการศึกษา หน่วยงานภาครัฐและเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อยกระดับนวัตกรรมผลิตภัณฑ์เพื่อพัฒนาสินค้าภายใต้ Own Brand

"แผนธุรกิจในปีนี้ บริษัทฯ จะเดินหน้ามุ่งสร้างการเติบโตในทุกกลุ่มธุรกิจ โดยนำข้อได้เปรียบเชิงการแข่งขันในฐานะที่เป็นผู้นำด้านการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์และมีฐานการผลิตของโรงงานทั้ง 2 แห่ง ภายใต้มาตรฐานการผลิตยา (GMP PIC/s) จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กระทรวงสาธารณสุข รองรับการพัฒนาผลิตภัณฑ์กัญชงและกัญชา" ดร.สิทธิชัย กล่าว

ปัจจุบันบริษัทได้รับใบอนุญาตผลิต (ที่มิใช่การปลูก) ยาเสพติดให้โทษในประเภทที่ 5 เฉพาะกัญชง เป็นที่เรียบร้อยแล้วหลังจากขยายโรงงานที่จังหวัดลำพูน และติดตั้งเครื่องจักรสกัดกัญชาและกัญชง สามารถผลิตสารสกัด น้ำมันกัญชา, full spectrum, board spectrum, CBD isolate, water soluble CBD isolate ซึ่งเป็นสารสกัดบริสุทธิ์ที่ละลายน้ำได้ โดยมีกำลังการผลิต 300 กิโลกรัม รองรับความต้องการลูกค้ากลุ่ม OEM กลุ่มผลิตภัณฑ์ยาแผนโบราณและผลิตภัณฑ์ยาสมุนไพร ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร รวมถึงนำสารสกัดที่ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ภายใต้ Own Brand เพื่อตอบสนองเทรนด์ของผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพ

สำหรับผลประกอบการในงวดไตรมาส 2 ปี 2565 บริษัทฯ มีรายได้จากการขาย 98.93 ล้านบาท ลดลง 12.1% ผลขาดทุนสุทธิ 11.85 ล้านบาท ใกล้เคียงงวดเดียวกันของปีก่อน โดยรายได้และกำไรที่ลดลงมีสาเหตุหลักมาจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการเมืองทำให้ค่าครองชีพของผู้บริโภคสูงขึ้นตั้งแต่ต้นปี 2565 ผู้บริโภคจึงมีความต้องการสินค้าประเภทผลิตภัณฑ์เสริมอาหารลดลงเพราะเป็นสินค้าฟุ่มเฟือย และมีค่าใช้จ่ายการโฆษณาประชาสัมพันธ์เพิ่มขึ้นเพื่อสร้างความตระหนักถึงตรายี่ห้อ โดยบริษัทคาดหวังว่ากิจกรรมนี้จะทำให้ขยายฐานลูกค้าได้ในระยะยาว อีกทั้งมองครึ่งปีหลังจะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญจากธุรกิจ OEM และการเปิดตัวสินค้าใหม่พร้อมบุกตลาด

ที่มา: ไออาร์ พลัส

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๕:๔๔ เปิดยุทธศาสตร์ 'CPNREIT' กองทรัสต์ค้าปลีกศักยภาพสูงที่มีมูลค่าตลาดใหญ่ที่สุดในไทย
๑๕:๓๖ FWD ประกันชีวิต ยกระดับคุณภาพการขาย 360 องศา เสริมความมั่นใจลูกค้า พัฒนาตัวแทน
๑๕:๓๔ อาดิดาส เปิดตัวรองเท้าวิ่ง Adizero Adios Pro Evo 2 ทะยานข้ามขอบเขตความเร็วอันเป็นที่สุดไปสู่ชัยชนะในการแข่งขัน
๑๕:๒๔ กรมอนามัย-AOT-อบต.หนองปรือ การันตรีด้วยมาตรฐาน SAN 102 ร้านอาหาร ท่าอากาศยาน สุวรรณภูมิ สะอาด ปลอดภัย ได้มาตรฐาน
๑๕:๔๙ POCO วางจำหน่ายสมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้น POCO C71 มอบราคาพิเศษเริ่มต้นที่ 1,999 บาท เฉพาะระหว่างวันที่ 24 เม.ย 68 - 8 พ.ค. 68
๑๕:๑๒ อลิอันซ์ อยุธยา ทำบุญครบรอบ 74 ปี พร้อมจัดกิจกรรม ให้.ไม่รู้จบ
๑๕:๐๗ ศูนย์พัฒนาเด็กซีเอดี เซ็นเตอร์ เปิดหลักสูตรสอนเด็กออทิสติก เน้นส่งเสริมการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทางด้านปัญญาในวัยเริ่มต้น
๑๕:๒๓ GUNKUL ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผู้ถือหุ้นไฟเขียวทุกวาระ เดินหน้าวิสัยทัศน์ใหม่ พาร์ตเนอร์ด้านพลังงานสีเขียวแห่งเอเชีย เชื่อมั่นแผนงานกรอบ 3 ปี ดันรายได้รวมทะลุ 35,000
๑๕:๕๐ ระเบิดศึก เบสบอลหญิงชิงแชมป์เอเชีย 2025 รอบคัดเลือก 8 ชาติ
๑๕:๒๒ อีวี ไพรมัส จับมือ โกชัน พัฒนาแบตเตอร์รี่ป้อนสายการประกอบรถวู่หลิงในประเทศไทย