นางอารดา กล่าวว่า "โครงการ Smart Exporter ได้ดำเนินการตามนโยบายที่สำคัญในการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการไทยของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่มุ่งเดินหน้ายกระดับองค์ความรู้ เตรียมความพร้อม และสร้างผู้ประกอบการภาคการส่งออกยุคใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ประกอบการ SMEs และ Micro SMEs ให้สามารถสร้างรายได้ให้กับธุรกิจของตนเอง และก้าวมาที่เป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนภาคการส่งออกของประเทศไทย"
สำหรับโครงการ Smart Exporter เป็นหนึ่งในโครงการ Flagship ของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ที่ดำเนินการโดยสถาบัน NEA มาแล้วมากว่า 20 ปี สร้างนักการค้าระหว่างประเทศมืออาชีพมากกว่า 900 ราย ที่นำองค์ความรู้ที่ได้รับไปทำการค้าสร้างมูลค่าการส่งออกให้กับตนเองและประเทศแล้วมากกว่า 20,000 ล้านบาท
สำหรับโครงการ Smart Exporter รุ่นที่ 21 ในปีนี้ มีการพัฒนาหลักสูตรให้มีความเข้มข้น รอบด้าน และทันสมัยกับยุคเศรษฐกิจกระแสใหม่ ซึ่งผู้เข้าร่วมโครงการทั้ง 102 ราย ได้ผ่านการพัฒนาและยกระดับความรู้ด้านการค้าระหว่างประเทศอย่างเข้มข้นแบบครบวงจรตลอด 14 วัน ทั้ง (1) เนื้อหาภาคทฤษฎีมากกว่า 10 หลักสูตร (2) ภาคปฏิบัติในการนำเสนอ Business Model Canvas ต่อวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ (3) การรับคำปรึกษาเชิงลึกจากทูตพาณิชย์ใน 7 ตลาดการส่งออกที่สำคัญของไทย และ (4) การศึกษาดูนอกนอกสถานที่ ณ บริษัท กรีนเดย์ โกลบอล จำกัด ซึ่งเป็นผู้ผลิตและผู้ส่งออกสินค้าผัก ผลไม้ แปรรูป ที่มีประสบการณ์ยาวนาน นอกเหนือไปจากนั้น ผู้ผ่านการอบรมจากโครงการ Smart Exporter รุ่นที่ 21 ยังได้สร้างเครือข่ายระหว่างเพื่อนร่วมรุ่น ที่จะเป็นกุญแจเปิดประตูบานสำคัญไปสู่โอกาสทางการค้าอื่นๆ อีกมากมายในอนาคต
ผู้ที่สนใจหลักสูตรการฝึกอบรม สัมมนา ที่จะช่วยยกระดับศักยภาพด้านการค้าระหว่างประเทศในด้านต่างๆ สามารถติดตามข่าวสาร และสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สถาบันพัฒนาผู้ประกอบการ การค้ายุคใหม่ nea.ditp.go.th หรือสายด่วน โทร 1169 กด 1 กด 1
ที่มา: ซูม พีอาร์