คุณ มาเฮช โดไรอัปปา Business Unit Director Thailand & SEED Markets บริษัท จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (ไทย) จำกัด กล่าวถึง ภาพรวมของตลาดคอนแทคเลนส์ในช่วงครึ่งปีหลังว่า มีแนวโน้มดีกว่าครึ่งปีแรก และ คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากปีก่อน ๆ เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิคเริ่มคลี่คลาย ผู้คนเริ่มกลับมาใช้ชีวิตแบบปกติ ขณะเดียวกันยังเป็นช่วงที่เริ่มมีการเดินทางเพื่อท่องเที่ยวมากขึ้น ทำให้คาดว่าดีมานด์ของลูกค้าจะกลับมา โดยเฉพาะในกลุ่มคอนแทคเลนส์เพื่อความงาม ที่ตอบโจทย์ได้ทั้งเรื่องสายตาและความสวยงาม
"ครั้งนี้ เราเลือกเสริมทัพพอร์ตโฟลิโอของ "Fresh Collection" ซึ่งเป็นคอนแทคเลนส์ชนิดรายวัน จากเดิมที่มีอยู่ 2 สี คือ สีเทาประกายอำพันและสีน้ำผึ้งโทนน้ำตาลประกายอำพัน ให้มีความหลากหลายมากขึ้น เพื่อเป็นตัวเลือกให้ลูกค้าสามารถสนุกกับการเลือกสวมใส่คอนแทคเลนส์ให้แมตซ์กับสไตล์การแต่งตัว โดยครั้งนี้ เราได้เพิ่มสีสันและความสนุกมากขึ้น ด้วย 2 เฉดสีใหม่ ได้แก่ สีน้ำตาลมอคค่าประกายชมพู ให้ลุคสวยหวาน น่ารัก สดใส ร่าเริง และ สีเทาประกายฟ้า ให้ลุคสวยคูล เท่ สุขุม มั่นใจ"
โดยคอลเลกชันนี้ Johnson & Johnson Vision ยังคงคุณสมบัติที่โดดเด่นไว้ครบถ้วน ตั้งแต่ตัวสี ที่ได้แรงบันดาลใจจากธรรมชาติ จึงยังคงความสวย สดใส และ ด้วยการใช้เทคนิคการพิมพ์เลเยอร์สี 3 ชั้น บวกกับลายที่เป็นเอกลักษณ์ ช่วยทำให้ดวงตาดูมีมิติ และเทคโนโลยีการเคลือบชั้นสีให้อยู่ตรงกลาง ไม่ให้ชั้นสีสัมผัสดวงตาโดยตรง มีทั้งแบบมีค่าสายตาและไม่มีค่าสายตา
คุณ มาเฮช กล่าวเสริมว่า นอกจากความสวยงามแล้ว สิ่งที่ Johnson & Johnson Vision ให้ความ สำคัญไม่แพ้กัน คือ ความสบายตาเมื่อสวมใส่ จึงเพิ่มเทคโนโลยีที่ช่วยเรื่องความชุ่มชื้น ใส่สบายตาตลอดทั้งวัน** และใน Fresh Collection นี้ยังมีส่วนผสมของสารป้องกัน รังสียูวีเอได้ 81% และยูวีบีได้ 97%*
นอกจากนี้ เพื่อตอกย้ำความพิเศษของคอนแทคเลนส์ 2 เฉดสีใหม่ ที่จะมาปลุกตลาดคอนแทคเลนส์ให้กลับมาคึกคัก ทาง Johnson & Johnson Vision ยังได้แต่งตั้ง พีพี กฤษฏ์ นักแสดงชื่อดัง เป็น Friend of Define เพราะ มองว่า พีพี เป็นคนที่รุ่นใหม่ที่สามารถสะท้อนความเป็นตัวของตัวเอง ได้อย่าง เต็มที่ มีดวงตาที่โดดเด่น มีเสน่ห์สามารถแมตช์ได้กับทุกลุค และเป็นตัวแทนของ คนยุค Gen Z ได้เป็นอย่างดี ซึ่งตอบโจทย์กับกลยุทธ์ของแบรนด์ ที่หันมาโฟกัสกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์ที่เอกลักษณ์และเป็นตัวของตัวเอง และ ที่สำคัญ พีพี กฤษฏ์ เองก็ใช้ตัวนี้อยู่แล้วด้วย
"กลุ่มลูกค้าของ Johnson & Johnson Vision จะประกอบด้วย 3 กลุ่มหลัก ๆ คือ กลุ่มที่สวม คอนแทคเลนส์ใส แต่จะมองหาคอนแทคเลนส์สี เพื่อสวมใส่ในโอกาสพิเศษ ถัดมา คือ กลุ่มที่ใช้ คอนแทคเลนส์สี เพื่อความงามอยู่แล้ว แต่ต้องการคอนแทคเลนส์ที่ใส่แล้วสบายตา สุดท้าย คือ กลุ่มผู้ที่ไม่มีค่าสายตา แต่ต้องการเพิ่มความสวยงามให้กับดวงตาซึ่งมีอยู่ประมาณ 10%ของลูกค้าทั้งหมด"
ดังนั้น เพื่อให้แบรนด์สามารถเข้าถึงและขยายกลุ่มลูกค้าให้ครอบคลุมมากขึ้น มร. มาเฮช เสริมว่า Johnson & Johnson Vision จึงไม่ได้มองแค่การขยายช่องทางการจัดจำหน่ายทั้งออฟไลน์และออนไลน์ รวมทั้งมีบริการ Johnson & Johnson Vision Delivery ส่งสินค้าตรงถึงบ้านด้วย เพื่อเข้าถึงลูกค้ากลุ่ม ใหม่ๆ และตอบโจทย์กระแสอีคอมเมิร์ซ แต่ยังปรับกลยุทธ์ในการทำการตลาด ตั้งแต่การเลือกคนที่จะมาเป็นตัวแทนของแบรนด์ หรือ การจัดกิจกรรม
"สำหรับในครั้งนี้ เราเลือกจัดงานแถลงข่าวผ่านไลฟ์พร้อมเปิดโอกาสให้ลูกค้าได้ร่วมกิจกรรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟกับ Friend of Define ผ่านทางเฟซบุ๊กแฟนเพจ Johnson & Johnson Vision, Thailand และยังต่อยอดไปสู่การจัดแคมเปญการตลาดเพื่อคืนกำไรให้ลูกค้า ด้วยโปรโมชันสุดพิเศษ สำหรับลูกค้าที่ซื้อสินค้ารุ่น "Fresh Collection" (เฟรช คอลเลกชัน) 2 เฉดสีใหม่ จำนวน 4 กล่องต่อ 1 ใบเสร็จ สามารถรับ หมวก Bucket ที่ พีพีร่วมออกแบบ โดยกิจกรรมจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 16 สิงหาคม 2565 - 31 ตุลาคม 2565 หรือ จนกว่าของจะหมด"
ทั้งนี้ Fresh Collection คอนแทคเลนส์เพื่อความงาม มีทั้งแบบสำหรับมีค่าสายตาและไม่มีค่า สายตา มาพร้อมขนาดใหม่ บรรจุกล่องละ 10 ชิ้น ราคากล่องละ 560 บาท หาซื้อได้แล้ว ทั้งช่องทาง ออฟไลน์ ร้านจำหน่ายแว่นตาชั้นนำทั่วไป และช่องทางออนไลน์ Facebook Page: Johnson & Johnson Vision, Thailand หรือ Line@: ACUVUE
หมายเหตุ
* คอนแทคเลนส์มีส่วนผสมของสารป้องกันยูวีเอและยูวีบีในระดับหนึ่ง แต่ไม่สามารถทดแทนการใส่แว่นตากันแดดได้
**การใช้งานคอนแทคเลนส์ไม่ควรใส่เกินวันละ 12 ชั่วโมง
.