นอกจากนี้มองว่า ตลาดหุ้นทั่วโลกเคลื่อนไหวผันผวนต่อในเดือนนี้ เนื่องจากมีปัจจัยสำคัญหลายประการที่รออยู่ ยกตัวอย่างเช่น การยกระดับการลดขนาดงบดุลของ Fed จากเดิม 4.75 หมื่นล้านเหรียญฯ เป็น 9.5 หมื่นล้านเหรียญฯต่อเดือน รายงานตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ อาทิ ตัวเลขการจ้างงานในวันที่ 2 ก.ย.ตัวเลขเงินเฟ้อในวันที่ 13 ก.ย. การประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB)ในวันที่ 8 ก.ย. และการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ในวันที่ 20-21 ก.ย.
ส่วนปัจจัยภายในของไทยที่น่าติดตาม ได้แก่ รายงานตัวเลขเงินเฟ้อในวันที่ 5 ก.ย. การประชุมกนง.ในวันที่ 28 ก.ยและความเคลื่อนไหวทางด้านการเมืองในประเทศ โดยเฉพาะการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญต่อประเด็นการดำรงตำแหน่งนายกฯ 8 ปีของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
นายณัฐชาต กล่าวว่า สำหรับธีมหุ้นแนะนำประจำเดือนนี้ ได้แก่
1) กลุ่มหุ้น Domestic play ที่ราคายังคง Laggard เช่น ธนาคาร (BBL, KBANK, SCB) และกลุ่มสื่อฯ (BEC, ONEE, PLANB)
2) กลุ่มสื่อสารที่ราคาหุ้นปรับลงจน Valuation อยู่ในระดับน่าสนใจ (ADVANC, DTAC, TRUE)
3) กลุ่มโรงพยาบาลขนาดกลาง-เล็กที่ได้ประโยชน์จากนโยบายการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ (CHG, PRINC, RJH)
4) กลุ่มหุ้นส่งออกอาหาร-เกษตรที่ได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่า และเห็นยอดการส่งออกเติบโตต่อเนื่อง (ASIAN, TU, GFPT, TFG)
ที่มา: หลักทรัพย์ ทรีนีตี้