หัวเว่ยจับมือ GCNT จัดงาน Thailand Talent Talk ขับเคลื่อนบุคลากรด้านดิจิทัล สู่อนาคตประเทศไทยที่ยั่งยืน

ศุกร์ ๐๒ กันยายน ๒๐๒๒ ๑๕:๔๘
บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกับ สมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กแห่งประเทศไทย (GCNT) จัดงานเปิดตัวซีรี่ส์เสวนา Thailand Talent Talk เพื่อร่วมแลกเปลี่ยนระหว่างพาร์ทเนอร์ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ในการผลักดันการพัฒนาทักษะด้านดิจิทัลในประเทศไทย จับมือนำเสนอแนวทางแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางทักษะดิจิทัล พร้อมสร้างอีโคซิสเต็มด้านดิจิทัลที่แข็งแกร่ง เพื่อรองรับเทรนด์ประเทศไทยยุคดิจิทัลอย่างยั่งยืน โดยหัวเว่ยมุ่งสนับสนุนบุคลากรที่มีทักษะในประเทศไทยอย่างต่อเนื่องด้วยโครงการพัฒนาบุคลากร Huawei ASEAN Academy และ Seeds for the Future
หัวเว่ยจับมือ GCNT จัดงาน Thailand Talent Talk ขับเคลื่อนบุคลากรด้านดิจิทัล สู่อนาคตประเทศไทยที่ยั่งยืน

นางสาวธันยพร กริชติทายาวุธ ผู้อำนวยการสมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กแห่งประเทศไทย (GCNT) กล่าวถึงการจัดสัมมนาในครั้งนี้ว่า "ประเทศไทยอยู่ระหว่างการฟื้นตัวจากจากสถานการณ์ระบาดของโควิด-19 เช่นเดียวกับหลายๆ ประเทศทั่วโลก โดยประเทศไทยให้ความสำคัญกับเรื่องการฟื้นตัวของเศรษฐกิจดิจิทัล เห็นได้จากนโยบายและโครงการต่างๆ ส่งผลให้เราเล็งเห็นถึงความจำเป็นในการลงทุนเพื่อเพิ่มและปรับทักษะให้แก่บุคลากรในประเทศสำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมไอซีที ทั้งนี้ การแลกเปลี่ยนในเชิงนโยบายระดับสูงและการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้จึงถือเป็นโอกาสสำคัญในการหาแนวทางรับมือความท้าทายไปด้วยกัน ทั้งยังเป็นโอกาสที่ดีในการขยายความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ในภาคส่วนต่างๆ GCNT จึงร่วมกับหัวเว่ยประเทศไทยจัดซีรี่ส์งานเสวนา Thailand Talent Talk ขึ้นเพื่อสร้างแพลตฟอร์มแบบเปิดกว้างในการร่วมสนทนาถึงองค์ความรู้ ความท้าทาย การจัดลำดับความสำคัญ และแนวทางปฏิบัติที่เกี่ยวกับบุคลากรด้านดิจิทัลในภาคอุตสาหกรรม รวมไปถึงการนำเสนอคำแนะนำและแนวทางที่เป็นไปได้ ภายใต้หัวข้อการพัฒนาบุคลากรที่มีทักษะดิจิทัลอย่างเท่าเทียมเพื่อมุ่งสู่สังคมที่ยั่งยืน"

ด้านนายเอดวิน เดียนเดอร์ หัวหน้าฝ่ายนวัตกรรม บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงเป้าหมายและแนวทางการปฏิบัติที่ดีที่สุดในการพัฒนาทักษะด้านดิจิทัลของประเทศไทยว่า "การระบาดครั้งใหญ่ของโควิด-19 ทำให้เกิดการหยุดชะงักอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อนในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ในทางกลับกัน ยังเป็นการเน้นถึงความสำคัญของโครงสร้างพื้นฐานด้านไอซีที และความรู้ด้านดิจิทัลมากกว่าที่เคย ซึ่งหัวเว่ยหวังว่าซีรี่ส์สัมมนา Thailand Talent Talk นี้จะทำให้เราสามารถส่งเสริมการเจรจานโยบายระดับสูงและนโยบายพหุภาคีได้ โดยซีรี่ส์งานเสวนาครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งสำหรับโครงการต่อเนื่องของ การทำสมุดปกขาวในหัวข้อการพัฒนาบุคลากรด้านดิจิทัลของประเทศไทย (Thailand Digital Talent Development Whitepaper) ซึ่งเป็นการออกแบบที่ครอบคลุมทั้งด้านประสิทธิภาพและคุณภาพในการพัฒนาทักษะดิจิทัลในประเทศไทย"

ทั้งนี้ เขายังให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า หัวเว่ย ประเทศไทย มุ่งมั่นส่งเสริมและสนับสนุนบุคลากรด้านไอซีทีระดับมืออาชีพ เอสเอ็มอี สตาร์ทอัพ นักเรียน รวมถึงภาคสาธารณะ ผ่านการเรียนรู้กับโครงการ Huawei ASEAN Academy โดยก่อนหน้านี้ หัวเว่ยได้ส่งเสริมการพัฒนาบุคลากรที่มีทักษะดิจิทัลไปแล้วมากกว่า 52,000 ราย เพื่อรองรับนโยบาย 'ไทยแลนด์ 4.0' โดยที่โครงการ Seeds for the Future ซึ่งเปิดตัวในประเทศไทยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2551 ได้ฝึกอบรมนักเรียนนักศึกษาไปแล้วกว่า 230 คน เพื่อที่เราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังโลกดิจิทัล และในปีนี้ได้ขยายเป็นโครงการระดับภูมิภาค หัวเว่ยได้เปิดตัวซีรี่ส์โครงการความคิดริเริ่มทางดิจิทัล ตัวอย่างเช่น โครงการรถดิจิทัลบัส เพื่อที่จะเดินทางไปให้ความรู้แก่นักเรียนชั้นประถมศึกษากว่า 1,500 คน คลอบคลุมพื้นที่ห่างไกลใน 11 จังหวัดของประเทศไทย

ศาสตราจารย์ ดร. ศุภชัย ปทุมนากุล รองปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ได้ขึ้นกล่าวในงานสัมมนา Thailand Talent Talk ถึงประเด็นเรื่องบุคลากรด้านดิจิทัลของประเทศไทยว่า "สถานการณ์ระบาดของโควิด-19 ได้เร่งกระบวนการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลให้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากบริษัทและองค์กรทั้งหลายต่างก็ต้องการแรงงานที่มีทักษะ เพื่อรองรับกับความท้าทายที่เกิดขึ้นจากการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัล โดยช่องว่างหรือความเหลื่อมล้ำด้านทักษะดิจิทัลได้กลายเป็นปัญหาสำคัญในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งรวมถึงประเทศไทย ทั้งนี้ การที่ประเทศไทยก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านโครงสร้างพื้นฐานและการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี 5G ในระดับอาเซียนอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้เกิดความต้องการในการลงทุนด้านบุคลากรทางดิจิทัลมากขึ้น เพื่อตอบรับการเติบโตสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในภาคอุตสาหกรรม โดยมีการคาดการณ์จากนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ว่าเศรษฐกิจดิจิทัลจะคิดเป็นสัดส่วนถึง 30% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศไทย (GDP) ภายในปี พ.ศ. 2573 นอกจากนี้ สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติยังได้ระบุว่าประเทศไทยจำเป็นต้องมีบุคลากรด้านดิจิทัลมากกว่า 1 ล้านคนภายในปี พ.ศ. 2573 ซึ่งไทยอาจจะประสบปัญหาขาดแคลนบุคลากรในด้านดังกล่าวถึง 400,000 คนได้"

ทั้งนี้ นางสาวอิลาเรีย ฟาเวอโร หัวหน้าฝ่ายการพัฒนาและการมีส่วนร่วมของเยาวชน องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้เข้าร่วมงานเสวนา Thailand Talent Talk ในครั้งนี้ โดยกล่าวว่า "เราจำเป็นต้องหาแนวทางที่สร้างสรรค์เพื่อส่งเสริมทักษะดิจิทัลสำหรับเด็กและเยาวชน ผ่านการจัดการศึกษาทั้งในและนอกระบบ เราจะต้องลงทุนให้มากในเรื่องนี้เพื่ออนาคตของทั้งเด็กไทยและประเทศไทย"

นางสาวฟาเวอโร ยังเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการร่วมกันค้นหาวิธีแก้ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับผู้ที่มีส่วนร่วมทั้งในภาครัฐ องค์กรไม่แสวงหากำไร และภาคเอกชน เพื่อลดช่องว่างด้านความสามารถทางดิจิทัลในประเทศไทย เธอกล่าวเสริมอีกว่า "การแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำด้านดิจิทัลนั้นจะต้องเริ่มจากการสร้างการเข้าถึง ความสามารถในการจ่ายได้ ความรู้รอบและความปลอดภัยด้านดิจิทัล หากปราศจากการเข้าถึงอุปกรณ์และการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่ราคาไม่แพงและไว้ใจได้ เด็กๆ ก็จะไม่สามารถมีส่วนร่วมในการเรียนรู้ออนไลน์ได้ นอกจากนี้ หากปราศจากความรู้และความสามารถด้านดิจิทัลที่เหมาะสม คุณครู เด็กๆ และเยาวชนทั้งหลาย ตลอดจนครอบครัวต่างๆ ก็จะไม่สามารถใช้เทคโนโลยีที่ปลอดภัยได้อย่างเต็มศักยภาพเพื่อสร้างให้เกิดการมีส่วนร่วมและการเรียนรู้ของนักเรียน"

นางสาวธัญมาศ ลิมอักษร นักวิเทศสัมพันธ์ ชำนาญการพิเศษ สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (สคช.) กล่าวว่า "การระบาดครั้งใหญ่เป็นตัวเร่งทั้งความต้องการทักษะดิจิทัลและความเหลื่อมล้ำทางดิจิทัล และเพื่อเป็นการสร้างทักษะสำหรับอนาคตดิจิทัลที่รวดเร็ว สคช. มุ่งมั่นที่จะพัฒนาความรู้ด้านดิจิทัล ตลอดจนพัฒนาทักษะของผู้เชี่ยวชาญด้านไอซีที โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสาขาใหม่ๆ เช่น วิทยาศาสตร์ข้อมูล อีคอมเมิร์ซและอีเลิร์นนิงโดยการเป็นองค์กรที่สามารถออกใบรับรองได้"

นางสาวธัญมาศ กล่าวเสริมว่า "สคช. ยังได้ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐต่างๆ สนับสนุนการพัฒนาทักษะความรู้ด้านอีคอมเมิร์ซให้แก่กลุ่มคนชายขอบ และยังได้ทำงานร่วมกับองค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน (International Organization for Migration) ในการจัดอบรมทักษะด้านอีคอมเมิร์ซให้แก่แรงงานต่างด้าว นอกจากนี้ ความร่วมมือระหว่างองค์การยูนิเซฟและสคช. ในการสนับสนุนการเรียนรู้ตลอดชีวิต และมุ่งให้เกิดการใช้อีโคซิสเต็มด้าน E-Workforce เพื่อปูทางที่หลากหลายและโอกาสที่เพิ่มขึ้นสำหรับคนหนุ่มสาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ด้อยโอกาส ในการฝึกทักษะที่เกี่ยวข้อง"

ทั้งนี้ นวัตกรรมและการพัฒนาขึ้นอยู่กับอีโคซิสเต็มของบุคลากรที่มีทักษะ หัวเว่ยพร้อมที่จะทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ทุกฝ่ายเพื่อสร้างอีโคซิสเต็มสำหรับพัฒนาผู้มีความสามารถที่เอื้อต่อการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ หัวเว่ยภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางการพัฒนาอุตสาหกรรมโทรคมนาคมของประเทศไทยตลอด 23 ปีที่ผ่านมา โดยได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากลูกค้าและพาร์ทเนอร์ ในปัจจุบันโลกดิจิทัลมีความสำคัญพอๆ กับน้ำประปาหรือไฟฟ้า หัวเว่ยมุ่งมั่นที่จะสร้างอีโคซิสเต็มที่ครอบคลุม สร้างสรรค์ และน่าเรียนรู้ เพื่อดึงดูดและพัฒนาความสามารถด้านดิจิทัลมากขึ้น ร่วมกันส่งเสริมการพัฒนาและความเจริญรุ่งเรืองให้กับประเทศไทย

ที่มา: คาร์ลบายร์ แอนด์ แอสโซซิเอทส์

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO