นายพิษณุ มิลินทานุช ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้จัดการทั่วไป สายงานขาย การตลาดและบริการ บริษัทสยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มการทำเกษตรและความต้องการเครื่องจักรกลเกษตรมีมากขึ้น จากสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา ทำให้คนในเมืองสนใจการทำเกษตรมากขึ้น ประกอบกับการเผชิญปัญหาขาดแคลนแรงงาน ทำให้เกษตรกรต้องการใช้เครื่องทุ่นแรงมากขึ้น จึงทำให้มูลค่าตลาดเครื่องจักรกลการเกษตรช่วงครึ่งแรกของปี 2565 มีอัตราการเติบโตอยู่ที่ประมาณ 10% ปัจจัยมาจากการขยายตัวของสินค้าแทรกเตอร์ในกลุ่มพืชไร่ (มัน อ้อย ข้าวโพด) และ ยาง ปาล์ม เนื่องจากทิศทางราคาปรับตัวดีขึ้นจากผลกระทบของเศรษฐกิจโลกที่มีความต้องการพืชอาหารและพืชพลังงานมากขึ้น นอกจากนี้ปัจจัยด้านราคาและสภาพภูมิอากาศที่เอื้ออำนวยมีส่วนช่วยทำให้ผลผลิตเพิ่มขึ้น รวมถึงนโยบายของภาครัฐที่สนับสนุน Smart Farming เกษตรอัจฉริยะที่เน้นการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมมาบริหารจัดการ และนโยบาย Zero Burn เกษตรปลอดการเผา มีส่วนสำคัญที่ช่วยส่งเสริมให้เกิดการใช้เครื่องจักรกลเกษตรเพิ่มมากขึ้น
"เดิมสยามคูโบต้าจะเน้นการทำตลาดไปที่กลุ่มเกษตรกรเป็นหลัก แต่ปัจจุบันเราพบว่า กลุ่ม Non-Farmer ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่เคยทำงานประจำสนใจทำธุรกิจการเกษตรมากขึ้น ทำให้ตลาดเครื่องจักรกลเกษตรขยายตัวมากขึ้น บริษัทฯ จึงต้องปรับแนวคิดการทำตลาดรวมถึงการพัฒนาเครื่องมือให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายใหม่ ๆ มากขึ้น โดยเน้นการทำตลาด ภายใต้แนวคิด "Better Together" เพื่อช่วยยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของเกษตรกรให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน ด้วยการพัฒนาสินค้าและ Solutions พร้อมทั้งองค์ความรู้ ให้ตรงกับความต้องการของเกษตรกร ที่ช่วยลดต้นทุน เพิ่มผลิต ลดปัจจัยที่ก่อให้เกิดความผันแปรจากสภาพดินฟ้าอากาศ" นายพิษณุ กล่าว
ทั้งนี้ สยามคูโบต้า ได้ใช้ความเชี่ยวชาญและมุ่งมั่นที่จะนำเครื่องจักรกลการเกษตรเข้ามาช่วย ให้เกษตรกรทำงานได้สะดวกสบายมากขึ้น แต่ต่อไปในอนาคต สยามคูโบต้าจะนำพาทุกคนก้าวไปสู่อนาคตของโลกเกษตร ที่จะเปลี่ยนเกษตรกรให้มาทำเกษตรกรรมที่ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การเพาะปลูกเท่านั้น แต่มองภาพรวมตลอดทั้ง Supply Chain มีการวางแผนตั้งแต่ต้นจนถึงการส่งมอบผลผลิตให้ถึงมือผู้บริโภค เพื่อสร้างโอกาสทางการเกษตรได้มากกว่าที่เคยเป็น สำหรับในช่วงครึ่งปีหลังเตรียมดึงแผนกลยุทธ์ 3EX เพิ่มขีดความสามารถของการแข่งขันของเกษตรกรไทย ได้แก่ EXperimentation รวบรวมและทดลองเพื่อพัฒนาโซลูชันด้านการเกษตร เสริมองค์ความรู้ในเรื่องของนวัตกรรมให้กับสังคมเกษตรร่วมกับหน่วยงานต่างๆ EXperience การนำโซลูชันนวัตกรรมการเกษตรสมัยใหม่มาถ่ายทอดผ่าน "คูโบต้าฟาร์ม ฟาร์มสร้างประสบการณ์เกษตรสมัยใหม่" ขยายองค์ความรู้สู่เกษตรกรและบุคคลทั่วไป และ EXpansion การส่งต่อองค์ความรู้และขยายผลสู่ภูมิภาค ผ่านโครงการชุมชนพลังเกษตรสร้างสุขสยามคูโบต้า (SIAM KUBOTA Community Enterprise) และโครงการคูโบต้าร่วมมือ เกษตรร่วมใจ (KUBOTA and Farmer Cooperation) เพื่อต่อยอดองค์ความรู้ไปยังเกษตรกรไทยทุกกลุ่มเพื่อก้าวสู่ความยั่งยืนไปด้วยกัน ซึ่งตรงนี้ถือเป็นจุดเด่นของทางสยามคูโบต้า ควบคู่ไปกับแนวคิด Better Together ถ้าเกษตรกรดี ก็จะส่งผลดีต่อธุรกิจของเราด้วย เราจึงมุ่งเน้นที่จะทำให้เกษตรกรมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และจากแนวคิดดังกล่าวส่งผลให้บริษัทฯ คว้ารางวัลชนะเลิศในระดับเอเชีย จากเวที AMF Asia Marketing Excellence Award 2022 มาครองด้วยแผน Marketing 3.0 ของสยามคูโบต้าที่ทำให้ลูกค้ามีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่บริษัทฯ มุ่งเน้นทำการตลาดเพื่อลูกค้าอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด" นายพิษณุ กล่าวปิดท้าย
ทั้งนี้ ด้วยกรอบแนวคิด Better Together สู่การสร้าง Brand Engagement ทั้ง Farmer และ Non-Farmer จึงเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวการสร้างเกษตรยั่งยืนของสยามคูโบต้า ที่ส่งต่อไปถึงลูกค้าอย่างเป็นรูปธรรม จนทำให้คว้า 2 รางวัลใหญ่จากสมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย ได้แก่ Gold Award ประเภท Brand Experience & Communication แคมเปญการตลาดที่มีความเป็นเลิศด้านการสร้างคุณค่าของแบรนด์ และรางวัลสุดยอดแคมเปญแห่งปี ประเภท CMO's Top Choice Award ซึ่งเป็นการการันตีความสำเร็จแบรนด์ที่เคียงข้างเกษตรกรไทย
ที่มา: นิโอ ทาร์เก็ต