นายสุรพล โอภาสเสถียร ผู้จัดการใหญ่ เครดิตบูโร ชี้แจงว่า "จากสถานการณ์มิจฉาชีพรูปแบบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ (Call Center) ได้มีวิวัฒนาการที่ทำให้ดูน่าเชื่อถือมากขึ้น สร้างสถานการณ์ให้ตื่นตระหนกด้วยวิธีการต่าง ๆ อยู่เป็นจำนวนมาก โดยกรณีล่าสุด พบว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ฉวยโอกาสจากการสถานการณ์หนี้ครัวเรือน ประชาชนมีหนี้สิน ทำการแอบอ้างชื่อเป็นศูนย์เครดิตบูโร หลอกลวงว่าหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชนจะถูกขึ้นบัญชีดำ หากมีข้อสงสัยให้ติดต่อกลับนั้น เครดิตบูโรจึงขอแจ้งเตือนภัยขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อ และระวังอย่าให้ข้อมูลโดยเด็ดขาด และขอย้ำว่า เครดิตบูโรไม่มีนโยบายการโทรหาประชาชนรูปแบบ คอลเซ็นเตอร์แจ้งเตือนใด ๆ ทั้งสิ้น และไม่ได้เก็บบันทึกข้อมูลหมายเลขโทรศัพท์มือถือของผู้ใช้บริการ เครดิตบูโรตระหนักและให้ความสำคัญในการป้องกันภัยคุกคามทางการเงินอย่างต่อเนื่อง หากเกิดผู้เสียหายพร้อมประสานงานกับหน่วยงานรัฐเพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันที"
นายสุรพลกล่าวเพิ่มเติมว่า "สำหรับท่านที่ได้รับข้อความทางโทรศัพท์หรือคลิปเสียงผ่านไลน์จากมิจฉาชีพแก๊งคอลเซ็นเตอร์มีข้อความแอบอ้างว่า "สวัสดีค่ะ ศูนย์เครดิตบูโร หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชนของท่าน จะถูกขึ้นบัญชีดำ ภายใน 1 ชั่วโมง หากมีข้อสงสัย กรุณาถือสายรอ จนกว่าเจ้าหน้าที่จะรับสาย" เครดิตบูโรขอให้ประชาชนโปรดอย่าหลงเชื่อหากมีผู้ใดอ้างว่าต้องให้ท่านติดต่อกลับ เนื่องจากไม่เป็นความจริง ขอท่านได้โปรดตั้งสติ ไม่ตื่นตระหนก วิธีป้องกันตนเองคือไม่หลงเชื่อ ไม่ให้ข้อมูลส่วนตัวใด ๆ ของท่านเองโดยเด็ดขาด รวมทั้งห้ามกดลิงก์หรือติดตั้งแอปที่ไม่ทราบที่มาที่ไปอีกด้วย"
นายสุรพลกล่าวปิดท้าย "เครดิตบูโรมีหน้าที่จัดเก็บรักษา รวบรวมและประมวลผลข้อมูลสินเชื่อของลูกค้าสถาบันการเงินตามที่สถาบันการเงินหรือบริษัทที่เป็นสมาชิกจัดส่งให้เท่านั้น มิได้มีหน้าที่ขึ้นบัญชีดำ หรือ แบล็กลิสต์ใด ๆ ทั้งสิน รวมทั้งไม่มีความเกี่ยวข้องหรือมีสิทธิอนุมัติหรือร่วมตัดสินใจให้สินเชื่อกับใคร หากบุคคลใดกล่าวอ้างกับท่าน แจ้งเรื่องได้ที่ [email protected]"
ที่มา: ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ