ซึ่งปัจจุบันพบว่า มีธุรกิจเกิดใหม่จำนวนมาก ล้วนใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นเครื่องมือเป็นอาวุธแข่งขันทางธุรกิจ หากธุรกิจใดไม่มีการปรับตัวให้เท่าทันเทคโนโลยี ก็ทำให้เสียเปรียบการแข่งขันจนต้องล้มเลิกกิจการไปก่อนเวลาอันควร
อย่างไรก็ดี ที่น่าสนใจพบว่า มีธุรกิจที่เกิดจากความคิดสร้างสรรค์ของคนรุ่นใหม่ จำนวนมากที่ประสบผลสำเร็จ สามารถขยายสาขาอย่างรวดเร็ว บางรายพัฒนาเป็นธุรกิจแฟรนไชส์ที่มีชื่อเสียง ซึ่งกลยุทธ์ที่ทำให้ธุรกิจเหล่านี้ประสบผลสำเร็จ มาจากความคิดสร้างสรรค์ นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับใช้ ช่วยลดต้นทุนธุรกิจได้มากกว่าคู่แข่ง สามารถวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าได้ตรงเป้า สร้างโอกาสเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ไวและมีประสิทธิภาพ
สำหรับภายในงานจะมีผู้ประกอบการธุรกิจในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและส่วนกลาง รวมถึงภูมิภาคอื่นๆทั่วประเทศ ทั้งกลุ่มธุรกิจดิจิทัล ธุรกิจผู้ผลิตซอฟต์แวร์ ธุรกิจตัวแทนจำหน่าย สตาร์ทอัพ ตลอดจนสถาบันการเงินให้สินเชื่อธุรกิจ มาร่วมออกบูธแสดงสินค้าและบริการ ไม่ต่ำกว่า 200 บูธ นอกจากนี้ยังมีโซนจัดกิจกรรมสัมมนา เพื่อให้ความรู้ในประเด็นต่างๆที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีดิจิทัลในประเด็นที่หลากหลายน่าสนใจ โดยจัดขึ้นระหว่างวันที่ 5 - 9 ตุลาคม 2565 นี้ ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติขอนแก่น (KICE)
ส่วนรูปแบบของการจัดงานนั้น จะเป็นงานแสดงสินค้าในลักษณะ B to B หรือธุรกิจกับธุรกิจ โดยจะมีผู้ประกอบการด้านเทคโนโลยีดิจิทัล เช่น โปรแกรมซอฟแวร์ ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 20 จังหวัด รวมถึงผู้ประกอบการด้านดิจิตัลขนาดใหญ่จากส่วนกลาง ส่วนภูมิภาคอื่นๆมาร่วมออกบูธ ซึ่งผู้ประกอบการธุรกิจ บริษัทห้างร้านที่สนใจเทคโนโลยีใหม่ๆ สามารถมาเข้ามาชมงาน มาพบปะพูดคุย จะได้รู้ได้เห็น เทคโนโลยีใหม่ๆ ได้ไอเดียใหม่ๆ ที่จะนำไปปรับใช้กับธุรกิจของตัวเองได้
สำหรับกลุ่มเป้าหมายที่จะมาร่วมออกบูธ ประกอบด้วย องค์กรธุรกิจ สมาชิกหอการค้าภาคอีสาน ได้แก่ จังหวัดขอนแก่น ร้อยเอ็ด มหาสารคาม กาฬสินธุ์ อุดรธานี หนองคาย มุกดาหาร สกลนคร นครราชสีมา ชัยภูมิ และเลย สมาคมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ไทย สมาคม Thai Startup สถาบันการเงิน อาทิ ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และอื่นๆ
นายชาญณรงค์ คาดว่าตลอดระยะเวลาการจัดงาน 5 วันจะเกิดการเจรจาจับคู่ธุรกิจ รวมถึงการซื้อขายสินค้าและบริการด้านเทคโนโลยีภายในงาน ไม่น้อยกว่า 500 ล้านบาท โดยตั้งเป้าหมายที่จะจัดงานดังกล่าวนี้เป็นประจำทุกปีอย่างน้อยในปี 2566 และ 2567
โดยในปี 2566 จะเชิญผู้ประกอบการ ไบเออร์ และ เอ็กซิบิเตอร์ ซึ่งประกอบไปด้วย จีนตอนใต้ (ยูนนานและกวางสี), พม่า, ไทย, ลาว, กัมพูชา และเวียดนาม จะทำให้ขอนแก่นเป็น ฮับ ดิจิทัล ทรานส์ฟอร์ม จีเอ็มเอส เพื่อยกระดับเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจในระดับนานาชาติได้ในที่สุด
ที่มา: ซูม พีอาร์