ปฏิญญาดังกล่าวผ่านการลงนามรับรองโดยชาติสมาชิกทั้งหมดของ DCO ได้แก่ บาห์เรน, ไซปรัส, จิบูตี, คูเวต, โมร็อกโก, ไนจีเรีย, โอมาน, ปากีสถาน, จอร์แดน, รวันดา และซาอุดีอาระเบีย
การเรียกร้องให้ดำเนินการดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อผลักดันพันธกิจของ DCO ในการค้นหาและจัดการกับปัญหาด้านมนุษยธรรมที่เกี่ยวกับ AI ทั้งที่เกิดขึ้นแล้วในปัจจุบันและที่น่าจะเกิดขึ้นในอนาคต ปฏิญญาฉบับนี้เน้นเรื่องวิธีการใช้งาน AI รูปแบบต่าง ๆ ในฐานะเครื่องมือที่เป็นประโยชน์แก่ชีวิตผู้คนนับล้านทั่วโลกโดยยกระดับคุณภาพผลงาน พัฒนานโยบายสาธารณะที่ออกแบบมาดีขึ้น ตลอดจนส่งเสริมให้เกิดประสิทธิภาพในอีโคซิสเต็ม
คุณดีมาห์ อัล-ยาห์ยา (Deemah Al Yahya) เลขาธิการใหญ่ของ DCO กล่าวว่า "DCO ก่อตั้งขึ้นด้วยแนวคิดที่จะสถาปนาเศรษฐกิจดิจิทัลแบบเปิดกว้างผ่านความร่วมมือขององคาพยพที่หลากหลายในทุกระดับ ปฏิญญา RAICA จึงเป็นการนำแนวคิดนี้ไปปฏิบัติจริง การลงนามรับรองปฏิญญาฉบับนี้โดยชาติสมาชิกทั้งหมดของ DCO ยิ่งตอกย้ำถึงความปรารถนาร่วมที่จะพาทุกคนไปสู่อนาคตที่สดใสยิ่งขึ้น โดยใช้ประโยชน์จากศักยภาพมหาศาลของ AI เพื่อยกระดับชีวิตของผู้คนทั่วโลก"
ปฏิญญาดังกล่าวเน้นเรื่อง 7 เสาหลักที่จะช่วยทำให้อนาคตเช่นนี้กลายเป็นจริงขึ้นมาได้ โดยแต่ละข้อประกอบด้วยหลักการต่าง ๆ ที่มุ่งพูดถึงวิธีการที่จะรับประกันว่า ทุกคนจะได้รับประโยชน์จาก AI และไม่เกิดโทษแก่ผู้ใด
- ยุติความแตกแยกทางดิจิทัล
- มอบอำนาจแก่ชุมชนผู้ด้อยโอกาส
- ส่งเสริมการพัฒนาทางดิจิทัล
- รับประกันความเป็นธรรมและการไม่เลือกปฏิบัติ
- ขับเคลื่อนนวัตกรรมใน AI
- ต่อสู้กับภาวะโลกรวนโดยใช้ AI
- ให้ความร่วมมือและประสานงานกันในระดับนานาชาติ
DCO ได้พัฒนาชุดการดำเนินการในหลายด้านเพื่อนำหลักการเหล่านี้ไปปฏิบัติ โดยชาติสมาชิกจะผลักดันให้ทุกคนได้รับทรัพยากรที่จำเป็นต่อความรู้ความเข้าใจเรื่อง AI ร่วมงานกับองค์กรต่าง ๆ เพื่อหาวิธีใช้ AI เพื่อผลักดันเรื่องสิทธิมนุษยชน ปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล รับแนวทางจริยธรรม AI ที่ครอบคลุมไปปฏิบัติ พัฒนาโครงการริเริ่มที่ใช้ AI เพื่อแก้ไขปัญหาในระดับโลก ใช้ AI เพื่อลดผลกระทบจากมนุษย์ที่มีต่อสภาพอากาศ ตลอดจนจัดเตรียมความร่วมมือในระดับพหุภาคีเพื่อเร่งให้ชาติต่าง ๆ สามารถเข้าถึง AI ได้โดยง่าย
ดูปฏิญญาฉบับเต็มได้ที่ www.dcoinsights.com/RAICA
รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/1899010/SDAIA.jpg