นายอนุทิน กล่าวว่า ในนามรัฐบาล และกระทรวงสาธารณสุข ขอขอบคุณรัฐบาลจีน และมูลนิธิด้านการกุศลของจีนที่มีความปรารถนาดีให้กับประเทศไทยตลอดมา มีความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นของทั้งสองประเทศและมีความมุ่งมั่นที่ต้องการจะแก้ไขสถานการณ์ของโรคโควิด 19 ร่วมกัน ซึ่งในช่วงที่ผ่านมารัฐบาลจีนได้สนับสนุนข้อมูลและแนวทางการควบคุมการระบาดโควิด 19 ได้บริจาคทั้งเวชภัณฑ์ ยา วัคซีนให้แก่ประเทศไทย ใช้ต่อสู้กับโรคโควิด 19 ทำให้สถานการณ์เริ่มมีแนวโน้มลดลง และในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ กระทรวงสาธารณสุข ได้ปรับโรคโควิด 19 จากโรคติดต่ออันตรายเป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง ซึ่งระบบการดูแลต่างๆ มีความพร้อม ทั้งนี้เพื่อให้คนไทยเดินหน้าใช้ชีวิตตามปกติและขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่เริ่มกลับมาเข้มแข็งขึ้น
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ห้องปฏิบัติการเคลื่อนที่หัว-เหยี่ยน (The Huo-Yan Laboratory) ถือกำเนิดขึ้นเพื่อรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ในประเทศจีน มีการวางระบบห้องปฏิบัติการที่ถูกต้องตามมาตรฐาน เพื่อใช้ในการตรวจหาเชื้อไวรัสก่อโรคและเพียบพร้อมไปด้วยอุปกรณ์ทั้งด้านเทคนิคและการบริการภายในอย่างครบครัน โดยห้องปฏิบัติการเคลื่อนที่หัว-เหยี่ยนแห่งแรกได้เริ่มทำการติดตั้งที่ธนาคารพันธุศาสตร์นานาชาติแห่งประเทศจีน (China National Gene Bank) ในนครเซินเจิ้น มีลักษณะเป็นห้องปฏิบัติการเคลื่อนที่ที่ประกอบไปด้วยระบบจัดการของเสียทางการแพทย์ เครื่องมือสำหรับการวิเคราะห์ Real-time PCR เครื่องถอดรหัสทางพันธุกรรมและเทคโนโลยี การตรวจหาเชื้อไวรัส นอกจากนี้โครงสร้างของห้องปฏิบัติการเคลื่อนที่หัว-เหยี่ยนถูกสร้างขึ้นเพื่อรองรับการแปลงความดันบวกและลบจากระบบควบคุมความดันและอากาศบริสุทธิ์อัจฉริยะ ซึ่งช่วยลดต้นทุนการผลิตและประหยัดพลังงานในการก่อสร้าง ทำให้ห้องปฏิบัติการเคลื่อนที่นี้ใช้เวลาเพียงแค่ 24 ชั่วโมงในการเตรียม และติดตั้งเพียงแค่ 2-3 วันก็พร้อมใช้งานได้อย่างสมบูรณ์แบบ พร้อมกับการวางระบบกระแสไฟฟ้าแบบรวม และระบบการระบายอากาศที่ดีเยี่ยม รองรับการวิเคราะห์ตัวอย่างมากกว่า 5,000 ตัวอย่างต่อวัน สามารถช่วยคัดกรองเป้าหมายและบรรเทาวิกฤตการณ์โรคระบาดครั้งยิ่งใหญ่ในสังคมได้ ปัจจุบันห้องปฏิบัติการเคลื่อนที่หัว-เหยี่ยนได้ติดตั้งไปแล้วกว่า 102 ห้อง ใน 38 ประเทศทั่วโลก
"ห้องปฏิบัติการเคลื่อนที่นี้จะมีประโยชน์มาก เนื่องจากสามารถจัดเก็บและเคลื่อนย้ายไปติดตั้งในสถานที่ต่างๆ เป็นเทคโนโลยีที่แก้ปัญหาเรื่องข้อจำกัดด้านต้นทุนและระยะเวลาในการจัดตั้งห้องปฏิบัติการ มีความยืดหยุ่นสูงรวมทั้งสามารถปรับให้เหมาะสมตามความต้องการใช้งาน และนำไปใช้กับงานอื่นในระยะหลังการระบาดใหญ่ (Post pandemic) ได้ เช่น งานห้องปฏิบัติการชีวเคมี งานห้องปฏิบัติการภูมิคุ้มกันวิทยา งานตรวจวินิจฉัย ณ จุดดูแลผู้ป่วย (Point of care testing หรือ POCT) กระทรวงสาธารณสุขจะนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน" นายอนุทิน กล่าว
ที่มา: กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์