รศ.เกศินี วิฑูรชาติ อธิการบดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวถึงการจัดงาน ''Dome Coming Day" ภายใต้ธีม ''Dusk till Dawn" จากเส้นทางท่าพระจันทร์ถึงเส้นทางท่าพระอาทิตย์'' มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ประสบความสำเร็จอย่างมาก เป็นไปตามที่มุ่งหวังซึ่งอยากให้ทุกคนที่มาร่วมงานได้จำภาพดีๆ ของมหาวิทยาลัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งตึกโดมที่ถือว่าเป็นสัญลักษณ์สำคัญของมหาวิทยาลัย
"การที่มหาวิทยาลัยจะดำเนินการใดๆ ซึ่งจะมีผลกระทบต่อโครงสร้างหรือมีกิจกรรมใดที่จะเกิดขึ้นก็อยากจะบอกเล่าให้บรรดาศิษย์เก่าได้รับทราบ แต่หากจะบอกเป็นเอกสารก็อาจไม่ได้รับความสนใจ จึงเลือกที่จะบอกเล่าผ่านงานแฟร์ที่สนุกสนานรื่นเริงแทน ซึ่งก็ตรงใจศิษย์เก่าหลายคน เพราะต่างก็อยากกลับมาเจอเพื่อนมาเจอบรรยากาศเก่าๆ อันนี้เป็นจิตวิญญาณของคนธรรมศาสตร์ที่รักโดม รักเพื่อน รักแม่น้ำเจ้าพระยา เราจึงได้เห็นภาพศิษย์เก่าหลายๆ คนมาร่วมงานกันสนุกสนาน บางคนก็มาออกร้านขายของ ตรงนี้ก็สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจอีกด้วย ความสำเร็จดังกล่าวบวกกับที่ได้พูดคุยกับศิษย์หลายๆ คนเขาแฮปปี้เรียกร้องอยากให้เกิดขึ้นอีก แต่ก็ต้องมาพิจารณาว่าจะเพิ่มกิจกรรมให้มากขึ้นจากเดิมที่มีเพียง 2 วันเป็น 4-5 วัน หรือไม่ และอาจจะกำหนดช่วงเวลาที่จัดให้มีความเหมาะสมมากขึ้น"
ด้าน ผศ.ดร.ทวิดา กมลเวช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในฐานะศิษย์เก่าธรรมศาสตร์ที่ได้เข้าร่วมงานครั้งนี้ บอกว่า "แม้จะเพิ่งลาออกจากการเป็นคณบดีคณะรัฐศาสตร์ เพื่อไปรับตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัดกรุงเทพมหานครได้เพียง 4 เดือนก็รู้สึกคิดถึงมาก "อาจเป็นเพราะผูกพันกับธรรมศาสตร์มาตั้งเด็ก จบปริญญาตรี ปริญญาโท และทำงานที่นี่มานานกว่า 24 ปี มธ .จึงเป็นพื้นที่คุ้นชินสำหรับตัวเอง มีความมั่นใจ มีความอบอุ่น ถ้าถามความรู้สึก ก็อยากให้มหาวิทยาลัยมีการจัดงานนี้ทุกปี แต่อาจเลือกช่วงเวลาที่เหมาะสมให้ศิษย์เก่าสามารถมาร่วมงานได้มากๆ
ขณะที่ ศุภจี สุธรรมพันธ์ ซึ่งได้เข้าร่วมงานนี้ด้วยบอกว่า ธรรมศาสตร์เป็นเหมือนบ้านที่ทำให้เราเติบโต เป็นแหล่งที่ให้ทั้งปัญญา และหลักการในการดำเนินชีวิต ทุกครั้งที่ได้กลับมาธรรมศาสตร์จึงรู้สึกอบอุ่นเหมือนได้กลับมาบ้าน จริงๆ แล้วก็มาธรรมศาสตร์บ่อยมากเพราะเป็นกรรมการสภาฯ และยังเป็นอาจารย์สอนพิเศษคณะพาณิชย์ศาสตร์และการบัญชีด้วย แต่สำหรับงาน ''Dome Coming Day" ถือเป็นกิจกรรมที่ดี หลายคนที่ห่างหายไปนาน กลับมาก็ได้เห็นอะไรที่เปลี่ยนแปลง ได้มาระลึกถึงความทรงจำเดิมๆ ที่เคยมีมานาน ได้มานึกความผูกพันกับเพื่อนและครูบาอาจารย์เพียงเท่านี้ก็มีความสุขมากแล้ว จึงอยากให้ธรรมศาสตร์จัดกิจกรรมอย่างนี้ในทุกๆ ปี
สำหรับบรรยากาศภายในงานนอกจากได้สนุกสนานกับการแสดงบนเวทีแล้ว ยังได้อิ่มอร่อยกับร้านอาหารสุดชิคที่คัดสรรมาให้ผู้ร่วมงานได้ลิ้มลองรสชาติละมุนลิ้น พร้อมช้อปสนุกกับสินค้าจากร้านต่างๆ รวมถึงไฮไลท์สำคัญที่หลายคนไม่พลาดคือการถ่ายรูป "โดม" ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของธรรมศาสตร์ เพราะหลังงานผ่านพ้นงานนี้ไปแล้วทางมหาวิทยาลัยจะปิดตึกโดม เพื่อปรับปรุงโครงสร้างและตัวอาคารโดยใช้เวลาในการบูรณะ 3 ปี
ขณะเดียวกันยังมีกิจกรรมการเสวนากลุ่มย่อยทั้งในเชิงสังคมและการเมืองเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ รวมถึงการแนะแนวทางการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะกับกิจกรรมของ 88 SANDBOX ที่จัดเต็มกับงาน 88 Match & Mentor : SMART PEOPLE SMART SOCIETY เขย่าวงการสตาร์ทอัพไทย เปิดตัวคลับสำหรับนักลงทุนและ NFT โดย 88 SANDBOX"
ที่มา: มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์