นับตั้งแต่ปี 2019 โตโยต้าได้ริเริ่มและมุ่งมั่นดำเนินแคมเปญ 'ลดเปลี่ยนโลก กับโตโยต้า' มาอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นอีกหนึ่งแคมเปญเผยแพร่องค์ความรู้และกระตุ้นให้เกิดจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อม ภายใต้โครงการ 'โตโยต้าเมืองสีเขียว เพื่อธรรมชาติ เพื่อทุกชีวิต' ซึ่งได้รับความร่วมมือจากหลากหลายหน่วยงาน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนด้วยดีมาโดยตลอด ทำให้ในแคมเปญฯ ซีซันแรก มีผู้เข้าร่วมมากกว่า 30,000 คน และช่วยลดปริมาณขยะพลาสติกประเภทใช้ครั้งเดียวทิ้งไปได้ถึง 33,707 กิโลกรัม
ประกอบกับความต้องการลดมลภาวะที่เกิดขึ้นต่อโลกและสร้าง 'สังคมแห่งความเป็นกลางทางคาร์บอน' หรือ Carbon Neutrality Society โตโยต้าจึงให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการในทุกกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงการจัดกิจกรรมสนับสนุนคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าของผู้คนในสังคม พร้อมขับเคลื่อนประเทศไทยให้เป็นเมืองสีเขียว และตอกย้ำเป้าหมายสำคัญสูงสุดของโตโยต้า นั่นคือ ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นศูนย์ภายในปี 2050
สำหรับแคมเปญ 'ลดเปลี่ยนโลก กับโตโยต้า' ซีซันสองในปีนี้ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 22 เมษายน ถึง 15 กรกฎาคมที่ผ่านมา มีจำนวนคนลงทะเบียนร่วมกิจกรรมทั้งสิ้น 21,656 คน และเกิดแอ็กชันลดเปลี่ยนโลกรวม 51,486 ครั้ง จากชาเลนจ์ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ทั้ง 4 รูปแบบ ได้แก่
- แอ็กชันประหยัดน้ำ ประหยัดไฟ ลดค่าใช้จ่ายการใช้ไฟฟ้าและน้ำประปาลงในแต่ละเดือน
- แอ็กชันพกถุงผ้าหรือถุงกระดาษไปชอปปิงที่ Tops Market ไม่รับถุงพลาสติกเพิ่ม
- แอ็กชันการเดินทาง เลือกเติมน้ำมันพลังงานทางเลือก เช่น E20, E85, B7, B10, B20
- แอ็กชันสั่งอาหารผ่านแอปพลิเคชัน Grab โดยกดไม่รับช้อน ส้อม หลอดพลาสติกจากร้านค้า
นอกจากนั้น ยังมีกิจกรรมพิเศษประจำสัปดาห์ที่เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมแคมเปญฯ ได้แบ่งปันไอเดียเจ๋งๆ เป็นวิธีปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์หรือการใช้ชีวิตประจำวันให้รักษ์โลกมากขึ้น โดยมีเหล่า Greensters หรืออินฟลูเอนเซอร์บนโลกออนไลน์ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ร่วมกันสื่อสารและส่งต่อแนวความคิด 'สังคมแห่งความเป็นกลางทางคาร์บอน' ผ่านวิธีลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ไปยังทุกๆ คน โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่
'พิชญา มีมากบาง' หนึ่งในตัวแทนคนรุ่นใหม่ ได้บอกเล่าประสบการณ์และความรู้สึกหลังเข้าร่วมแคมเปญ 'ลดเปลี่ยนโลก กับโตโยต้า' ว่า "ทุกวันนี้ คนหันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อมและทุกๆ การกระทำของตัวเองกันมากขึ้น เพราะปัญหาโลกร้อนที่ทำให้เกิดผลกระทบอื่นๆ ตามมา ทั้งมลพิษและภัยพิบัติจนระบบนิเวศถูกทำลาย มีต้นตอมาจากน้ำมือของมนุษย์ ดังนั้น ในฐานะคนรุ่นใหม่ที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ในโลกนี้ไปอีกนาน หนทางที่เราทำได้ทันทีเพื่อเยียวยาโลกเอาไว้ ก็คือทำแอ็กชันทั้ง 4 อย่างต่อไป"
ทุกคนล้วนเป็นฟันเฟืองที่ช่วยขับเคลื่อนความเปลี่ยนแปลงทางบวกให้เกิดขึ้นกับโลก ทั้งลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และสร้างสมดุลให้ธรรมชาติได้จริง โตโยต้าจึงขอขอบคุณคนไทยทั่วประเทศที่เข้าร่วมแคมเปญ 'ลดเปลี่ยนโลก กับโตโยต้า' และทุกความร่วมมือที่เกิดขึ้นตลอดระยะเวลาจัดกิจกรรมจากทุกองค์กร บริษัท ห้าง ร้านค้า สื่อ พรีเซนเตอร์ และอินฟลูเอนเซอร์ ที่เป็นส่วนสำคัญทำให้โลกของเราน่าอยู่กว่าเคย
ถึงแม้ว่าแคมเปญ 'ลดเปลี่ยนโลก กับโตโยต้า' ในปีนี้จะสิ้นสุดลงไปแล้ว แต่โตโยต้าเชื่อมั่นว่าชาเลนจ์และทุกกิจกรรมจะสร้างแรงบันดาลใจเรื่องการอนุรักษ์ธรรมชาติ และส่งต่อความเชื่อที่ว่า 'WE DO TO BALANCE THE WORLD' พร้อมจุดประกายให้ทุกคนหันมาดูแลโลกด้วยสองมือของเราได้ไม่สิ้นสุด นับเป็นการเริ่มต้นเล็กๆ ที่ตัวเอง แต่กลับนำไปสู่ความเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่กว่าได้ เหมือนกับที่โตโยต้ายังคงมุ่งมั่นตั้งใจสร้างสรรค์กิจกรรมและคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ ไม่หยุดนิ่ง เพื่อบรรลุเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นศูนย์ภายในปี 2050
ติดตามกิจกรรมและข่าวสารของโตโยต้า ได้ที่ https://www.facebook.com/ToyotaCSR
ที่มา: โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย