โรคระบาดก่อให้เกิดการขาดแคลนแรงงานอย่างมหาศาล
สถานการณ์การเกิดโรคระบาดใหญ่ของโควิด -19 ได้สร้างความท้าทายอย่างมากให้กับอุตสาหกรรมการผลิต การปิดพรมแดน การปิดโรงงาน และข้อจำกัดในการเคลื่อนย้าย ล้วนส่งผลให้การปฏิบัติงานของบรรดาผู้ผลิตในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกต้องหยุดชะงัก นอกจากจะต้องเผชิญกับการหยุดกระบวนการผลิตภายในโรงงานแล้ว พวกเขายังต้องพบกับปัญหาการขาดแคลนแรงงานจำนวนมากนับตั้งแต่เริ่มมีการแพร่ระบาดใหญ่ดังกล่าว ความท้าทายเหล่านี้ได้เป็นแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้บรรดาผู้ผลิตต้องหันมาใช้ระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ เพื่อให้แน่ใจว่าธุรกิจจะสามารถดำเนินต่อไปในช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก มีการรายงานว่าเอเชียยังคงเป็นตลาดหุ่นยนต์อุตสาหกรรมที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งจากข้อมูลของสหพันธ์หุ่นยนต์นานาชาติ (International Federation of Robotics) พบว่าได้มีการส่งมอบหุ่นยนต์ไปแล้วทั้งหมด 354,500 ชุดในปีพ.ศ. 2564 ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 33% เมื่อเทียบกับปี พ.ศ. 2563
ความท้าทายที่ "เซ่งเฮง เอ็นจิเนียริ่ง" ต้องเผชิญ
บริษัท เซ่งเฮง เอ็นจิเนียริ่ง เป็นผู้ผลิตรุ่นที่สามในประเทศสิงคโปร์ซึ่งมีประสบการณ์ยาวนานถึง 70 ปี โดยเป็นผู้ให้บริการจัดหาผลิตภัณฑ์เพียงแหล่งเดียวสำหรับตัวยึด การตัดเฉือนแบบครบวงจร และผลิตภัณฑ์เคลือบที่ทนต่อการกัดกร่อน
ในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดใหญ่ บริษัท เซ่งเฮง เอ็นจิเนียริ่ง ต้องเผชิญกับปัญหาการหยุดชะงักในการปฏิบัติงานของพนักงานอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน สิ่งนี้ได้กระตุ้นให้บริษัทต้องพิจารณาปรับฟังก์ชันการทำงานบางอย่างให้กลายเป็นระบบอัตโนมัติเพื่อลดปัญหาคอขวดในกระบวนการผลิตอันสืบเนื่องมาจากการขาดแคลนแรงงานและความไม่แน่นอนของสถานการณ์ ณ ขณะนั้น
ทั้งนี้ บริษัท เซ่งเฮง เอ็นจิเนียริ่ง ได้ดำเนินการผลิตคอนเนคเตอร์ที่ลูกค้าสามารถสั่งผลิตได้ เช่น โบลท์และน็อตคุณภาพสูงที่ใช้ในการยึดอุปกรณ์ในอุตสาหกรรมการผลิตน้ำมันและก๊าซเพื่อความปลอดภัยในการปฏิบัติงานทั้งบนบก นอกชายฝั่ง และใต้ทะเล ซึ่งตัวยึดแต่ละตัวจะมีการสลักข้อมูลไว้อย่างพร้อมสรรพ เช่น หมายเลขชิ้นส่วน ข้อมูลวัสดุ และหมายเลขประจำตัวผลิตภัณฑ์ เพื่อความสะดวกในการอ้างอิงและสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ แต่ด้วยปัญหาจากการขาดแคลนกำลังคน จึงทำให้ประสิทธิภาพในกระบวนการผลิตต้องลดลงโดยเฉพาะในส่วนการสลักข้อความ ในฐานะที่เป็นหนึ่งในบริษัทผู้ผลิตตัวยึดเพียงไม่กี่รายในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ได้รับการรับรองจากสถาบันปิโตรเลียมแห่งสหรัฐอเมริกา (American Petroleum Institute: API) ในการผลิตโบลท์ที่มีความสำคัญต่ออุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซ ทำให้บรรดาซัพพลายเชนและอุตสาหกรรมต่างๆ ในระดับภูมิภาคต่างพึ่งพาบริษัท เซ่งเฮง เอ็นจิเนียริ่ง ให้เป็นผู้ผลิตคอนเนคเตอร์ที่มีคุณภาพและเชื่อถือได้สำหรับใช้งานในอุปกรณ์ของตน
ประสบความสำเร็จในการปรับใช้ที่บริษัท เซ่งเฮง เอ็นจิเนียริ่ง
ความปลอดภัยถือเป็นปัจจัยสำคัญประการหนึ่งสำหรับผู้ผลิต ดังนั้นโคบอตจึงเป็นโซลูชันที่เหมาะสมและพร้อมตอบโจทย์การทำงานโดยแท้จริง ทั้งนี้ โคบอตสามารถทำงานร่วมกับพนักงานที่เป็นมนุษย์ได้อย่างปลอดภัยโดยไม่ต้องใช้กรงนิรภัย (ในกรณีที่มีความเสี่ยง) โดยก่อนหน้านี้ กระบวนการขนเข้าและถ่ายออกตัวยึดในเครื่องจักรกลอัตโนมัติระบบคอมพิวเตอร์ หรือ ซีเอ็นซี (Computer Numerical Control: CNC) จะต้องดำเนินการโดยพนักงานที่เป็นมนุษย์ แต่เมื่อมีการนำโคบอตเข้ามาใช้งานก็สามารถช่วยลดภาระการทำงานของพนักงานจากกระบวนการที่ต้องทำซ้ำแล้วซ้ำอีก ซึ่งอาจใช้เวลานานถึงห้านาทีก่อนที่ตัวยึดแต่ละตัวจะเสร็จสมบูรณ์
"ในตอนแรกพนักงานของเรารู้สึกไม่สบายใจนักที่เราได้นำโคบอทมาใช้ในสายการผลิต เนื่องจากกลัวว่าโคบอตจะเข้ามาทำงานแทนที่พวกเขาในท้ายที่สุด แต่ในตอนนี้ พนักงานของเราเข้าใจดีแล้วว่าโคบอตเข้ามาช่วยแบ่งเบาภาระจากการทำงานที่ซ้ำซากจำเจ เพื่อให้พวกเขาสามารถทุ่มเทเวลาไปกับการทำงานที่ต้องใช้ทักษะทางปัญญามากกว่าได้ แม้แต่พนักงานที่ไม่มีพื้นฐานในการเขียนโปรแกรมก็ยังสามารถใช้งานโคบอตได้อย่างง่ายดาย โดยในช่วงระยะเวลาสั้นๆ เพียงสามเดือน เราก็ได้เห็นดอกผลที่งดงามจากการนำโคบอตเข้ามาใช้งานในกระบวนการผลิตแล้ว" แจ็กกี้ กล่าว
การสนับสนุนด้านวิศวกรรมเฉพาะทางจากออโตติก
บริษัท ออโตติก (Aubotic) ผู้ให้บริการด้านการรวมระบบที่ได้รับการรับรอง เป็นผู้สนับสนุนด้านวิศวกรรมที่ทันสมัยและสร้างระบบนิเวศที่ช่วยให้การปรับใช้โคบอตภายในโรงงานผลิตของบริษัท เซ่งเฮง เอ็นจิเนียริ่ง กลายเป็นเรื่องง่าย หลังจากมีการใช้งานโคบอทรุ่นยูอาร์10อี (UR10e) สองตัวร่วมกับกริปเปอร์ไฟฟ้า Onrobot ที่ได้รับการรับรองจากยูอาร์พลัส (UR+) ในฝั่งเครื่องซีเอ็นซีและเครื่องสลักข้อความแล้ว บริษัท เซ่งเฮง เอ็นจิเนียริ่ง ก็สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการผลิตได้มากถึง 50 เปอร์เซ็นต์ภายในสามเดือน
โดยนับตั้งแต่ที่มีการนำโคบอทเข้ามาใช้งาน บริษัทสามารถรับคำสั่งซื้อได้เป็นจำนวนมากและมีระยะเวลารอคอยสินค้าเพียงสามถึงห้าวันเท่านั้น ก่อนหน้านี้จากที่บริษัท เซ่งเฮง เอ็นจิเนียริ่ง เคยทำงานเพียงกะเดียวและได้เพิ่มกะที่สองในส่วนเครื่องซีเอ็นซีเนื่องจากมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมที่เข้มงวด แต่หลังจากโคบอตเข้ามาช่วยในกระบวนการผลิต การปฏิบัติงานในกะที่สองก็ยังคงดำเนินต่อไปได้อย่างราบรื่น เนื่องจากโคบอทได้เข้ามาเสริมแทนกำลังคนได้ในช่วงกะกลางคืน และบริษัทยังสามารถแก้ปัญหาคอขวดด้วยการเปิดเดินเครื่องจักรได้อย่างต่อเนื่องอีกด้วย การนำโคบอตเข้ามาใช้งานได้ส่งผลให้คำสั่งซื้อสามารถดำเนินการให้เสร็จสิ้นได้ภายในระยะเวลาอันสั้นและไม่มีการหยุดชะงักในการปฏิบัติงาน
"เราพบว่าประสิทธิภาพในการผลิตเพิ่มขึ้นอย่างมากหลังจากนำโคบอท รุ่นยูอาร์ 10 อีสองตัวนี้เข้ามาช่วยเปลี่ยนกระบวนการทำงานของเครื่องซีเอ็นซีและการสลักข้อความให้กลายเป็นระบบอัตโนมัติ นอกจากนี้ โคบอทยังสามารถทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมงควบคู่ไปกับพนักงานของเราได้ สิ่งนี้ช่วยลดปัญหาการทำงานที่น่าเบื่อและซ้ำซากจำเจให้กับพนักงานอย่างเห็นได้ชัด" แจ็กกี้ เลา กรรมการผู้จัดการบริษัท เซ่งเฮง เอ็นจิเนียริ่ง กล่าว
หลังจากที่บริษัท เซ่งเฮง เอ็นจิเนียริ่ง ได้นำระบบอัตโนมัติมาใช้เป็นผู้ช่วยหลักของพนักงานที่เปี่ยมล้นไปด้วยความชาญฉลาดและความสามารถในการรองรับปริมาณงานได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว บริษัทก็มีแผนที่จะนำโคบอทมาปรับใช้งานเพิ่มเติมในอนาคตอันใกล้นี้ด้วย
ที่มา: มายด์ พีอาร์