ทั้งนี้ "PTG - กรมการค้าภายใน - อิชิตัน" ยังได้ผนึกกำลังภาคีเครือข่ายภาคเอกชน 10 ราย ประกอบด้วย ผู้ประกอบการแปรรูป (บจก.สามร้อยยอด และบจก.นานาฟรุ้ต) ผู้ประกอบการส่งออก (บจก. สตูดิโอ จี บาร์ บจก. มาตา เทรดดิ้ง และบจก. เอ็มที ฟรุ๊ตแลนด์) ห้างค้าส่ง-ค้าปลีก (แม็คโคร โลตัส เดอะมอลล์ เซ็นทรัล และบิ๊กซี) ทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้าผลผลิตสับปะรด ภายใต้สัญญาข้อตกลงมาตรฐานของกรมการค้าภายใน กับกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกสับปะรด จังหวัดเชียงราย จำนวน 12 กลุ่ม 4 อำเภอ รับซื้อสับปะรดเชียงราย รวม 12,600 ตัน แบ่งเป็น พันธุ์ภูแล 8,300 ตัน ในราคานำตลาด ไม่ต่ำกว่า กก.ละ 6 บาท ปัตตาเวีย 4,300 ตันในราคานำตลาดไม่ต่ำกว่า กก.ละ 5 บาท เพื่อกระจายผลผลิตออกสู่ช่องทางต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การแปรรูปเป็นน้ำสับปะรด อย่างไรก็ตาม PTG และ อิชิตัน พร้อมร่วมมือกันนำสับปะรดไปแปรรูปเป็นน้ำบรรจุขวด ภายใต้แบรนด์ "หลวงพ่อพบโชค" โดยการรับซื้อสินค้าสับปะรดเป็นการล่วงหน้านี้ จะเป็นหลักประกันให้กับเกษตรกรสามารถขายสับปะรดได้ในราคาที่ทำการซื้อขายอย่างแน่นอน ซึ่งจะส่งผลให้ราคาซื้อขายปัจจุบันอยู่ในเกณฑ์ดีกว่าปีที่ผ่านมาเป็นอย่างมาก และจะส่งผลให้เกษตรกรไทยได้ "อยู่ดี มีสุข"
ที่มา: เดอะเวย์ คอมมิวนิเคชั่น