นายบุญเอื้อม น้อยเอม กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาร์ไอแอล 1996 จำกัด ใน SCGC กล่าวว่า "นิคมอุตสาหกรรม RIL ใน SCGC ได้ขับเคลื่อนให้โรงงานทั้งหมดที่ดำเนินธุรกิจอยู่ภายในนิคมฯ ผ่านการรับรองเป็นโรงงานเชิงนิเวศ หรือ Eco Factory 100% โดยร่วมมือกับภาครัฐ ภาคอุตสาหกรรม และชุมชน ร่วมกันผลักดันให้เกิดเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศในจังหวัดระยอง พร้อมทั้งมีการบริหารจัดการนิคมอุตสาหกรรมตามกรอบแนวคิดการพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน และการดำเนินธุรกิจตามแนวทาง ESG รวมทั้งการยกระดับมาตรฐานการจัดการด้านต่าง ๆ เช่น มาตรฐานการจัดการความปลอดภัยในกระบวนการผลิต (Process Safety Management; PSM) การดำเนินงานมาตรฐานอุตสาหกรรมสีเขียวระดับสูงสุด (Green Industry Level 5) รวมทั้งมาตรฐานโรงงานเชิงนิเวศ (Eco Factory) มาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการพัฒนานวัตกรรมและนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาช่วยในกระบวนการผลิต เป็นต้น จึงทำให้นิคมอุตสาหกรรม RIL ได้รับการรับรองจาก กนอ. ให้เป็นนิคมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศระดับ Eco-World Class ซึ่งเป็นระดับสูงสุดแห่งแรกในประเทศไทย ต่อเนื่องถึง 4 ปี นับตั้งแต่ปี 2562 จนถึงปัจจุบัน"
ซึ่งโครงการที่มีส่วนสนับสนุนให้นิคมอุตสาหกรรม RIL ได้รับการรับรองเป็น Eco-World Class ในปีนี้ ได้แก่ โครงการด้าน Symbiosis หรือการแลกเปลี่ยนก๊าซเชื้อเพลิงและรีไซเคิลก๊าซเหลือทิ้งระหว่างโรงงานภายในนิคมฯ ทำให้ลดการกำจัดของเสียและเปลี่ยนเป็นมูลค่าเพิ่มได้ในเชิงพาณิชย์ที่เป็นต้นแบบของประเทศ โครงการ Flare Gas Recovery การนำสารไฮโดรคาร์บอนที่ต้องเผาทิ้งนำกลับมาใช้ใหม่ สามารถลด อัตราการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 997 ตัน โครงการ Vent Gas Recovery การติดตั้งท่อเพื่อนำก๊าซที่เหลือจากระบบกลับเข้าสู่กระบวนการผลิต สามารถลดการซื้อวัตถุดิบได้ 13,664 ตัน โครงการด้าน Circular Economy หรือเศรษฐกิจหมุนเวียน ด้วยการนำถ่านกัมมันต์ (Activated Carbon) ไปฟื้นฟูเพื่อกลับมาใช้ใหม่ ลดปริมาณของเสียที่ต้องกำจัดลงได้จำนวนมาก และโครงการด้าน Eco Community ณ ชุมชนเนินพยอม ในเขตเทศบาลเมืองมาบตาพุด จ.ระยอง โดยการส่งเสริมและปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นในชุมชน การจัดกิจกรรมและการรวมกลุ่มชุมชนเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต รวมทั้งการพัฒนาและส่งเสริมด้านเศรษฐกิจท้องถิ่น ได้แก่ โครงการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน ตั้งแต่การผลิต การหาตลาด การช่วยพัฒนาบรรจุภัณฑ์ และช่วยเพิ่มช่องทางการขายทางออนไลน์ ประเด็นสิ่งแวดล้อม ได้แก่ โครงการคัดแยกขยะและสร้างมูลค่าเพิ่มจากขยะ รวมทั้งสนับสนุนธนาคารขยะชุมชนและถ่ายทอดองค์ความรู้เรื่องการลดก๊าซเรือนกระจกด้วยการแยกขยะ และโครงการด้านการดูแลความปลอดภัยในชุมชน ได้แก่ โครงการ The Lifesaver ผู้พิทักษ์ชีวิต เป็นต้น
นอกจากนี้ ภายในงาน ECO Innovation Forum 2022 ยังมีอีก 7 โรงงานในกลุ่มธุรกิจ SCGC ที่ได้รับรางวัล โรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ (Eco Factory) ได้แก่ บริษัท ไทยพลาสติกและเคมีภัณฑ์ จำกัด (มหาชน) บริษัท มาบตาพุดโอเลฟินส์ จำกัด บริษัท มาบตาพุด แทงค์ เทอร์มินัล จำกัด บริษัท ระยองเทอร์มินัล จำกัด บริษัท ไทยเอ็มเอ็มเอ จำกัด บริษัท ไทยเอ็มเอฟซี จำกัด และบริษัท แกรนด์สยามคอมโพสิต จำกัด และมี 4 โรงงาน ที่ได้รับรางวัลโรงงานสนับสนุนข้อมูลการดำเนินงานพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ ได้แก่ บริษัท ไทยโพลิเอททีลีน จำกัด บริษัท มาบตาพุดโอเลฟินส์ จำกัด บริษัท มาบตาพุด แทงค์ เทอร์มินัล จำกัด และ บริษัท ระยองเทอร์มินัล จำกัด เหล่านี้เป็นสิ่งที่ยืนยันให้เห็นถึงความมุ่งมั่น ตั้งใจจริง และการร่วมมือกันก้าวสู่การพัฒนาเป็นเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศได้อย่างเป็นรูปธรรม
ทั้งนี้ การรับรองนิคมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศจากการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) มีด้วยกันทั้งหมด 3 ระดับ ได้แก่ ระดับที่ 1 Eco-Champion ระดับที่ 2 Eco-Excellence และระดับที่ 3 Eco-World Class (ระดับสูงสุด) อีกทั้งยังมีรางวัลโรงงานสนับสนุนข้อมูลการดำเนินงานพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ รวมทั้งการรับรองจากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ที่ประกอบไปด้วย รางวัลโรงงานเชิงนิเวศ (Eco Factory) และโรงงานอุตสาหกรรม 4.0 ตามลำดับ
ผู้สนใจสามารถติดตามนวัตกรรมและข่าวสารอื่นๆ ของเอสซีจีได้ที่ https://www.scg.com/esg/ https://scgnewschannel.com /Facebook: scgnewschannel / Twitter: @scgnewschannel หรือ Line@: @scgnewschannel
ที่มา: เอสซีจี