โอกาสนี้ พระราชทานพระวโรกาสให้นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาเฝ้า กราบทูลสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาซึ่งได้รับผลกระทบจากอิทธิพล "พายุโนรู" ตั้งแต่วันที่ 28 กันยายน 2565 เป็นต้นมา ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่ทั้ง 32 อำเภอ ทำให้เกิดสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่รวมทั้งสิ้น 20 อำเภอ บ้านเรือนถูกน้ำท่วมขัง 6,220 หลัง วัด 37 แห่ง โรงเรียน 38 แห่ง สถานที่ราชการ 9 แห่ง ถนน 174 สาย พื้นที่การเกษตรเสียหายประมาณ 165,507 ไร่
จากนั้นพระราชทานสิ่งของยังชีพ จำนวน 500 ชุด ประกอบด้วย เครื่องอุปโภคบริโภคที่มีความจำเป็นสำหรับการดำรงชีวิต เช่น ข้าวสาร อาหารแห้ง ผ้าเช็ดตัว สบู่ ยาสีฟัน แปรงสีฟัน หน้ากากอนามัย ยา และเวชภัณฑ์ แก่นายอำเภอพิมาย และผู้แทนราษฎรที่ประสบอุทกภัย จำนวน 10 ราย เพื่อเชิญไปมอบให้แก่ผู้ประสบอุทกภัยอำเภอพิมาย ได้นำไปใช้บรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น และเป็นขวัญกำลังใจต่อไป
ต่อมาเวลา 11.30 น. เสด็จไปยังสะพานท่าสงกรานต์ ตำบลในเมือง อำเภอพิมาย ทรงติดตามสถานการณ์อุทกภัยในอำเภอพิมาย และทอดพระเนตรสถานการณ์น้ำในแม่น้ำมูล เนื่องจากสภาพทางภูมิศาสตร์อำเภอพิมาย เป็นพื้นที่รับมวลน้ำจากลำน้ำสายสำคัญจำนวน 5 สาย ที่ไหลมารวมกัน ได้แก่ ลำพระเพลิง ลำตะคอง ลำเชียงไกร ลำจักราช และลำน้ำมูล ประกอบกับปริมาณน้ำฝนที่ตกหนักสะสม ทำให้เกิดน้ำเอ่อล้นตลิ่ง และท่วมขังในพื้นที่อำเภอพิมายเป็นวงกว้าง นับตั้งแต่วันที่ 3 ตุลาคม 2565 ทั้งนี้มีประชาชนได้รับผลกระทบรวม 11 ตำบล 131หมู่บ้าน บ้านเรือนราษฏรถูกน้ำท่วมขัง 2,500 ครัวเรือน วัด 7 แห่ง โรงเรียน 9 แห่ง สถานที่ราชการ 4 แห่ง ถนน 20 สาย พื้นที่การเกษตรเสียหายประมาณ 17,217 ไร่
ปัจจุบัน จังหวัดนครราชสีมา บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆในพื้นที่ให้ความช่วยเหลือแก่ราษฎร เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำท่วมในพื้นที่ชุมชน และพื้นที่เศรษฐกิจในเขตเทศบาลตำบลพิมาย และองค์การบริหารส่วนประกอบส่วนตำบลในเมือง ซึ่งมีสถานที่สำคัญ ได้แก่ อุทยานประวัติศาสตร์พิมาย โรงพยาบาลพิมาย และโรงเรียนพิมายวิทยา เพื่อให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบ มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และก้าวข้ามผ่านวิกฤตินี้โดยเร็ว
ที่มา: ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์