ดร.ชินดนัย ไชยยอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์ห้องปฏิบัติการและวิจัยทางการแพทย์และการเกษตรแห่งเอเซีย จำกัด (มหาชน) หรือ AMARC (เอมาร์ค) กล่าวว่า บริษัทฯ ขอขอบคุณนักลงทุนทุกท่านที่เชื่อมั่นในศักยภาพการเติบโตของธุรกิจศูนย์แล็บครบวงจรของคนไทยที่อยู่ในอุตสาหกรรมมากว่า 18 ปี ทำให้หลังจากที่บริษัทฯ เปิดจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุน (IPO) เมื่อวันที่ 5 - 7 ตุลาคมที่ผ่านมา ที่ราคาหุ้นละ 2.90 บาท ประสบความสำเร็จและได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนอย่างล้นหลาม
เงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ประมาณ 332.10 ล้านบาท (หลังหักค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการเสนอขายหลักทรัพย์) จะนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดตามแผนงานที่วางไว้ โดยจะนำไปใช้จัดซื้อเครื่องมือวิทยาศาสตร์ 96.00 ล้านบาท ใช้ชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน 75.00 ล้านบาท และส่วนที่เหลือ 161.10 ล้านบาท ใช้เป็นเงินทุนเวียนในการประกอบธุรกิจเพิ่มศักยภาพการเติบโตในอนาคต ตามความต้องการผลิตภัณฑ์การเกษตรและอาหารที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งต้องผ่านการตรวจสอบจากห้องปฏิบัติการที่ได้มาตรฐานความปลอดภัย
การเข้ามาระดมทุน จึงเป็นการปลดล็อกศักยภาพในการเติบโตให้บริษัทฯ โดยมีเป้าหมายในการประกอบธุรกิจ "มุ่งเป็นแล็บชั้นนำระดับสากล" เป็นผู้ตรวจสอบและรับรองคุณภาพผลิตภัณฑ์การเกษตร อาหาร และสิ่งแวดล้อม ที่อุตสาหกรรมและผู้บริโภคเชื่อมั่น ซึ่งบริษัทฯ และพนักงานทุกคน มีเป้าหมายร่วมกันว่า AMARC จะไม่เป็นแค่แล็บระดับประเทศ แต่จะพัฒนาเป็นแล็บระดับสากล เป็นที่ยอมรับและมีความสามารถทัดเทียมระดับโลก
อีกทั้ง บริษัทฯ มีโครงการมุ่งสู่ความเป็นเลิศของห้องปฏิบัติการทดสอบวิเคราะห์ด้านเกษตร อาหาร และยา เป็นห้องปฏิบัติการที่สามารถให้บริการทดสอบได้ครอบคลุมครบถ้วน มีผลลัพธ์ที่ถูกต้องแม่นยำ และมีบริการที่ดีรวดเร็ว สามารถตอบสนองพลวัตของภาคธุรกิจ พร้อมรองรับการทดสอบสำหรับมาตรฐานต่างๆ ที่จะมีขึ้นในอนาคต
ปัจจุบัน AMARC มีสำนักงาน 2 แห่ง ตั้งอยู่ในภาคกลางทั้งหมด มีสัดส่วนรายได้จากลูกค้าในภาคกลางเป็นส่วนใหญ่ อีกทั้งกลุ่มลูกค้าส่วนภูมิภาคส่วนใหญ่จะเป็นงานที่ได้รับจากภาครัฐ บริษัทฯ จึงมองเห็นโอกาสในการขยายตลาดไปยังภูมิภาคอื่นเพิ่มเติม ทั้งภาคเอกชนที่บริษัทฯ ยังไม่ได้มุ่งเน้นทำการตลาด และภาครัฐซึ่งมีการสนับสนุนงบประมาณด้านเกษตรอาหารเป็นจำนวนมาก
AMARC มีแผนการจัดตั้งสำนักงานส่วนภูมิภาคให้ครอบคลุมทั้งในภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยสำนักงานส่วนภูมิภาคจะมีลักษณะการทำงานในรูปแบบของศูนย์ประสานงานและรับตัวอย่าง และจัดส่งต่อเข้าสู่ห้องปฏิบัติการที่สำนักงานใหญ่ เพื่ออำนวยความสะดวกในการติดต่อประสานงาน และให้บริการแก่ลูกค้าในแต่ละภูมิภาคได้อย่างใกล้ชิด โดยบริษัทฯ คาดว่าโครงการดังกล่าวต้องใช้เงินลงทุนต่อสาขาประมาณ 1 - 2 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับพื้นที่ตั้งของสาขา และคาดว่าจะเริ่มทยอยเปิดให้บริการได้ตั้งแต่ปี 2565 และครบถ้วนทุกภูมิภาคในปี 2566
นายวิศรุต อังศุภากร ผู้อำนวยการสายงานวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายร่วม ของบริษัท ศูนย์ห้องปฏิบัติการและวิจัยทางการแพทย์และการเกษตรแห่งเอเซีย จำกัด (มหาชน) หรือ AMARC เปิดเผยถึงกระแสอันร้อนแรงในการจองซื้อหุ้น IPO ของ AMARC ในช่วงที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับอย่างคึกคักจากนักลงทุนตั้งแต่วันแรก และมีผู้แสดงความสนใจเข้ามาเกินคาดหมาย
ปัจจัยที่สนับสนุนการจองซื้อในครั้งนี้ให้ประสบความสำเร็จมาจากปัจจัยพื้นฐานของบริษัทฯที่มีความแข็งแกร่ง และด้วยจุดแข็งในด้านความมั่นคงและชื่อเสียง จากการเป็นผู้ให้บริการทางวิทยาศาสตร์มายาวนานกว่า 18 ปี มีวัตถุประสงค์ที่จะช่วยทำให้สินค้าเกษตรและอาหารของประเทศไทยได้รับการควบคุมคุณภาพ เพื่อร่วมสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยให้กับผู้บริโภคทั้งในประเทศและต่างประเทศ
โดยวางกลยุทธ์ที่มุ่งสู่การเป็นผู้ให้บริการทดสอบ ตรวจสอบ และรับรอง แบบ Comprehensive Supply Chain Service สำหรับอุตสาหกรรมเกษตรและอาหาร ทำให้บริษัทฯ ได้รับความไว้วางใจในการเป็นผู้ให้บริการจากลูกค้า สามารถรักษาฐานลูกค้ารายเดิมในอัตราที่สูงขณะที่ทิศทางอุตสาหกรรมเกษตร อาหาร และอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่อง มีแนวโน้มเติบโตในอนาคต
คุณพัชพร สรรคบุรานุรักษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะแกนนำการจำหน่ายร่วม กล่าวเสริมว่า การเข้ามาระดมทุนในครั้งนี้จะเป็นการเพิ่มศักยภาพทางธุรกิจ และโอกาสในการที่ AMARC ขยายขอบเขตการให้บริการ และขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ ในระดับภูมิภาค ให้ครอบคลุมความต้องการของลูกค้าในหลากมิติ การสร้างรายได้และกำไรที่ดีต่อเนื่องในอนาคต ประกอบกับการกำหนดราคาที่เหมาะสม สนับสนุนให้หุ้น IPO ทั้งหมด 120 ล้านหุ้น ที่เสนอขายได้รับการจองซื้อจากนักลงทุนหมดทั้งจำนวน และเตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในหมวดธุรกิจบริการ ในชื่อหลักทรัพย์ว่า "AMARC" มองว่า AMARC จะเป็นหุ้นพื้นฐานดีที่ไม่ควรมองข้าม นักลงทุนที่พลาดโอกาสในการจองซื้อหุ้น IPO ช่วงที่ผ่านมา สามารถจับจองบนกระดานหลักทรัพย์ได้ วันที่ 19 ตุลาคมนี้
ที่มา: ไออาร์ พลัส