มร. จอร์จ โรดิกัส กรรมการผู้จัดการ อินฟลูเอ็นเชี่ยล แบรนด์ ประเทศสิงคโปร์ กล่าวว่า "ในฐานะที่อินฟลูเอ็นเชี่ยล แบรนด์ เป็นองค์กรที่เชี่ยวชาญด้านความรู้ทางธุรกิจและการสร้างแบรนด์ในเอเชียมายาวนานกว่า 20 ปี มีสำนักงานใหญ่อยู่ในประเทศสิงคโปร์ และได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเป็นองค์กรที่ยกย่อง "สุดยอดองค์กรที่มีความเป็นเลิศ" และส่งเสริมการแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างบริษัทชั้นนำในเอเชีย เราตระหนักถึงความเป็นเลิศทางธุรกิจและความสามารถในการปรับตัวของธุรกิจไทยในช่วงเวลาที่ท้าทายนี้ หลายปีที่ผ่านมาไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ผมเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้ยังช่วยให้บริษัทต่างๆ มีโอกาสสร้างความแข็งแกร่งและพลิกโฉมธุรกิจของตน เราเชื่อว่าบริษัทไทยจะได้รับประโยชน์จากการแลกเปลี่ยนและสร้างเครือข่ายกับบริษัทที่ดีที่สุดในระดับเดียวกันผ่านเครือข่ายระดับโลกและระดับภูมิภาคที่ดีที่สุดของเรา"
ในปีที่เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้ทิ้งผลกระทบเชิงลบต่อธุรกิจทั่วโลก ทางอินฟลูเอ็นเชี่ยล แบรนด์ มีการจำแนกการรับรู้ถึงแบรนด์ที่สามารถสร้างสรรค์นวัตกรรมและคงความเกี่ยวข้องกับผู้บริโภคได้ แม้ว่าจะมีปัญหามากมายก็ตาม ตามหัวข้อเกี่ยวกับความเป็นผู้นำ การสร้างแบรนด์ และการมีส่วนร่วมของพนักงาน สิ่งเหล่านี้เป็นพื้นฐานของการทำธุรกิจ โดยเราได้แบ่งรางวัลออกเป็น 5 ประเภท ดังนี้
รางวัลเกณฑ์การคัดเลือกรางวัลแบรนด์ที่ทรงอิทธิพลต่อผู้บริโภคมากที่สุดแบรนด์ผู้นำตลาดที่ผู้บริโภคชื่นชอบรางวัลแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจสูงสุดต่อเนื่องแบรนด์ที่มีการเติบโตต่อเนื่องและมีแนวทางการสร้างแบรนด์ที่ยอดเยี่ยมรางวัลนายจ้างดีเด่นการมีส่วนร่วมของพนักงานและวัฒนธรรมองค์กรระดับสูงรางวัลผู้บริหารองค์กรชั้นนำผู้บริหารสูงสุดที่สามารถนำพาธุรกิจให้เจริญเติบโต หรือปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลงด้านต่างๆได้ดีเยี่ยม รางวัลผู้นำดีเด่นผู้บริหารที่สร้างการเปลี่ยนแปลงหรือปรับโฉมสายงานธุรกิจที่รับผิดชอบซึ่งส่งผลต่อรายได้หรือชื่อเสียงของธุรกิจโดยรวมของบริษัทแบรนด์ยอดนิยมในปี 2564 ได้แก่ ลาซาด้า ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล เดอะมอลล์ กรุ๊ป สยามแม็คโคร บางจาก คอร์ปอเรชั่น ทรู คอร์ปอเรชั่น เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต เมืองไทยประกันชีวิต ไทยประกันชีวิต และอื่นๆ
ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ได้มีการสำรวจผู้บริโภคกลุ่มมิลเลนเนียลในประเทศไทย ซึ่งมีอายุระหว่าง 24-39 ปี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเฟ้นหาแบรนด์ยอดนิยมในใจผู้บริโภคประจำปี 2565
ผู้บริโภคกลุ่มมิลเลนเนียลถือเป็นกลุ่มรากฐานที่สำคัญของเศรษฐกิจไทย และเป็นกลุ่มอายุที่มีสัดส่วนการใช้จ่ายสูงสุดในประเทศในปัจจุบัน โดยขนาดกลุ่มตัวอย่างให้ระดับความเชื่อมั่นอยู่ที่ 95% และ +/-5% ซึ่งสามารถสะท้อนถึงมุมมองและความพึงพอใจในแบรนด์ของกลุ่มมิลเลนเนียลชาวไทย
ประเภทของธุรกิจที่ทำการสำรวจ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ ธุรกิจเอฟเอ็มซีจีกว่า 92 แคทธีกลอรีส์ รวมถึงประเภทธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ต / ไฮเปอร์มาร์เก็ต แพลตฟอร์มมาร์เก็ตเพลสออนไลน์ ฟาสท์ฟู้ด ร้านอาหาร เบเกอรี่เชน ธนาคาร ห้างสรรพสินค้า ร้านสะดวกซื้อ คอมพิวเตอร์แบบพกพา โทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟน ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ ร้านกาแฟ รถหรูและรถอีโค่คาร์ กล้องถ่ายรูป อสังหาริมทรัพย์ / ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ สถานีบริการน้ำมัน ประกันชีวิตและประภันภัย ผู้ให้บริการเดลิเวอรี ซึ่งผลสำรวจได้แสดงให้เห็นว่าแบรนด์ใดเป็นแบรนด์ที่อยู่ในใจและมีอิทธิพลต่อประชาชนสูงสุด
นางวรรณี ลีลาเวชบุตร ผู้นำด้านที่ปรึกษาชื่อเสียงองค์กรในประเทศไทย บริษัทนิโอ ทาร์เก็ต เปิดเผยว่า "ข้อมูลเชิงลึกจากการสำรวจในปี2564 ได้ชี้ให้เห็นว่า การระบาดใหญ่ของโควิด-19 มีบทบาทสำคัญในการกำหนดการตัดสินใจของผู้บริโภค เมื่อถามถึงสิ่งที่สำคัญที่สุดในการซื้อสินค้า คำว่า "ความคุ้มค่า" มาเป็นอันดับแรก ตามด้วย "คุณภาพที่คงทน" และ "ราคาที่ต่ำกว่า" ท่ามกลางปัจจัยอื่นๆ เมื่อเทียบกับผลลัพธ์ในปีที่ผ่านมา มีผู้บริโภคที่เลือกตัวเลือกเหล่านี้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ในขณะที่ "แบรนด์" และ "ความสะดวกสบาย" ยังเป็นข้อพิจารณาที่สำคัญเมื่อเทียบกับ "การรับประกัน" "บริการ" และ "ความปลอดภัย"สำหรับในปีนี้ ผลสำรวจพบว่า ปัจจัยที่ทำให้ผู้บริโภคเลือกซื้อสินค้ายังคงให้ความสำคัญต่อความคุ้มค่าของการจ่ายเงิน ที่จะซื้อสินค้านั้น ๆ ตามมาด้วยการเลือกคุณภาพของสินค้าและการเลือกแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ ซึ่งจะเห็นได้ว่า การสร้างความน่าเชื่อถือต่อแบรนด์สินค้าเป็นองค์ประกอบสำคัญต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค"
การศึกษานี้เป็นส่วนหนึ่งของการวิจัยตลาดใน 6 ประเทศ ภูมิภาคเอเชียได้แก่ สิงคโปร์ ไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย เวียดนาม และจีน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรวบรวมความคิดเห็นโดยรวมเกี่ยวกับความชอบของผู้บริโภคในเอเชีย
การประกาศผลผู้ชนะรางวัลจะมีขึ้นในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2565 และจะมีการจัดพิธีมอบรางวัลอย่างเป็นทางการในต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2566
ที่มา: นิโอ ทาร์เก็ต
