นายสันติสุข คล่องใช้ยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เอเชีย เอวิเอชั่น และ บจ. ไทยแอร์เอเชีย กล่าวว่า 2-3 ปีที่ผ่านมา เป็นสถานการณ์ที่ท้าทายที่สุดของทุกธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจสายการบินที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก แต่ด้วยกลยุทธ์และแนวทางในการดำเนินธุรกิจแบบยั่งยืนในทุกมิติ ทั้งเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม (Environmental, Social, Governance: ESG) ทำให้เราผ่านสถานการณ์นั้นมาได้ และกลับมาเติบโตอย่างแข็งแกร่ง พร้อมชิงความได้เปรียบด้วยจำนวนฝูงบินและพนักงานในการขยายธุรกิจได้อย่างต่อเนื่องทันที
"AAV ได้รับคัดเลือกเป็นหุ้นยั่งยืน สมัยที่ 4 เป็นความภูมิใจและตอกย้ำว่าเราเดินหน้าธุรกิจมาถูกทางแล้ว เรายังคงรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้เสียได้อย่างดีและได้รับความเชื่อมั่นเสมอมา ทั้งจากนักลงทุน พนักงาน ผู้โดยสาร และผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน ถึงวันนี้ท้องฟ้าเปิดสำหรับการฟื้นตัวธุรกิจอีกครั้ง เราจะเป็นผู้นำสายการบินราคาประหยัดที่พร้อมคว้าโอกาสไว้ได้ ทั้งจากตลาดท่องเที่ยวภายในประเทศที่จะเป็นหลักพยุงเศรษฐกิจ และตลาดระหว่างประเทศที่มีสัญญาณที่ดีต่อเนื่อง" นายสันติสุขกล่าว
ทั้งนี้ตลอดช่วงเวลาของสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา AAV และสายการบินไทยแอร์เอเชียให้ความสำคัญสูงสุดกับการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพในทุกมิติ ภายใต้กลยุทธ์ด้านความยั่งยืน 3G ที่ประกอบไปด้วย Good Green และ Growth โดยตัวอย่างที่ชัดเจนในด้าน Good คือการรักษาการตรงต่อเวลาของเที่ยวบินที่เราทำได้สูงกว่าร้อยละ 97 ในปีที่แล้ว ทำให้ผู้โดยสารสามารถวางแผนการเดินทางได้อย่างมั่นใจ สำหรับด้าน Green สายการบินไทยแอร์เอเชียให้ความสำคัญการบริหารจัดการขยะ โดยกว่าร้อยละ 88 ของขยะจากการอาหารบนเครื่องบิน และอุปกรณ์ที่หมดอายุการใช้งาน เช่น เสื้อชูชีพ จะถูกนำไปรีไซเคิลอย่างถูกวิธี สำหรับด้าน Growth แม้ว่าสองปีที่ผ่านมาจะเป็นปีที่ยากลำบากของอุตสาหกรรมสายการบิน แต่ผู้บริหารของสายการบินไทยแอร์เอเชีย ได้ร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจหลายรายเพื่อทำโครงการหางานเสริมให้กับพนักงานทั้งหมดที่ได้รับผลกระทบกว่า 14 โครงการ เพื่อให้พนักงานยังคงมีแหล่งรายได้ที่เพียงพอในช่วงภาวะวิกฤต และบริษัทยังทำการบริหารกระแสเงินสดผ่านตลาดทุนและตลาดการเงิน ทำให้สายการบินไทยแอร์เอเชียสามารถผ่านช่วงวิกฤตมาได้โดยยังมีฝูงบินมากที่สุดในตลาดสายการบินราคาประหยัด โดยทั้งหมดนี้สะท้อนถึงวิสัยทัศน์ของบริษัทในการทำธุรกิจเพื่อการเติบโตในระยะยาวไปพร้อมกับผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล รวมทั้งได้เปิดเผยข้อมูลตามมาตรฐานความยั่งยืนในระดับสากล
นอกจากนี้ในช่วงเดือนกันยายน 2565 ที่ผ่านมา สายการบินแอร์เอเชียเพิ่งได้รับรางวัล "สายการบินราคาประหยัดที่ดีที่สุดในโลก" จากการจัดอันดับของสกายแทรกซ์ เป็นปีที่ 13 ติดต่อกัน ตอกย้ำคุณภาพบริการที่ไม่เคยหยุดนิ่ง รวมทั้งสายการบินไทยแอร์เอเชียสามารถขยายธุรกิจตามเป้าหมายได้อย่างดี ภายในปีนี้คาดว่าเส้นทางภายในประเทศจะกลับมาให้บริการด้วยปริมาณที่นั่ง (capacity) ใกล้เคียงกับก่อนสถานการณ์โควิด ในขณะที่เส้นทางระหว่างประเทศฟื้นตัวต่อเนื่องและได้รับการตอบรับที่ดีทั้งในตลาดอาเซียน อินเดีย รวมทั้งการเปิดบินครั้งแรกสู่ประเทศญี่ปุ่น ที่เมืองฟุกุโอกะ และครั้งแรกสู่ประเทศบังกลาเทศ ที่เมืองธากา โดยคาดว่าครึ่งปีหลังของปี 2565 นี้ บริษัทจะมีผลการดำเนินงานที่ดีที่สุดในรอบ 3 ปี
หมายเหตุ: สามารถอ่านกลยุทธ์ความยั่งยืนของ AAV ได้ที่หน้า 57-98 ของรายงานประจำปี 2564 https://hub.optiwise.io/storage/26/annual-report/2021/e-book/th/index.html
ที่มา: แอร์เอเชีย