นายสุวัชชัย วงษ์เจริญสิน นายกสมาคมอุตสาหกรรมฟอกหนังไทย เปิดเผยว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมเครื่องหนังของไทยหลังจากสถานการณ์โควิดคลี่คลายลง เริ่มกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง โดยในปี 2564 ผู้ประกอบการไทยมียอดส่งออกสินค้าเพิ่มขึ้น 14% และเพิ่มขึ้นเป็น 16% ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2565 ขณะที่สมาคมฯ และผู้ประกอบการหนังฟอกในประเทศไทยได้ให้ความสำคัญและตระหนักถึงอุตสาหกรรมเชิงสร้างสรรค์ โดยผลักดันให้ผู้ประกอบการทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการรับผิดชอบต่อชุมชนและสังคมผ่านโครงการต่างๆ ให้มีความยั่งยืน ซึ่งถือว่าเป็นการยกระดับมาตรฐานของอุตสาหกรรมฟอกหนังไทยให้เป็นที่ยอมรับจากผู้ประกอบการและคู่ค้าต่างชาติทั่วโลก ส่งผลให้มีการสั่งซื้อสินค้าและการผลิตสินค้าจากในประเทศไทยสู่ตลาดสากลมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา สมาคมฯ ได้เดินหน้าศึกษาและวิจัยเรื่องพลังงานหมุนเวียน โดยการนำพลังงานที่ใช้ไม่หมด นำกลับมาใช้ใหม่ได้ อีกทั้งยังมีการปรับปรุงและลดปริมาณน้ำเสีย ลดมลพิษที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นมลพิษทางกลิ่น หรือมลพิษจากขยะ โดยได้กำกับดูแลและสนับสนุนให้พนักงานของสมาชิกตระหนักและมีความรับผิดชอบต่อกระบวนการการทำงาน รวมทั้งได้ทำงานควบคู่ไปกับหน่วยงานภาครัฐในการตรวจสอบให้ค่าต่างๆ ที่ปล่อยออกจากโรงงานของผู้ประกอบการอยู่ในเกณฑ์ตามมาตรฐานกำหนด ตลอดจนผลักดันให้ผู้ประกอบการเข้าสู่ระบบการตรวจประเมินมาตรฐานสิ่งแวดล้อมในระดับสากลมากขึ้นตามลำดับในทุกๆ ปี ซึ่งจะทำให้อุตสาหกรรมฟอกหนังของไทยเติบโตได้อย่างยั่งยืนภายใต้สภาพแวดล้อมของโลกและความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป
นายกสมาคมอุตสาหกรรมฟอกหนังไทย กล่าวด้วยว่า ขณะเดียวกัน ถือเป็นโอกาสที่ดีที่ประเทศไทยได้รับเกียรติให้จัดงานแสดงสินค้าแห่งเอเชีย (APLF ASEAN) ซึ่งเป็นงานอุตสาหกรรมเครื่องหนังระดับโลก ที่จัดขึ้นที่กรุงเทพฯ เป็นครั้งแรก ในระหว่างวันที่ 19-21 ตุลาคม 2565 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ซึ่งสมาคมอุตสาหกรรมฟอกหนังไทยได้ให้การสนับสนุนการจัดงาน โดยจะมีการจัดแสดงสินค้าที่เกี่ยวกับเครื่องหนัง วัตถุดิบ และสินค้าแฟชั่นอื่นๆ เช่น หนังฟอกกึ่งสำเร็จ เคมีภัณฑ์ วัตถุดิบเพื่อความยั่งยืน รวมถึงวัสดุที่ใช้ในการผลิตกระเป๋า และเครื่องประดับแฟชั่น เป็นต้น
นอกจากนี้ ภายในงานยังให้ความสำคัญกับสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งผู้จัดงานจะมีการนำเสนอเทคโนโลยีการจัดการสิ่งแวดล้อมและสินค้าประเภทเครื่องหนังที่ผ่านกระบวนการการจัดการในการรักษาสิ่งแวดล้อม อาทิเช่น หนังที่ฟอกโดยไม่ใช้สารเคมี และอื่น ๆ อีกมากมาย
"นับเป็นโอกาสที่ดีของผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมเครื่องหนังกับงานใหญ่ที่จัดขึ้นในกรุงเทพฯ เป็นครั้งแรก ซึ่งจะเป็นการตอกย้ำความมั่นใจว่า ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการซื้อขายสำหรับเครื่องหนังและสินค้าเครื่องหนัง ขณะเดียวกัน กรุงเทพฯ ยังเป็นจุดหมายการท่องเที่ยวยอดนิยม ดังนั้น เชื่อว่า จะมีผู้ให้ความสนใจเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมากอย่างแน่นอน โดยทางสมาคมฯ จึงขอเชิญชวนผู้ประกอบการ นักออกแบบรุ่นใหม่หรือผู้ที่สนใจมาร่วมงาน APLF ASEAN ในครั้งนี้ เยี่ยมชมกลุ่มสินค้า ไม่ว่าจะเป็นเครื่องหนัง วัตถุดิบ หรือสินค้าแฟชั่น และสมาคมฯ หวังว่า การจัดงานแสดงสินค้านี้จะเป็นการเพิ่มโอกาสให้กับผู้ประกอบการในธุรกิจหนังและเครื่องหนังได้เจรจาการค้า และพบกับ ผู้จัดจำหน่ายสินค้าชั้นนำจากทั่วโลกเพื่อต่อยอดทางธุรกิจต่อไป" นายสุวัชชัยกล่าว
ทั้งนี้ งาน APLF ASEAN เป็นการจัดงานแสดงสินค้าระหว่างประเทศอันดับ 1 ในเอเชียแปซิฟิก ที่จัดมาแล้วไม่ต่ำกว่า 38 ปี ตั้งแต่ปี 2527-2565 โดยมีผู้ประกอบการจากต่างประเทศเข้ามาร่วมงานในครั้งนี้ด้วย สำหรับประเทศไทย จะมีผู้ประกอบการที่เข้าร่วมแสดงสินค้าประมาณ 40 ราย ซึ่งจะเน้นสินค้าเพื่อความยั่งยืน และเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการที่จัดแสดงสินค้าได้มีโอกาสพบปะและพูดคุยกับลูกค้าจากในประเทศและต่างประเทศ นอกจากนี้ ผู้ประกอบจะมีโอกาสได้เรียนรู้การบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวกับอุตสาหกรรมฟอกหนังและผลิตภัณฑ์หนังอีกด้วย
สำหรับผู้สนใจสามารถเยี่ยมชมบูธสมาคมอุตสาหกรรมฟอกหนังไทย ได้ที่บูธหมายเลข 2A-B32-TH ฮอลล์ 2 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
ที่มา: ไอทูซี คอมมิวนิเคชั่นส์