เมื่อการก่อสร้างแล้วเสร็จ เจมิไนจะเป็นหนึ่งในโครงการพลังงานแสงอาทิตย์และการกักเก็บพลังงานที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในสหรัฐอเมริกา ด้วยแผงโซลาร์ขนาด 690 MWac/966 MWdc และความสามารถในการกักเก็บพลังงานที่ 1,416 MWh ทั้งนี้ เมื่อช่วงต้นปี ไพรเมอร์จีเพิ่งเสร็จสิ้นกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างที่ละเอียดและครอบคลุม โดยบริษัทได้เลือกซัพพลายเออร์ผู้จัดหาอุปกรณ์และพันธมิตรระดับโลกหลายรายเพื่อร่วมก่อสร้างโครงการเจมิไน
ไพรเมอร์จีได้ออกแบบระบบ DC coupled ที่เป็นนวัตกรรมใหม่สำหรับโครงการเจมิไน ซึ่งจะเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานร่วมกันของแผงโซลาร์กับระบบกักเก็บพลังงานของซีเอทีแอล ทั้งนี้ ซีเอทีแอลจะจัดหาโซลูชันเอเนอร์วัน (EnerOne) ให้กับไพรเมอร์จี โซลาร์ โดยเอเนอร์วันเป็นระบบกักเก็บพลังงานในรูปแบบแบตเตอรี่ระบายความร้อนด้วยของเหลวชนิดโมดูลาร์ ซึ่งมีอายุการใช้งานยาวนาน การผสมผสานสูง และความปลอดภัยสูง ผลิตภัณฑ์แบตเตอรี่ชนิด LFP นี้มีอายุการใช้งานสูงถึง 10,000 รอบ ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการดำเนินงานที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้ของโครงการเจมิไน บริษัทไพรเมอร์จีเลือกโซลูชันเอเนอร์วันสำหรับใช้กับโครงการเจมิไน เนื่องจากเป็นแบตเตอรี่แบบลิเธียมฟอสเฟตขั้นสูง ซึ่งตรงตามข้อกำหนดของไพรเมอร์จีสำหรับการทำงานที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้ที่ไซต์งานของบริษัท
"ซีเอทีแอลเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีในอุตสาหกรรมแบตเตอรี่ เรายินดีที่ได้เป็นพันธมิตรกับพวกเขาในโครงการเจมิไน พร้อมแสดงศักยภาพของโซลูชันกักเก็บพลังงานเอเนอร์วันของซีเอทีแอล" คุณไท ดอล (Ty Daul) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารไพรเมอร์จี กล่าว "ความน่าเชื่อถือและความยืดหยุ่นด้านพลังงานของประเทศเรานั้นขึ้นอยู่กับความแพร่หลายในการใช้งานระบบกักเก็บพลังงานด้วยแบตเตอรี่ ซึ่งสามารถจ่ายพลังงานที่สม่ำเสมอกลับเข้าสู่กริดเมื่อมีความจำเป็นมากที่สุด เราจะร่วมกับซีเอทีแอลสร้างระบบกักเก็บพลังงานด้วยแบตเตอรี่ระดับแนวหน้าของตลาดที่มีความก้าวล้ำและสามารถดึงพลังงานแสงอาทิตย์ส่วนเกินในระหว่างวันเพื่อเก็บไว้ใช้ในตอนเย็นหลังพระอาทิตย์ตกดินในเนวาดา"
คุณตัน หลี่ปิน (Tan Libin) รองประธานซีเอทีแอล กล่าวว่า "ด้วยทีมงานที่คร่ำหวอดในอุตสาหกรรม ความสามารถในการพัฒนา การก่อสร้าง และการจัดการสินทรัพย์ระยะยาวของไพรเมอร์จี ตลอดจนเทคโนโลยีแบตเตอรี่ทีเป็นนวัตกรรมของซีเอทีแอล เราเชื่อว่าความร่วมมือของทั้งสองบริษัทในโครงการเจมิไนจะเป็นตัวอย่างที่ดีเยี่ยมสำหรับการใช้งานระบบกักเก็บพลังงานไฟฟ้าเคมีขนาดใหญ่ ซึ่งจะส่งเสริมการขับเคลื่อนทั่วโลกสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน"