บลจ. กสิกรไทย ลุยศักราชใหม่ พร้อมประเดิมขาย “กองทุนเปิดรวงข้าวธนรัฐ 3/50” เป็นกองแรกของปี ระหว่างวันที่ 20-30 ม.ค. นี้

พฤหัส ๑๙ มกราคม ๒๐๐๖ ๑๖:๑๕
กรุงเทพฯ--19 ม.ค.--นิโอ ทาร์เก็ต
บลจ.กสิกรไทย เปิดศักราชปี 49 ลุยขาย “กองทุนเปิดรวงข้าวธนรัฐ 3/50” ประเดิมตลาดกองทุนตราสารหนี้ ระหว่างวันที่ 20-30 มกราคมนี้ หลังจากโชว์ผลงานเยี่ยมในปี 48 กวาดยอดขายกองทุนประเภทตราสารหนี้ รวมมูลค่ากว่า 68,302.33 ล้านบาท
นางดัยนา บุนนาค กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ. กสิกรไทย) เปิดเผยว่า “ในปี 2549 ภาวะตลาดกองทุนตราสารหนี้ยังมีอนาคตสดใส และเป็นที่สนใจของนักลงทุน บลจ.กสิกรไทย เตรียมเปิดขายกองทุนเปิดรวงข้าวธนรัฐ 3/50 (RG0350) ซึ่งเป็นกองทุนประเภทตราสารหนี้ระยะสั้น ระหว่างวันที่ 20-30 มกราคม นี้ เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่นักลงทุนที่กำลังมองหาผลตอบแทนจากการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ และมุ่งหวังผลตอบแทนที่กองทุนจะได้รับจากดอกเบี้ยหรือกำไรส่วนเกินทุนจากการลงทุนในพันธบัตรหรือตราสารแห่งหนี้ที่รัฐบาล กระทรวงการคลังหรือธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นผู้ออก ผู้รับรอง ผู้อาวัล หรือผู้ค้ำประกัน”
“กองทุนเปิดรวงข้าวธนรัฐ 3/50 (RG0350) เป็นกองทุนรวมตราสารแห่งหนี้ มีขนาดกองทุน 5,00ล้านบาท อายุกองทุน ไม่น้อยกว่า 10 เดือนและไม่เกิน 13 เดือน และรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติทุกๆ 3 เดือน เน้นลงทุนในพันธบัตรหรือตราสารแห่งหนี้ที่รัฐบาล กระทรวงการคลัง หรือธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นผู้ออก ผู้รับรอง ผู้อาวัล หรือผู้ค้ำประกันในอัตราส่วนเฉลี่ยรอบอายุกองทุนไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน เงินลงทุนส่วนที่เหลือจะลงทุนในตราสารแห่งหนี้และหรือเงินฝากของสถาบันการเงินหรือธนาคารที่มีกฏหมายเฉพาะจัดตั้งขึ้น และจะไม่ลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าหรือตราสารหนี้ที่มีการจ่ายผลตอบแทนอ้างอิงกับตัวแปร (Structure Note)
ผู้ลงทุนที่สนใจสามารถซื้อหน่วยลงทุนขั้นต่ำเพียง 50,000 บาท โดยสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือซื้อหน่วยลงทุนได้ที่ ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา และ บลจ.กสิกรไทย โทร 0-2276-2233 ” นางดัยนา กล่าว
นางดัยนา กล่าวเพิ่มเติมว่า “ในปี 2548 ที่ผ่านมา บลจ.กสิกรไทยได้เปิดขายกองทุนตราสารแห่งหนี้ทั้งสิ้นจำนวน 16 กองทุน ด้วยยอดขายรวมสูงถึง 68,302.33 ล้านบาท ซึ่งนอกจากจะสะท้อนให้เห็นถึงความต้องการของประชาชนที่แสวงหาการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝากแล้ว ยังเป็นผลมาจากความเชื่อถือในผลการดำเนินงานที่โปร่งใสมาโดยตลอด และความเชี่ยวชาญในการบริหารกองทุนของบริษัทฯ อีกทั้งยังได้ตัวแทนจำหน่ายที่มีประสิทธิภาพที่สามารถเสนอข้อมูลและให้บริการที่ดีแก่นักลงทุน จึงทำให้ได้รับความไว้วางใจจากนักลงทุนจำนวนมาก” นางดัยนา กล่าว”
บลจ.กสิกรไทย ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภทกิจการลงทุนจากกระทรวงการคลัง
เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2535 ปัจจุบัน บลจ.กสิกรไทย เป็นบริษัทในกลุ่ม KGroup ของ ธนาคารกสิกรไทย
จำกัด (มหาชน) โดย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2548 บริษัทฯ มีทรัพย์สินสุทธิภายใต้การจัดการ เท่ากับ
217,007.13 ล้านบาท (ข้อมูล บลจ.กสิกรไทย)
ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ
บ.นิโอ ทาร์เก็ต จำกัด
นฤพร ชีวนันทพรชัย / ลลิลทิพย์ อมรสินทวี
โทร (02) 631-2290-5 ต่อ 310 / 309 แฟกซ์ (02) 234-6192-3
E-Mail : [email protected], / [email protected]จบ--

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ