ทีเอ็มบีธนชาต รายงานกำไรสุทธิ 3,715 ล้านบาท ในไตรมาส 3/65 เพิ่มขึ้น 58% จากช่วงเดียวกันปีก่อนหน้า รวม 9 เดือน มีกำไรสุทธิ 10,348 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35%

พฤหัส ๒๐ ตุลาคม ๒๐๒๒ ๑๕:๑๖
ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ ทีเอ็มบีธนชาต แจ้งผลประกอบการไตรมาส 3 และรอบ 9 เดือน ปี 2565 โดยผลการดำเนินงานของธนาคารยังคงมีแนวโน้มที่ดีต่อเนื่องจากไตรมาสที่แล้ว หนุนโดยปัจจัยแนวโน้มที่ดีด้านรายได้ การมีวินัยด้านค่าใช้จ่าย อีกทั้งยังสามารถบริหารจัดการคุณภาพสินทรัพย์ได้ตามแผนและมีอัตราส่วนหนี้เสียในระดับต่ำที่ 2.72% ซึ่งช่วยลดแรงกดดันด้านการตั้งสำรองฯ ส่งผลให้กำไรสุทธิอยู่ที่ 3,715 ล้านบาท ในไตรมาส 3/65 หรือเพิ่มขึ้น 57.5% จากไตรมาส 3/64 โดยรวม 9 เดือน ปี 2565 มีกำไรสุทธิทั้งสิ้น 10,348 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ทีเอ็มบีธนชาต รายงานกำไรสุทธิ 3,715 ล้านบาท ในไตรมาส 3/65 เพิ่มขึ้น 58% จากช่วงเดียวกันปีก่อนหน้า รวม 9 เดือน มีกำไรสุทธิ 10,348 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35%

นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี เปิดเผยว่า สำหรับผลการดำเนินงานรอบ 9 เดือนที่ปรับตัวดีขึ้นนี้ ถือได้ว่าเป็นผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจากกลยุทธ์และแผนการรับมือกับแนวโน้มเศรษฐกิจที่ธนาคารได้วางไว้ตั้งแต่เริ่มต้นปี ไม่ว่าจะเป็นกลยุทธ์การเติบโตสินเชื่ออย่างมีคุณภาพ การบริหารความเสี่ยงอย่างรอบคอบ และการเตรียมความพร้อมสำหรับวัฏจักรดอกเบี้ยขาขึ้น

ทั้งนี้ หนึ่งในปัจจัยเด่นที่ช่วยหนุนผลประกอบการในไตรมาส 3/65 ได้แก่ ด้านรายได้ โดยเฉพาะรายได้ดอกเบี้ยที่ปรับตัวดีขึ้น ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงผลสำเร็จจากการเตรียมการล่วงหน้าเพื่อรับการเปลี่ยนแปลงแนวโน้มดอกเบี้ย เริ่มตั้งแต่การปรับโครงสร้างเงินฝาก ซึ่งธนาคารได้ทยอยเพิ่มสัดส่วนเงินฝากประจำมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว เพื่อลดการแข่งขันด้านเงินฝากและช่วยในการบริหารต้นทุนทางการเงินเมื่ออัตราดอกเบี้ยเปลี่ยนทิศเป็นขาขึ้น นอกจากนั้น ยังได้ปรับพอร์ตการลงทุนให้มีความยืดหยุ่น เพื่อให้มีความคล่องตัวในการปรับการลงทุน เพื่อให้ได้รับประโยชน์จากภาวะตลาดและทิศทางดอกเบี้ย

ที่สำคัญอีกประการคือกลยุทธ์ด้านสินเชื่อและการบริหารความเสี่ยง ทั้งนี้ การที่สินเชื่อตกเป็นหนี้เสียและมีสัดส่วนหนี้เสียสูงเกินเกณฑ์ควบคุมย่อมมีผลกระทบเชิงลบต่อรายได้ดอกเบี้ย แต่เนื่องจากเราเติบโตสินเชื่ออย่างระมัดระวังมาโดยตลอด เน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ จึงทำให้พอร์ตสินเชื่อมีคุณภาพ มีสัดส่วนหนี้เสียที่อยู่ภายใต้เกณฑ์ควบคุมและอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม จึงส่งผลให้รายได้ดอกเบี้ยจากการให้สินเชื่อมีแนวโน้มที่ดี

ทั้งนี้ ภายหลังที่ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ประกาศปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้น 0.50% ทางธนาคารได้ตอบรับนโยบายดังกล่าว โดยการปรับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำเพิ่มขึ้น 0.15% - 0.80% ต่อปี เพื่อเพิ่มประโยชน์และส่งเสริมด้านการออมให้กับลูกค้าในการสร้างชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้น ขณะที่ด้านดอกเบี้ยเงินกู้ ทยอยปรับขึ้นในอัตรา 0.20%-0.25% ต่อปี ซึ่งน้อยกว่าการขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย เพื่อดูแลลูกค้าสินเชื่อโดยเฉพาะกลุ่มลูกค้ารายย่อยและกลุ่มเปราะบาง

สำหรับช่วงที่เหลือของปี ธนาคารก็จะยังคงมุ่งเน้นการบริหารต้นทุนทางการเงินให้มีประสิทธิภาพ และเติบโตสินเชื่อกลุ่มเป้าหมายไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อเช่าซื้อ สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ขณะที่ทีทีบี คอนซูมเมอร์ จะช่วยผลักดันการขยายสินเชื่อบุคคลและบัตรเครดิตไปยังฐานลูกค้าปัจจุบันของธนาคาร พร้อมทั้งรักษาวินัยด้านค่าใช้จ่าย และยึดแนวทางการดูแลคุณภาพสินทรัพย์อย่างรอบคอบ เพื่อรักษาแนวโน้มเชิงบวกของผลการดำเนินงานในช่วงถัดไป

สำหรับรายละเอียดผลการดำเนินงานในไตรมาส 3 และรอบ 9 เดือน ปี 2565 มีดังนี้

ณ สิ้นไตรมาส 3/65 สินเชื่อรวมอยู่ที่ 1,394 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.7% จากสิ้นปีที่แล้ว ตามการเติบโตสินเชื่อกลุ่มเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อเช่าซื้อ สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย สินเชื่อบุคคล และบัตรเครดิต ด้านเงินฝากอยู่ที่ 1,374 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.6% จากสิ้นปีที่แล้ว หนุนโดยการเพิ่มขึ้นของเงินฝากประจำ สอดคล้องกับกลยุทธ์ด้านเงินฝากเพื่อรองรับแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้นของธนาคาร

ด้านรายได้ยังคงแนวโน้มเชิงบวก โดยเฉพาะรายได้ดอกเบี้ย ในไตรมาส 3/65 รายได้ดอกเบี้ยสุทธิอยู่ที่ 12,968 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า เป็นผลจากการเติบโตสินเชื่อที่มีคุณภาพและการบริหารจัดการต้นทุนด้านการเงิน สำหรับรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยอยู่ที่ 3,381 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน หนุนโดยรายได้ค่าธรรมเนียมการขายประกันและค่าธรรมเนียมกลุ่มลูกค้าธุรกิจที่ฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ ภายใต้การลงทุนด้านดิจิทัลและการเพิ่มจำนวนพนักงานภายในกลุ่มธนาคารตามแผนธุรกิจ ธนาคารยังคงสามารถบริหารจัดการค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงทำให้ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานอยู่ที่ 7,447 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเพียง 0.4% จากไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว ส่งผลให้อัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้อยู่ที่ 45% เป็นไปตามกรอบเป้าหมาย

จากปัจจัยด้านรายได้และค่าใช้จ่ายข้างต้น จึงทำให้กำไรจากการดำเนินงานก่อนหักสำรองฯ (PPOP) ในไตรมาส 3/65 อยู่ที่ 8,963 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.2% จากปีที่แล้ว รวม 9 เดือน PPOP อยู่ที่ 26,533 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

ด้านคุณภาพสินทรัพย์ยังคงบริหารจัดการได้ตามเป้าหมาย ส่งผลให้สัดส่วนหนี้เสียอยู่ในเกณฑ์ควบคุมและลดลงมาได้อย่างต่อเนื่องจากระดับสูงสุดในช่วงวิกฤตโควิด-19 ช่วงไตรมาส 3/64 ที่ 2.98% มาอยู่ที่ 2.81% ณ สิ้นปีที่แล้ว และ 2.72% ในไตรมาสล่าสุด ประกอบกับปัจจัยด้านเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง จึงทำให้แรงกดดันด้านการตั้งสำรองฯ ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงก่อนหน้า

โดยในไตรมาส 3/65 ธนาคารตั้งสำรองฯ เป็นจำนวน 4,361 ล้านบาท ลดลง 21.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน รวม 9 เดือน ตั้งสำรองฯ เป็นจำนวน 13,551 ล้านบาท ลดลง 17.9% ส่งผลให้กำไรสุทธิในไตรมาส 3/65 อยู่ที่ 3,715 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 57.5% และรอบ 9 เดือน ปี 2565 อยู่ที่ 10,348 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34.8% ตามลำดับ

ทั้งนี้ การตั้งสำรองฯ ในระดับดังกล่าวยังเป็นระดับที่สูงกว่าช่วงเศรษฐกิจปกติและเพียงพอต่อการรองรับความเสี่ยง สะท้อนได้จากอัตราส่วนสำรองฯ ต่อสินเชื่อคุณด้อยภาพของธนาคารที่เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 135% จาก 129% ณ สิ้นปีที่แล้ว

ท้ายสุดด้านความเพียงพอของเงินกองทุน ยังอยู่ในระดับสูงและเป็นลำดับต้น ๆ ของอุตสาหกรรม โดยอัตราส่วน CAR และ Tier I (เบื้องต้น) เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 20.0% และ 16.0% ณ สิ้นไตรมาส 3/65 สูงกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำของธนาคารกลุ่ม D-SIBs ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดไว้ที่ 12.0% และ 9.5% ตามลำดับ

ที่มา: ทีเอ็มบีธนชาต

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ