รางวัลดังกล่าวมาจากความมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจตามกลยุทธ์ ESG 4 Plus "มุ่ง Net Zero-Go Green-Lean เหลื่อมล้ำ-ย้ำร่วมมือ" โดยยึดหลักเชื่อมั่นและโปร่งใส ตั้งเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2593 ขณะเดียวกันเร่งพัฒนานวัตกรรมเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างทันท่วงที โดยจะมุ่งเข้าสู่ 3 ธุรกิจใหม่ที่มีศักยภาพสูงและตอบโจทย์เมกะเทรนด์โลก ได้แก่ ธุรกิจพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy) มุ่งลดต้นทุน เร่งพัฒนาพลังงานทดแทน โดยใช้พลังงานชีวมวล (Biomass) จากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร และเชื้อเพลิงจากขยะ (Refused Derived Fuel : RDF) ทดแทนพลังงานฟอสซิล ทั้งยังต่อยอดเป็นธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์ครบวงจรสำหรับตลาดที่อยู่อาศัย โรงงานและนิคมอุตสาหกรรม ได้แก่ SCG Solar Roof Solutions และบริษัท เอสซีจี คลีนเนอร์ยี จำกัด (SCG Cleanergy) ทั้งยังพัฒนาระบบซื้อขายไฟฟ้าได้ผ่านแพลตฟอร์ม Smart grid มีฐานลูกค้าชั้นนำครอบคลุมทั้งภาครัฐและเอกชนธุรกิจโลจิสติกส์ครบวงจรรายใหญ่ในอาเซียน (ASEAN Logistic) ด้วยบริการที่หลากหลายทั้งบริการคลังสินค้า ระบบห้องเย็น บริการขนส่งสินค้าทั้งทางบก เรือ อากาศ บริการท่าเทียบเรือ และบริการนำเข้า ส่งออกครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำ ปลายน้ำ ธุรกิจ Smart Living ยกระดับคุณภาพชีวิตให้สะดวก คุ้มค่า ปลอดภัย รักษ์โลก อาทิ นวัตกรรมอัจฉริยะเพื่อคุณภาพอากาศและประหยัดพลังงาน SCG Active AIR Quality SCG Bi-ion และ SCG HVAC Air Scrubber โซลูชันจัดการคุณภาพอากาศ กำจัดเชื้อโรค และลดการใช้พลังงานในอาคาร Trinity IOT Ecosystem เทคโนโลยีควบคุมการเปิด-ปิดนวัตกรรมในบ้านอัจฉริยะ Wellness Home Hub เทคโนโลยีวัดค่าสุขภาพของผู้อาศัยในบ้าน หากเกิดเหตุฉุกเฉินจะแจ้งเตือนไปยังโรงพยาบาลได้ทันที
ขณะเดียวกันยังมุ่งลดความเหลื่อมล้ำในสังคมด้วยการพัฒนาทักษะอาชีพ สร้างรายได้ให้ชุมชนและ SMEs 50,000 คนภายในปี 2573 เช่น อาชีพช่างก่อสร้าง พนักงานขับรถบรรทุก การแปรรูปและการขายสินค้าทางออนไลน์ ทั้งยังร่วมมือกับองค์กรต่าง ๆ ทั้งไทย อาเซียนและโลกให้ดำเนินงานด้วย ESG เพื่อส่งต่อโลกที่ยั่งยืนให้คนรุ่นถัดไป
ที่มา: เอสซีจี