นายอัศวิน พละพงศ์พานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทฯ และผู้ก่อตั้งดีมันนี่ กล่าวว่า ทางบริษัทฯ มีความยินดีมากที่ได้เข้าร่วมกิจกรรมกับทางธนาคารแห่งประเทศไทย ในครั้งนี้ โดยทางดีมันนี่ มีนวัตกรรม คือ DeeMoney Neo App ซึ่งได้รับรางวัล Business Innovation Award จาก Business ร่วมกับ วิทยาลัยการจัดการมหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU) ที่มีหลักการในการออกแบบแอป คือให้ความสำคัญกับภาษาที่ใช้ในแอปพลิเคชั่น และการใช้งานที่ตอบโจทย์ลูกค้าทั้งคนไทย และลูกค้าต่างชาติที่อาศัยอยู่ในไทย DeeMoney Neo App เป็นแอปโอนเงิน 24 ชม.มีความปลอดภัยสูง พร้อมระบบดูแลลูกค้า Call Center ที่ให้บริการ 7 วัน ใน 9 ภาษา บน multi platforms ทั้ง ทางโทรศัพท์ อีเมล์ และไลน์ รวมทั้งมี 2 สาขาเปิดให้บริการที่สุขุมวิท ซอย 8 และที่ชั้น 31 อาคารโอเซี่ยนทาว์เวอร์ 2 โดย "ดีมันนี่ เตรียมเปิดให้บริการกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ในสกุลเงินต่างประเทศ หรือ cross-currency e-wallet ในไตรมาสแรกปี 2566 เราตั้งเป้าเป็นผู้นำในตลาดฟินเทคในฐานะ Independent Neobank ตอนนี้เดินหน้าพัฒนาแพลตฟอร์มและระบบการบริการที่ครบครันและอัปเกรดใหม่อย่างต่อเนื่อง" ปัจจุบัน ดีมันนี่ ได้รับใบอนุญาตในการให้บริการทางการเงินที่ครบถ้วน ทั้งใบอนุญาตแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ใบอนุญาตบริการโอนเงินระหว่างประเทศที่ไม่ใช่ธนาคาร ใบอนุญาตการให้บริการโอนเงินด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ และใบอนุญาตการให้บริการเงิน อิเล็กทรอนิกส์ โดยบริการ e-wallet และแพลตฟอร์ม Payment-as-a-Service Platform (PaaS) ที่รองรับการชำระเงินระหว่างประเทศจะพร้อมให้บริการเชิงพาณิชย์ในต้นปี 2566 เร่งขับเคลื่อนบริการชำระเงินต่างสกุลเงินที่สะดวกรวดเร็วผ่านเว็บไซต์และแอปในมือของลูกค้า
ดีมันนี่ จัดตั้งขึ้นในปี 2560 ด้วยทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้วทั้งสิ้น 200 ล้านบาท โดยปัจจุบันมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีสูงถึง 300% ให้บริการโอนเงินและแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศสำหรับบุคคลทั่วไปและธุรกิจผ่าน DeeMoney Neo แอปพลิเคชั่นบนมือถือ แท็บเล็ต และบนแพลตฟอร์ม DeeBusiness Portal โดดเด่นด้วยบริการโอนเงินต่างประเทศขาเข้า-ออกไปยัง 64/43 ประเทศทั่วโลก พร้อมจุดแข็งเรื่องค่าธรรมเนียมคงที่แบบโปร่งใสไร้ค่าบริการแอบแฝง ปัจจุบัน ดีมันนี่ ขึ้นแท่นเป็น บริษัทฟินเทค Non-bank ผู้ให้บริการโอนเงินไร้พรมแดงรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เดินหน้าพัฒนา อีโคซิสเต็มที่แข็งแกร่งให้แก่พาร์ทเนอร์ธุรกิจ เวนเดอร์ และสรรค์สร้างนวัตกรรมทางการเงินบน แพลตฟอร์มการชำระเงินไร้พรมแดนมาตลอด 5 ปีเต็ม โดยตั้งเป้ายอดธุรกรรมไว้กว่า 5 หมื่นล้านบาทในปี 2565 นี้
ที่มา: ไอเวิร์ค ครีเอชั่น