การปรับลดอันดับเครดิตของหุ้นกู้ของ RLT เป็นผลมาจากการประกาศปรับลดอันดับเครดิตสากลระยะยาวของ CGH ซึ่งเป็นผู้ค้ำประกันหุ้นกู้ดังกล่าว เป็น BB- จาก BB+ แนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบ เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2565
ปัจจัยที่มีผลต่ออันดับเครดิต
อันดับเครดิตของหุ้นกู้มีประกันของ RLT สะท้อนถึงการค้ำประกันหุ้นกู้ดังกล่าวในลักษณะเต็มจำนวน ไม่มีเงื่อนไขและเพิกถอนไม่ได้โดย CGH ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ RLT โดยหนี้จากการค้ำประกันมีสถานะทางกฏหมายเท่าเทียมกับหนี้ที่ไม่มีหลักประกันและไม่ด้อยสิทธิอื่นๆ ของ CGH
การปรับลดอันดับเครดิตของ CGH สะท้อนถึงสภาพตลาดทุนสำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในประเทศจีนที่มีความอ่อนแออย่างต่อเนื่อง ซึ่งจำกัดความสามารถของ CGH ในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนแบบไม่มีหลักประกัน และส่งผลกระทบต่อความยืดหยุ่นทางการเงินของบริษัทฯ ยอดขายของ CGH มีความสม่ำเสมอมากขึ้นในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา และฟิทช์เชื่อว่าเงินสดในมือและกระแสเงินสดจากการดำเนินงานน่าจะเพียงพอสำหรับการชำระหนี้ในตลาดทุนที่จะครบกำหนดไถ่ถอนในอีก 2-3 ปีข้างหน้า อย่างไรก็ตาม ความยั่งยืนของยอดขายของ CGH รวมถึงเงินสดในมือก็ยังคงมีความไม่แน่นอนอยู่ ซึ่งฟิทช์เชื่อว่าอันดับเครดิตในปัจจุบันได้สะท้อนถึงความเสี่ยงเหล่านี้อย่างเหมาะสม
แนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบของ CGH และ RLT สะท้อนถึงความเห็นของฟิทช์ว่าสภาพการณ์ทางด้านการจัดหาแหล่งเงินทุนและการดำเนินงานของบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในประเทศจีนยังคงมีความท้าทายอย่างต่อเนื่อง และส่งผลกดดันต่อความยืดหยุ่นทางการเงินของ CGH อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงต่างๆ มีแนวโน้มที่จะค่อยเป็นค่อยไป ทำให้ฟิทช์ยกเลิกสถานะเครดิตพินิจจากอันดับเครดิตของบริษัทฯ
อันดับเครดิตของ CGH ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากสถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่ง ขนาดของธุรกิจที่ใหญ่ และการกระจายความเสี่ยง ฟิทช์เชื่อว่าสภาพคล่องของบริษัทน่าจะอยู่ในระดับที่เพียงพอในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า เนื่องจากกระแสเงินสดจากการดำเนินงานเพียงพอที่จะชำระหนี้ที่ครบกำหนด
การกำหนดอันดับเครดิตโดยสรุป
อันดับเครดิตของหุ้นกู้มีประกันของ RLT สะท้อนถึงสถานะทางเครดิตของผู้ค้ำประกันได้แก่ CGH ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัยชั้นนำในประเทศจีน โดยเป็นหนึ่งในบริษัทที่มีที่ดินกระจายอยู่ในหลายภูมิภาคมากที่สุดในประเทศจีนเมื่อเปรียบเทียบคู่แข่ง บริษัทในประเทศไทยที่มีอันดับเครดิตเทียบเคียงได้กับ CGH ได้แก่ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จากัด (มหาชน) หรือ GPSC (อันดับเครดิต BBB-/A+(tha)/Stable; สถานะเครดิตโดยลำพัง bb/a-(tha)) ซึ่งเป็นผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่ของประเทศ โดยมีกำลังผลิตไฟฟ้าคิดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 10 ของกำลังผลิตทั้งหมดของประเทศ
CGH มีขนาดของธุรกิจที่ใหญ่และการกระจายความเสี่ยงทางภูมิศาสตร์ของกระแสเงินสดที่ดีกว่า GPSC อย่างไรก็ตาม ขนาดของธุรกิจที่เล็กกว่าของ GPSC สามารถชดเชยได้ด้วยรายได้ที่มีความแน่นอนมากกว่า เนื่องจากรายได้ส่วนใหญ่ของ GPSC มาจากการขายไฟฟ้าภายใต้สัญญาขายไฟฟ้าระยะยาวกับคู่ค้าที่มีสถานะทางธุรกิจและการเงินที่แข็งแกร่ง ทั้งสองบริษัทมีอัตราส่วนหนี้สินที่อยู่ในระดับใกล้เคียงกันในปี 2564 CGH ได้รับการจัดอันดับเครดิตในระดับต่ำกว่าสถานะเครดิตโดยลำพังของ GPSC หนึ่งอันดับ เนื่องจากความไม่แน่นอนของยอดขายและความสามารถในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของ CGH อันดับเครดิตของ CGH เทียบเคียงได้กับอันดับเครดิตในประเทศระยะยาวที่ BBB+(tha) ซึ่งต่ำกว่าสถานะเครดิตโดยลำพังในประเทศของ GPSC ที่ a-(tha) อยู่หนึ่งอันดับ
อันดับเครดิตสากลระยะยาวของ GPSC ได้รวมการปรับเพิ่มอันดับเครดิตขึ้นสองอันดับจากสถานะเครดิตโดยลำพัง ที่ 'bb' ซึ่งสะท้อนถึงแรงจูงใจของบริษัทแม่ ซึ่งได้แก่ บริษัท ปตท. จากัด (มหาชน) หรือ ปตท. (อันดับเครดิต BBB+/ 'AAA(tha)' แนวโน้มเครดิตมีเสถียรภาพ) ในการให้การสนับสนุน ต่อ GPSC อยู่ในระดับปานกลาง
ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต
ปัจจัยบวก:
- ฟิทช์ไม่คาดว่าจะมีการปรับเพิ่มอันดับเครดิตในช่วง 12-18 เดือนข้างหน้า เนื่องจากแนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบของผู้ค้ำประกัน การปรับแนวโน้มอันดับเครดิตของ CGH มาเป็นมีเสถียรภาพ จะส่งผลให้แนวโน้มอันดับเครดิตของ RLT ได้รับการปรับมาเป็นมีเสถียรภาพ
ปัจจัยลบ:
- การปรับลดอันดับเครดิตสากลระยะยาวของ CGH
ส่วนปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตสากลระยะยาวในอนาคตของ CGH ที่แสดงใน Rating Action Commentary ลงวันที่ 31 ตุลาคม 2565 ได้แก่
ปัจจัยบวก:
แนวโน้มอันดับเครดิตจะได้รับการปรับเป็นมีเสถียรภาพ หากความสามารถในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนแบบไม่มีหลักประกัน และ/หรือ ยอดขายมีการปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ปัจจัยลบ:
- เงินทุนหมุนเวียนไหลออกอย่างต่อเนื่อง
- ไม่มีการฟื้นตัวอย่างมีเสถียรภาพของยอดขายหรือการเรียกเก็บเงินจากสัญญาการขาย
- การลดลงของเงินสดในมือ
สภาพคล่อง
สภาพคล่องของผู้ค้ำประกันอยู่ในระดับที่เพียงพอ: CGH มีเงินสดคงเหลือจำนวน 1.5 แสนล้านหยวน ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2565 โดยจำนวน 7.7 หมื่นล้านหยวน เป็นเงินสดในมือ ฟิทช์เชื่อว่า CGH มีสภาพคล่องที่เพียงพอที่จะลดระดับหนี้สินของบริษัทฯ อย่างต่อเนื่อง ทั้งในระดับโครงการ และระดับบริษัทแม่ที่ถือหุ้น
ลักษณะธุรกิจ
RLT เป็นบริษัทย่อยที่ CGH ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัยชั้นนำในมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน ถือหุ้นโดยทางอ้อมในสัดส่วนร้อยละ 100 RLT ได้เปิดโครงการ 2 โครงการแรกในประเทศไทยในปี 2561 ในปัจจุบัน RLT มีโครงการที่อยู่อาศัยทั้งแบบคอนโดมิเนียม และแนวราบทั้งหมด 7 โครงการ
อันดับเครดิตที่เกี่ยวโยงกับอันดับเครดิตอื่น
อันดับเครดิตของหุ้นกู้ สะท้อนถึงอันดับเครดิตของผู้ค้ำประกัน ซึ่งได้แก่ CGH
ข้อมูลเพิ่มเติมหาได้ที่ www.fitchratings.com
ที่มา: ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย)