รายงานฉบับนี้ชี้ว่าเฟดเอ็กซ์มีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือภาคธุรกิจต่าง ๆ ให้ฟื้นตัวได้จากวิกฤต โรคระบาดที่ผ่านมาด้วยการเอาชนะความท้าทายทางเศรษฐกิจและวิกฤตห่วงโซ่อุปทานครั้งใหญ่ ในปี 2565 นี้ เฟดเอ็กซ์มีพนักงานเกือบ 550,000 คนทั่วโลกที่ทำการขนส่งพัสดุกว่า 16 ล้านชิ้นต่อวัน ผ่านศูนย์กระจายสินค้า 5,000 แห่ง พร้อมความมุ่งมั่นในการขยายเครือข่าย การขนส่งและการลงทุนด้านต่าง ๆ เพื่อให้ลูกค้าของเฟดเอ็กซ์ ได้รับบริการที่ดียิ่งขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ด้วยการบริการที่ครอบคลุมทั่วโลก เฟดเอ็กซ์ได้ช่วยให้ลูกค้ารายบุคคล ธุรกิจต่าง ๆ และชุมชนฟื้นตัวจาก วิกฤตโรคระบาด ผ่านการขนส่งสินค้าและมอบบริการที่ช่วยเชื่อมต่อและขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลก โดยในรายงาน ฉบับล่าสุดได้แสดงให้เห็นว่าการทำงานในแต่วันของเรามีความสำคัญในการช่วยสนับสนุนธุรกิจขนาดกลางและเล็ก ซึ่งเป็นเสมือนกระดูกสันหลังของชุมชนต่าง ๆ และเราขอเรียกสิ่งนี้ว่า 'FedEx Effect' " นายราจ สุบรามาเนียม ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเฟดเอ็กซ์ คอร์ปอเรชั่น กล่าว
เครื่องบ่งชี้ถึง FedEx Effect
เฟดเอ็กซ์ในฐานะบริษัทขนส่งมีบทบาทสำคัญต่อนวัตกรรมด้านพลังงาน การส่งเสริมการจ้างงาน ในชุมชนต่าง ๆ และช่วยสนับสนุนนผู้คนในท้องถิ่นและชุมชนในระดับภูมิภาคในหลายประเทศทั่วโลก
- เฟดเอ็กซ์ทำงานร่วมกับผู้ผลิตกว่า 360,000 รายทั่วโลก เกี่ยวข้องกับการจ้างงานมากกว่า 16.5 ล้านคน ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นธุรกิจขนาดเล็กที่ทำให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่สำคัญต่อชุมชนและตลาดในท้องถิ่น โดยคิดเป็นมูลค่ารวมต่อปีถึง 700,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
- ภาคธุรกิจขนาดเล็กคิดเป็น 88% ในห่วงโซ่อุปทานของเฟดเอ็กซ์ในแต่ละภูมิภาค ซึ่งมีจำนวนพนักงานใน ธุรกิจขนาดเล็กประมาณ 810,000 รายทั่วโลกที่เฟดเอ็กซ์ได้ให้การสนับสนุน
- ในปีงบประมาณ 2565 เฟดเอ็กซ์ได้ลงทุนไปกว่า 6,800 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่าปี 2564 ถึง 15% โดยเป็นการลงทุนในด้านสิ่งอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าและพนักงาน เพิ่มศักยภาพของเครือข่าย และปรับปรุงสาธารณูปโภคขององค์กร ทั้งหมดนี้ช่วยให้เกิดความเติบโตทางเศรษฐกิจโดยตรงในแต่ละ ประเทศที่เฟดเอ็กซ์ดำเนินงานอยู่
ผลกระทบต่อภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ตะวันออกกลาง และแอฟริกา (AMEA)
บริษัทต่าง ๆ ที่ตั้งอยู่ใน 100 กว่าประเทศและพรมแดนแถบภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ตะวันออกกลาง อนุภูมิภาคอินเดีย และแอฟริกาซึ่งมีความเชื่อมโยงถึงกันสูง แสดงให้เห็นถึงบทบาทที่สำคัญและโดดเด่นอย่างยิ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจการค้าระดับโลก และเพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจากสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ข้อมูลจากรายงานพบว่าเฟดเอ็กซ์ได้ลงทุนเชิงกลยุทธ์ซึ่งส่งผลให้เกิดการจ้างงานเพิ่มขึ้นถึง 13% โดยสนับสนุนให้เกิดตำแหน่งงานเพิ่มขึ้นกว่า 58,000 ตำแหน่ง นอกเหนือจากจำนวนของพนักงานเดิม 37,000 คน ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ตะวันออกกลาง และ แอฟริกา (AMEA)
"ด้วยความมุ่งมั่นที่จะสานต่อพันธกิจของเราที่เคยให้ไว้ต่อภูมิภาคนี้ เฟดเอ็กซ์จึงได้สนับสนุนเพื่อช่วยเหลือธุรกิจและชุมชนกว่าแสนรายให้รอดพ้นและสามารถฟื้นฟูจากสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19ได้" กล่าวโดย คาวาล พรีท ประธานภูมิภาค AMEA ของเฟดเอ็กซ์ เอ็กซ์เพรส และเสริมว่า "การลงทุนพัฒนาศูนย์กระจายสินค้าในโอซาก้า และดูไบ ช่วยให้เราสามารถตอบสนองต่อความต้องการและเพิ่มประสิทธิภาพของเส้นทางการบินสำหรับลูกค้าของเราได้ในช่วงที่สถานการณ์ของห่วงโซ่อุปทานมีความผันผวน นอกจากนี้การลงทุนและการปรับปรุงในสิ่งอำนวยความสะดวกใหม่ เช่น การปรับปรุง Clark Gateway ในประเทศฟิลิปปินส์ รวมถึงการรวมศูนย์กลางของศูนย์กระจายสินค้าที่กรุงเดลี ยังช่วยให้เราสามารถเข้าถึงตลาดเกิดใหม่ได้มากขึ้น ตามมาด้วยประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้น"
การดำเนินธุรกิจของเฟดเอ็กซ์ในภูมิภาคนี้ยังคงเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง
- ล่าสุดเฟดเอ็กซ์ได้เปิดให้บริการ Direct commercial presence ในประเทศกัมพูชา อียิปต์ ซาอุดิอาราเบีย และ จอร์แดน
- นอกจากนี้เฟดเอ็กซ์ยังได้ประกาศแผนการขยายศูนย์กระจายสินค้าโดยการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการแห่งใหม่ ในนครกว่างโจว ทางตอนใต้ของประเทศจีน
- อีกทั้งเฟดเอ็กซ์ยังมีการลงทุนจัดตั้งศูนย์ นำเข้า-ส่งออกสินค้าจากต่างประเทศแห่งใหม่ด้วย งบประมาณกว่า 76 ล้านบาท ณ สนาบินบังกาลอ ประเทศอินเดีย เพื่อเสริมศักยภาพให้กับ ศูนย์กลางการขนส่งที่สนามบินนานาชาติเดลี
- ในประเทศญี่ปุ่น เฟดเอ็กซ์ใช้งบประมาณกว่า 511 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในการดำเนินธุรกิจในปี 2565 การขนส่งสินค้าจากญี่ปุ่นไปยังภูมิภาคสำคัญต่างๆ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องระหว่างปี 2564 และ 2565 โดย 54.8% เป็นการขนส่งไปยังสหรัฐอเมริกา 47.5% ไปยังทวีปยุโรป 37.4% ไปยังทวีปอเมริกา และ 18.5% ไปยังตะวันออกกลาง อนุภูมิภาคอินเดียและแอฟริกา
- เฟดเอ็กซ์เพิ่งเปิดศูนย์กลางการขนส่งแห่งใหม่ทางตอนใต้ของดูไบ เพื่อยกระดับการเชื่อมต่อในภูมิภาค และในระดับโลกให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยศูนย์กลางการขนส่งแห่งนี้ตั้งอยู่ในบริเวณสนามบินดูไบ เวิลด์ เซ็นทรัล ที่พรั่งพร้อมด้วยเทคโนโลยีอันล้ำสมัยและถูกออกแบบเพื่อการปฏิบัติงานแบบประหยัด พลังงานอย่างยั่งยืน
เฟดเอ็กซ์ยึดมั่นในพันธะสัญญาทางด้านความหลากหลาย ความเท่าเทียม และการไม่แบ่งแยกในที่ทำงาน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้บริษัทได้รับการยกย่องเป็นหนึ่งในบริษัทข้ามชาติที่น่าทำงานด้วยที่สุดในโลก เป็นลำดับที่ 21 โดย Fortune Magazine อีกทั้งได้รับรางวัลหนึ่งในบริษัทที่น่าทำงานด้วยมากที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ตะวันออกกลาง และแอฟฟริกา (AMEA) ซึ่งรวมถึงประเทศอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์และไทย นอกจากนี้ในปี 2021 คาวาล พรีท ได้ลงนามในแถลงการณ์ของประธานบริษัทในวาระการสนับสนุนหลักการเสริมสร้างศักยภาพสตรี จัดทำขึ้นโดยองค์การเพื่อการส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศและเพิ่มพลังของผู้หญิงแห่งสหประชาชาติ (UN Women) และเครือข่ายกรอบความร่วมมือการพัฒนาเพื่อความยั่งยืนแห่งสหประชาชาติ (UN Global Compact)
สร้างแรงกระเพื่อม
ข้อมูลจากรายงานแสดงให้เห็นว่าในปีงบประมาณ 2022 เฟดเอ็กซ์ได้บริจาคเงินมากกว่า 3 พันล้านบาทให้กับองค์กรการกุศลและองค์กรไม่แสวงหากำไรในท้องถิ่นและชุมชนที่สมาชิกในทีมอาศัยและทำงานอยู่ทั่วโลก ซึ่งรวมถึงโครงการด้านสิ่งแวดล้อม การศึกษา การสนับสนุนการเป็นผู้ประกอบการสำหรับเยาวชน และโครงการริเริ่มด้านการดูแลสุขภาพเพื่อชีวิตที่ดีขึ้นในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ตะวันออกกลาง และแอฟฟริกา (AMEA) นอกจากนี้บริษัทยังทำหน้าที่เป็นกำลังสำคัญสำหรับการจัดส่งความช่วยเหลือด้านอาหารให้กับผู้อยู่อาศัยในเมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ในช่วงล็อคดาวน์ภายใต้การควบคุมโรคระบาดโควิด-19 และส่งมอบวัคซีนรวมถึงเวชภัณฑ์ที่สำคัญไปยังอินเดีย เกาหลี และเวียดนามเป็นต้น
เฟดเอ็กซ์ มุ่งมั่นที่จะเชื่อมต่อโลกอย่างมีความรับผิดชอบ เพื่อบรรลุตามเป้าหมายที่ตั้งไว้สำหรับการดำเนินงานที่สร้างความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี ค.ศ. 2040 และเพิ่มการลงทุนในพลังงานหมุนเวียนในการขับเคลื่อนการดำเนินงานขององค์กร
ที่มา: เวเบอร์ แชนด์วิค