นางประวีรัตน์ เทวอักษร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วิลล่า คุณาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ ("KUN") เปิดเผยว่า จากภาพรวมอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ฟื้นตัวในช่วงที่ผ่านมา ประกอบกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐ รวมถึงนโยบายผ่อนคลายเกณฑ์การกำกับการดูแลสินเชื่อที่อยู่อาศัย (LTV)ของธนาคารแห่งประเทศไทย ส่งผลให้กำลังซื้อผู้บริโภคในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์กลับมาคึกคักอีกครั้ง และจากปัจจัยดังกล่าวส่งผลดีต่อ KUN ในฐานะผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์แนวราบ โดยจะเห็นได้จากผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกปี 2565 บริษัทฯมีรายได้รวมเท่ากับ 737.60 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.33% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน(YoY) และกำไรสุทธิ เท่ากับ 92.01 ล้านบาท ลดลง 16.80% (YoY) ขณะที่ผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/2565 มีรายได้รวม เท่ากับ 193.93 ล้านบาท ลดลง 22.34% (YoY) และกำไรสุทธิ เท่ากับ 16.11 ล้านบาท ลดลง 61.73% (YoY)
สำหรับปัจจัยที่ผลการดำเนินงานโดยรวมทั้งไตรมาส 3 และ งวด 9 ปี 2565 ชะลอตัวนั้น เนื่องจาก ในไตรมาส 3 ประสบปัญหาสภาพอากาศ เนื่องจากฝนที่ตกอย่างต่อเนื่อง และการขาดแคลนวัสดุก่อสร้าง ส่งผลให้บริษัทฯ ไม่สามารถส่งมอบบ้านได้ทันตามเวลา
แต่หากพิจารณาจากยอดการรับรู้รายได้จากการโอน ยังคงมีเข้ามาอย่างต่อเนื่องในช่วงไตรมาสดังกล่าว อาทิ โครงการคุณาลัย พรีม,โครงการคุณาลัย บีกินส์ 2,โครงการคุณาลัย พาร์โก้, โครงการคุณาลัย จอย ออน 314, โครงการคุณาลัย คอร์ทยาร์ด รวมถึงโครงการที่เพิ่งเปิดตัวใหม่เมื่อไตรมาส 2 ที่ผ่านมา คือ โครงการ คุณาลัย เดซี่ ที่เริ่มมียอดโอนเข้ามาต่อเนื่อง จึงทำให้ตัวเลขรายได้รวมอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ
" คุณาลัย พาร์โก้ และโครงการคุณาลัย เดซี่ มีการเปิดขายไปแล้วในช่วงไตรมาส 1 และ ไตรมาส 2 ของปี 2565 ซึ่งถือว่ากระแสการตอบรับดีมาก โดย ณ สิ้นไตรมาส 3 มียอดขายคิดเป็นมูลค่ารวม 240 ล้านบาท และคาดว่าจะสามารถปิดการขายในปี 2565 ประมาณ 450 ล้านบาท"
ขณะที่ยอดพรีเซลในงวด 9 เดือนแรกของปี 2565 อยู่ที่ระดับ 1,100 ล้านบาท คิดเป็น 65% ของเป้ายอด พรีเซลทั้งปีที่วางไว้ 1,700 ล้านบาท จาก 7 โครงการ ได้แก่ คุณาลัย คอร์ทยาร์ด, คุณาลัย พรีม, คุณาลัย บีกินส์ 2, คุณาลัย จอน ออน 314, คุณาลัย พาร์โก้, คุณาลัย เดซี่ และ คุณาลัย นาวาร่า ซึ่งยอดพรีเซลดังกล่าวถือว่าเป็นการทำสถิติสูงสุด ในรอบ 9 เดือนเทียบเท่ากับที่ทำได้ในปี 2563 ในช่วงโควิค-19 ซึ่งปัจจัยที่เป็นแรงหนุนให้ยอดพรีเซลเติบโตต่อเนื่อง มาจากการพัฒนาโครงการที่ตรงกับความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ทั้งรูปแบบโครงการแบบบ้าน ที่เน้นการจัดฟังก์ชันที่จำเป็นต่อการอยู่อาศัย รวมถึงระดับราคาบ้านตรงกับความต้องการของลูกค้า
อีกทั้งยังได้ปัจจัยหนุนจากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของประเทศไทยที่มีการปรับสูงขึ้น ซึ่งจะผลต่อการ ขอสินเชื่อ ประกอบกับมาตรการลดค่าธรรมเนียมโอนและค่าจดจำนอง และมาตรการผ่อนคลายเกณฑ์การกำกับการดูแลสินเชื่อที่อยู่อาศัย (LTV) จะสิ้นสุดปลายปี 2565 นี้ จึงป็นกระตุ้นการตัดสินใจของลูกค้าให้ตัดสินใจซื้อบ้านภายในปีนี้เพิ่มสูงขึ้น
"ปัจจัยทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น ยอมรับว่า จะส่งผลกระทบต่อการกู้ซื้อบ้าน โดยการขึ้นดอกเบี้ยทุก 0.25% ต่อปี จะเพิ่มการผ่อนชำระค่างวดบ้านประมาณ 2% - 5% จากค่างวดเดิม และส่งผลให้ธนาคารจะเข้มงวดมากขึ้นในการพิจารณาความสามารถในการผ่อนชำระคืน แต่ทั้งนี้ผลกระทบดังกล่าวจะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละธนาคาร และเชื่อว่ากำลังซื้อจะค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจมหาภาค ซึ่งทางสำนักงานเศรษฐกิจการคลังคาดการตัวเลข GDP ในปี 2565 ไว้ที่ 3.4% และปีหน้า 3.8%"
จากปัจจัยการเติบโตของผลกากรดำเนินงานในงวด 9 เดือน (ม.ค.-ก.ย.65) ส่งผลให้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลงวด 9 เดือน ปี 2565 ในอัตราหุ้นละ 0.05 บาท โดยจะขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 17 พฤศจิกายน 2565 และกำหนดการจ่ายเงินปันผล ในวันที่ 2 ธันวาคม 2565 ตามลำดับ
สำหรับความคืบหน้าการเปิดตัวโครงการ คุณาลัย นาวาร่า บางขุนเทียน นั้น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร KUN กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา มีการเปิดขายอย่างไม่เป็นทางการแล้ว ซึ่งได้การตอบรับที่ดี โดยมียอดจองที่เข้ามากว่า 45 ล้านบาท จากมูลค่าโครงการโดยรวม ประมาณ 3,500 ล้านบาท และคาดว่าจะเปิดตัวพร้อมเปิดขายอย่างเป็นทางการในไตรมาสที่ 1 ปี 2566
"โครงการคุณาลัย นาวาร่า เป็นโครงการเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ขนาดที่ดินเริ่มต้น 63 ตรว. ราคาเริ่มต้นที่ 5.98 ล้านบาท โครงการตั้งอยู่บนถนนบางขุนเทียน-ชายทะเล ซึ่งเหมาะสำหรับกลุ่มลูกค้าที่มองหาบ้านในโซนธรรมชาติ ซึ่งคาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าในโซนบางขุนเทียน และสามารถรองรับกลุ่มลูกค้าต่างชาติในอนาคต"
อย่างไรก็ตาม จากอัตราการเติบโตของอุตสาหกรรมและผลการดำเนินของKUN ส่งผลให้บริษัทฯมั่นใจว่า ผลการดำเนินงานสำหรับปี2565 มีแนวโน้มปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้นตามเป้าหมายที่วางไว้ 10-15% เมื่อเทียบจากปีก่อน และจะเป็นการทำออลไทม์ไฮต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ของบริษัทฯ เนื่องจากไตรมาส 4 ของทุกปีจะเป็นช่วงไฮซีซั่น จะโดดเด่นทั้งยอดขาย และยอดโอน ดังนั้นเป้ายอดขายในปีนี้สามารถแตะระดับ 1,700 ล้านบาท ได้ตามแผนที่วางไว้แน่นอน
ที่มา: มีเดีย แพลนเนอร์ คอนซัลแทนท์