นางชาตยา สุพรรณพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฟู้ดแพชชั่น จำกัด กล่าวว่า ภาพรวมของปี 2565 ถือได้ว่าเราได้ผ่านช่วงเวลาที่ท้าทายและสามารถพลิกสถานการณ์กลับมาสร้างรายได้และกำไรได้อย่างรวดเร็ว โดย 3 ไตรมาสที่ผ่านมา มีอัตราการเติบโตสูงกว่าปี 2564 มากถึง 80% คิดเป็นรายได้ 2,700 ล้านบาท ถือว่าใกล้เคียงรายได้ก่อนสถานการณ์โควิดในปี 2563 โดยแบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจร้านอาหารในเครือ ได้แก่ บาร์บีคิวพลาซ่า 2,606 ล้านบาท ฌานา 9 ล้านบาท และรายได้จากธุรกิจอื่นๆ 85 ล้านบาท อาทิ ธุรกิจร้านรูปแบบใหม่ ธุรกิจต่างประเทศ ธุรกิจสินค้าสำเร็จรูป รวมไปถึงที่ได้มีการพัฒนาและต่อยอดจากความเชี่ยวชาญในธุรกิจร้านอาหารมาสู่การเปิดธุรกิจศูนย์ฝึกอบรมและศูนย์การเรียนฟู้ดแพชชั่น ที่ในปัจจุบันสามารถสร้างรายได้ โตกว่าปี 2564 ถึง 5 เท่า
"ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ฟู้ดแพชชั่นสามารถพลิกสถานการณ์กลับมาสร้างรายได้ได้อย่างรวดเร็ว คือ การออกแบบระบบการทำงาน และการสร้างโครงสร้างพื้นฐานเรื่องเทคโนโลยีที่ทำให้เราสามารถใช้ Data ในการตัดสินและออกโปรโมชันที่โดนใจลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว โดยปีที่ผ่านมาเราสามารถออกโปรโมชันได้มากกว่า 50 โปรโมชัน และแต่ละโปรโมชันมีความ Dynamic คือออกในช่วงสั้นๆ 7 วัน 14 วัน และ 30 วัน และปรับเปลี่ยนตามกลุ่มประเภทลูกค้าแบบ Personalize Offering บวกกับความร่วมแรงร่วมใจของทีมงานทุกฝ่ายในการปรับกลยุทธ์ธุรกิจในช่วงเวลาต่างๆ ได้รวดเร็วทันเวลา จึงทำให้ทันทีที่มีการคลายมาตรการเราก็สามารถสร้างสรรค์กิจกรรมกระตุ้นการขายได้ทันที"
ทั้งนี้ นางชาตยา ได้ประกาศวิสัยทัศน์ที่จะขับเคลื่อนองค์กรสู่การเติบโตที่ยั่งยืนด้วยแนวคิด Go Beyond ด้วย Triple Bottom Line ได้แก่ People, Profit และ Planet ในการเป็นธุรกิจที่ดีกับมนุษย์ ดีกับโลก พร้อมสร้างผลกำไรเติบโตธุรกิจได้อย่างยั่งยืน ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
- People: การบริหารธุรกิจที่ให้ "คน" มาเป็นอันดับหนึ่ง ด้วยแนวคิดองค์กรแห่งความสุขผ่านกลยุทธ์ "เก่ง ดี สุข" เพื่อสร้างสรรค์วงจรแห่งความสุขที่ยั่งยืน ผ่านการพัฒนาศักยภาพ ความสามารถ ทักษะของบุคลากรในองค์กรให้เป็นคนมีคุณภาพของสังคม และการสร้างความเท่าเทียมในเรื่องการเข้าถึงศึกษา ด้วยการเสริมวุฒิการศึกษาคนในองค์กรด้วยโครงการ "ทุนสานฝัน" และ "ก้อนรักเรียน" ภายใต้การเปิดศูนย์การเรียนฟู้ดแพชชั่นในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการในระดับวุฒิปวช. และสร้างความร่วมมือกับวิทยาลัยทักษิณา บริหารธุรกิจในระดับวุฒิปวส. รวมถึงจับมือกับมหาวิทยาลัยหอการค้าพัฒนาหลักสูตร Passion Lab เพื่อพัฒนาทักษะในทุกด้านให้บุคลากรในองค์กร พร้อมด้วยการส่งเสริมให้บุคลากรเป็นคนดีของสังคมผ่านการทำกิจกรรมเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมต่างๆ และการเสริมสร้างความสุขด้วยรูปแบบการทำงานที่ยืดหยุ่นเข้ากับไลฟ์สไตล์ของผู้คนปัจจุบันแบบ Hybrid workplace & new flexible benefits
- Profit: การสร้างผลกำไรให้ธุรกิจผ่านกลยุทธ์ธุรกิจ 3GO ได้แก่
- Go Beyond Dine-in: เน้นการเสริมแกร่งให้แก่ธุรกิจร้านอาหารด้วย 3 แบรนด์ในเครือผ่านการยกระดับประสบการณ์ ทั้งประสบการณ์ภายในร้าน (Physical Experience) และประสบการณ์ดิจิทัล (Digital Experience) การขยายโอกาสในการทานทั้งที่ร้าน (Togetherness dine-in) และที่บ้าน (Happiness at home) ด้วยการพัฒนาโมเดลร้านบาร์บีคิวพลาซ่าในรูปแบบ Digital Store และการนำเทคโนโลยีทันสมัยทั้ง การค้นหา จองคิว สั่ง จนถึงการชำระเงิน และเก็บคะแนน ร้านที่เป็น Cashless และ GON Bot เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่และความสะดวกสบายให้กับลูกค้า รวมถึงการขยายฐานลูกค้า ด้วยการออกเมนูใหม่ และโมเดลร้านแบบใหม่ใกล้ลูกค้ามากขึ้น เป็นต้น สิ่งที่ขาดไม่ได้คือการสร้างความผูกพันของแบรนด์ บาร์บีก้อน ให้สร้างแรงบันดาลใจกับผู้คนอยู่เสมอ สุดท้ายคือการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่มประเภทซอสให้ลูกค้าสามารถนำไปสร้างความสุขได้ที่บ้าน
- Go Beyond Thailand: การขยายธุรกิจในแนวกว้าง คือการขยายสาขาไปยังตลาดต่างประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ประเทศมาเลเซีย โดยปีนี้ได้ขยายฝั่งมาเลเซียตะวันออก ประเทศอินโดนีเซีย ประเทศกัมพูชา และประเทศล่าสุด ลาว โดยเฉพาะที่ลาวจะเป็นสาขา standalone ที่ใหญ่ที่สุดที่เคยเปิดมา โดยใช้พื้นที่กว่า 800 ตารางเมตร ปัจจุบันมีสาขารวมกว่า 30 สาขา และในปี 2565 มีรายได้รวมของสาขาในต่างประเทศ กว่า 425 ล้านบาท
- Go Beyond Food Industry: การต่อยอดความสำเร็จและความเชี่ยวชาญด้านคนสู่ธุรกิจอื่นๆ เช่น การเปิดให้บริการศูนย์การเรียนฟู้ดแพชชั่น เปิดสอนหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ที่ได้รับการรับรองจากกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งในปีการศึกษา 2565 มีจำนวน 310 คน และศูนย์ฝึกอบรมฟู้ดแพชชั่น เปิดสอนหลักสูตรการสุขาภิบาลอาหาร สำหรับผู้ประกอบกิจการและผู้สัมผัสอาหารตั้งแต่ปี 2564 โดยใน 3 ไตรมาสปีนี้ มีผู้ผ่านการอบรมรวมกว่า 10,000 คน
- Planet: การลดผลกระทบต่อโลกและสิ่งแวดล้อม โดยตั้งเป้าเป็นองค์กรที่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 30% ภายในปี 2030 และจะเป็นองค์กรที่บรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายใน ปี 2050 (Net Zero Emissions by 2050)
สำหรับเป้าหมายทางธุรกิจของฟู้ดแพชชั่นในปี 2565 ได้ตั้งเป้าการเติบโตไว้ที่ 3,500 ล้านบาทพร้อมคาดการณ์ว่าในปี 2566 ฟู้ดแพชชั่นจะเติบโตเพิ่มขึ้นเป็น 3,800 ล้านบาท ด้วยการขยายโอกาสการรับประทานให้มากกว่าการนั่งรับประทานที่ร้านและในห้างฯ โดยมีการการขยายโมเดลร้านในรูปแบบ GEX (Gon Express) การขายแบบเดลิเวอรี่ที่เข้ากับไลฟ์สไตล์แบบใหม่รวมถึงการออกผลิตภัณฑ์ GON Product ซอสบาร์บีคิว ที่ล่าสุดได้รับการตอบรับดีเกินคาดหลังทดลองทำตลาดบนออนไลน์ นอกจากนี้ ยังมีแผนขยายสาขาในประเทศไทยรวมทุกแบรนด์มากกว่า 30 สาขา และการขยายสาขาในต่างประเทศเพิ่มอีก 4 สาขา เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังมีแผนการปรับรูปแบบร้านบาร์บีคิวพลาซ่าด้วยการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีทันสมัยมาใช้เพื่อความสะดวกสบายของลูกค้า ได้แก่ Platform Line @GonGang ที่สามารถให้บริการ สิทธิประโยชน์สมาชิก การสะสม-แลกคะแนน การสั่งซื้อเดลิเวอรี่ การซื้อ voucher รวมถึงการสอบถามโปรโมชันต่างๆ การใช้หุ่นยนต์ GON Bot มาให้บริการภายในร้าน เพื่อให้บริการใน 60 สาขา การปรับปรุงสาขาเดิมกว่า 50% ของสาขาทั้งหมดให้เป็นสาขาที่ไม่ต้องใช้เงินสด (Cashless) พร้อมด้วยการเปิด Digital Store ที่ลูกค้าจะได้สัมผัสประสบการณ์ดิจิทัลตั้งแต่จองคิวถึง สั่ง จนถึงการชำระเงิน และเก็บคะแนน แห่งแรกที่สีลม คอมเพล็กซ์ โดยพัฒนาระบบร่วมกับ Hato Hub ซึ่งเป็นเทคโนโลยีพาร์ทเนอร์และตั้งเป้าจะเปิด Digital Store ทั้งหมด 40 สาขา ภายในปี 2566
"สถานการณ์ที่ผ่านมาทำให้พวกเราแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม และให้บทเรียนมากมาย รวมถึงการเปิดประตูบานใหม่ในการทำธุรกิจของฟู้ดแพชชั่น ทั้งการขายเดลิเวอรี่ การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ การเปิดธุรกิจด้านการศึกษา และการสร้างสรรค์ประสบการณ์ใหม่ของการทานอาหารให้กับผู้คนในทุกมิติ รวมถึงการทบทวนแนวคิดธุรกิจสู่การขับเคลื่อนองค์กรสู่ความยั่งยืนที่จะสร้างประโยชน์ให้กับธุรกิจ ผู้คน และสังคม" นางชาตยา กล่าวทิ้งท้าย
ที่มา: ชมฉวีวรรณ