การประชุมสุดยอดฟินเทคที่ดูไบจะจัดขึ้นที่ DIFC ในวันที่ 8-9 พ.ค. 2566 ณ กรุงดูไบ ซึ่งในงานนี้เราจะได้เห็นบุคคลที่มีชื่อเสียงระดับโลกในอุตสาหกรรมการเงินมานำเสนอประเด็นสำคัญ แบ่งปันมุมมองเกี่ยวกับความท้าทายของอุตสาหกรรม และชี้โอกาสในการเพิ่มประโยชน์สูงสุดของฟินเทคต่อประชาชน ภาคธุรกิจ และเศรษฐกิจ
DIFC เป็นที่ตั้งของกลุ่มธุรกิจฟินเทคและนวัตกรรมที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในศูนย์รวมที่มีการเติบโตมากที่สุดของตลาดฟินเทคทั่วโลก ซึ่งมีมูลค่ามากกว่า 1.359 แสนล้านดอลลาร์ในปี 2564 โดยตลาดทั่วโลกคาดว่าจะเติบโตที่ CAGR 11.9% ระหว่างปี 2565-2570 และคาดว่าจะมีมูลค่ามากกว่า 2.669 แสนล้านดอลลาร์ภายในปี 2570
ฯพณฯ เอสซา คาซิม (Essa Kazim) ผู้ว่าการ DIFC กล่าวว่า "การประชุมสุดยอดฟินเทคที่ดูไบจะรวบรวมแนวคิด ความรู้ และมุมมองที่สามารถช่วยปลดล็อกเฟสใหม่ของการเติบโตแบบทวีคูณสำหรับภาคการเงินโลกและฟินเทคในเศรษฐกิจโลก โดย DIFC จะใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มการประชุมสุดยอดครั้งนี้เพื่อรวบรวมธนาคาร กลุ่มธุรกิจฟินเทค และหน่วยงานกำกับดูแลจากทั่วโลก เพื่อกระตุ้นความก้าวหน้าทางดิจิทัลของภาคการเงิน
เรามีกลุ่มผู้ประกอบการฟินเทคและนวัตกรรมกว่า 600 แห่งใน DIFC ซึ่งกำลังเปลี่ยนโฉมหน้าของอุตสาหกรรมและมีส่วนสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ การขยายตัว 23% ของกลุ่มฟินเทคของ DIFC ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ เป็นข้อพิสูจน์ถึงแพลตฟอร์มที่เป็นมิตรกับการเติบโตแบบไดนามิก ที่เรานำเสนอบริษัททางการเงินจากทั่วโลก"
การประชุมสุดยอดในครั้งนี้ยังจะมีการอภิปรายเชิงลึกเกี่ยวกับแนวทางสำคัญต่าง ๆ รวมถึงอนาคตของฟินเทค, บริการทางการเงินในชีวิตประจำวัน (Embedded Finance) และธุรกรรมทางการเงินแบบไร้รอยต่อ (Open Finance), ความยั่งยืน, เว็บ 3.0 และสินทรัพย์ดิจิทัล การประชุมสุดยอดนี้ยังเปิดโอกาสให้กลุ่มธุรกิจฟินเทคและกลุ่มอนาคตของโลกการเงิน (Future of Finance) มากกว่า 100 ราย ได้เผยเทคโนโลยีและนวัตกรรมล่าสุดของตนอีกด้วย
ติดต่อ :
ASDA'A BCW
โทร: +9714 450 7600 | [email protected]
รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/1940242/DIFC_Global_Summit.jpg
โลโก้ - https://mma.prnewswire.com/media/1874040/DIFC_Logo.jpg