หุ้น ทองคำ บิทคอยน์ กลับตัวรับดอลลาร์อ่อน ตลาดกลับมาคึกคักแต่ยังต้องจับตาเศรษฐกิจถดถอย

ศุกร์ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๐๒๒ ๑๖:๐๕
นักลงทุนรุ่นใหม่ มองการที่เงินเฟ้อสหรัฐฯ เริ่มเข้าสู่ขาลง คือจุดเปลี่ยนของราคาสินทรัพย์การลงทุนที่มีโอกาสฟื้นตัวได้ ระยะสั้นตลาดหุ้นสหรัฐฯ มีโอกาสแรลลี่ได้จนถึงปลายปี เช่นเดียวกับสินทรัพย์ประเภทอื่นอย่าง ทองคำ และบิทคอยน์ ที่ได้รับประโยชน์สูงสุดจากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อน ตลาดสินทรัพย์ทั่วโลกกลับมาคึกคัก แต่อย่างไรก็ตาม ระยะยาวยังต้องจับตามองเรื่องเศรษฐกิจถดถอย
หุ้น ทองคำ บิทคอยน์ กลับตัวรับดอลลาร์อ่อน ตลาดกลับมาคึกคักแต่ยังต้องจับตาเศรษฐกิจถดถอย

นายณพวีร์ พุกกะมาน นักลงทุนและผู้ก่อตั้ง Creative Investment Space (CIS) สถาบันให้ความรู้ด้านนวัตกรรมการลงทุนรูปแบบใหม่ เปิดเผยว่า การประกาศอัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ เดือนตุลาคมออกมาที่ 7.7% ซึ่งต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะออกมาที่ 8% เป็นจุดเปลี่ยนของตลาดการเงินทั่วโลก หลังจากตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมาราคาสินทรัพย์ อย่างเช่นตลาดหุ้น ทองคำ บิทคอยน์ ถูกเทขายลงมาอย่างหนักจากการเร่งขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ เพื่อสกัดเงินเฟ้อ และในตลาดคริปโตเคอร์เรนซีก็ถูกแรงเทขายจากความไม่เชื่อมั่นของกระดานเทรด FTX ที่มีปัญหาการขาดสภาพคล่องจนราคาสินทรัพย์ดิจิทัลทุกตัวราคาปรับลงอย่างหนัก ก่อนการประกาศตัวเลขอัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ ซึ่งเรียกว่าตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลมีความผันผวนรุนแรง

"หากติดตามค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ Dollar Index จะเห็นสัญญาณของการปรับตัวลงมาได้ระยะหนึ่งแล้ว เพราะเงินเฟ้อของสหรัฐฯ เริ่มชะลอตัวลง พอมีการประกาศตัวเลขเดือนตุลาคมออกมาทำให้ตลาดเกิดความเชื่อมั่นว่าเงินเฟ้อเริ่มมีทิศทางเป็นขาลงและธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจชะลอการขึ้นดอกเบี้ยแรงหลังจากที่ปรับขึ้นมาในอัตรา 0.75% ถึงสี่ครั้งติดต่อกัน ซึ่งไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์" นายณพวีร์ กล่าว

โดยหลังการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ทั้งสามตลาดต่างปรับตัวขึ้นแรงทั้งหมด โดยเฉพาะตลาด NASDAQ บวกขึ้นถึง 7.35% บ่งบอกว่าตลาดมีความเชื่อมั่นว่าการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ ครั้งสุดท้ายในเดือนธันวาคม ของปีนี้ อาจจะชะลอการขึ้นดอกเบี้ยลง โดยอาจจะปรับลดเหลือ 0.5%

ขณะที่ดัชนี Dollar Index อ่อนค่าลงจนกลายเป็นทิศทางขาลงในระยะสั้นแล้ว จึงน่าจะเป็นผลบวกต่อสินทรัพย์อื่น ๆ ประกอบกับการเปิดประเทศของหลายประเทศหลังโควิดและในช่วงสิ้นปีที่ผู้คนทั่วโลกออกเดินทาง และมีการจับจ่ายใช้สอยช่วงเทศกาลมากเป็นพิเศษ จึงคาดการณ์ได้ว่าจากนี้จนถึงสิ้นปี ตลาดการลงทุนจะกลับมาคึกคักสร้างผลตอบแทนเป็นบวกจากกิจกรรมเศรษฐกิจที่เพิ่มมากขึ้น

ขณะที่สินทรัพย์ อย่าง ทองคำ ถือเป็นสินทรัพย์ที่ได้รับประโยชน์โดยตรงจากการอ่อนค่าลงของค่าเงินดอลลาร์ ปัจจุบันราคาทองคำฟื้นตัวขึ้น หลังจากผ่านแนวต้านสำคัญที่ 1,723 ดอลลาร์มาได้ และกำลังขึ้นไปทดสอบเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันที่ ระดับ 1,800 ดอลลาร์ หากผ่านตรงนี้ไปได้ มีความชัดเจนว่าแนวโน้มราคาทองคำจะดีดกลับเป็นขาขึ้น

ส่วนตลาดคริปโตเคอเรนซี่ ภาพรวมยังเจอแรงกดดันจากปัญหาการขาดสภาพคล่องของ FTX ซึ่งเป็น Exchange อันดับ 2 ของโลก และส่อเค้าจะล้มละลาย ทำให้ตลาดมีความผันผวนสูง โดยล่าสุดราคาบิทคอยน์ร่วงหลุดจุดต่ำสุดเดิมของปีนี้ที่ 17,500 ดอลลาร์ แต่ในระยะสั้น บิทคอยน์ มีโอกาสปรับตัวดีดขึ้น เพราะได้รับประโยชน์จากการอ่อนค่าของค่าเงินดอลลาร์ ซึ่งจะเป็นจังหวะทยอยขายทำกำไรในระยะสั้น

อย่างไรก็ดี หากใช้สถิติเดิมจากรอบขาลงครั้งก่อน ราคาบิทคอยน์ปรับตัวลงจากจุดสูงสุดกว่า 80% ทำให้มีความเป็นไปได้ว่าราคาอาจปรับตัวลงมาได้ถึงระดับ 13,500 ดอลลาร์ แต่มองว่าราคาใกล้ผ่านจุดต่ำสุดแล้ว นักลงทุนที่มองการลงทุนระยะยาวสามารถทะยอยสะสมได้

"ในระยะยาวปัจจัยเสี่ยงที่ต้องจับตา คือภาวะเศรษฐกิจถดถอย ซึ่งยังเป็นปัจจัยสำคัญกดดันตลาดหุ้นในระยะยาว โดยสัญญาณของ Recession จะชัดเจนขึ้นหลังจากบริษัทจดทะเบียนทั่วโลกประกาศผลประกอบการในไตรมาสสาม ดังนั้น นักลงทุนยังต้องใช้ความระมัดระวังในการลงทุนเช่นเดิม" นายณพวีร์ กล่าว

ส่วนตลาดหุ้นที่น่าสนใจ คือตลาดหุ้นจีน รวมถึงฮ่องกง เพราะหากพิจารณาในแง่ของ Valuation ค่าเฉลี่ย P/E ของตลาดหุ้นจีนลดลงต่ำกว่าระดับ 10 เท่า ซึ่งเป็นระดับ Valuation ที่ต่ำ เพราะที่ผ่านมาตลาดหุ้นจีนอยู่ในระดับค่า P/E ที่สูงมาตลอดแม้จะได้รับแรงกดดันจากนโยบาย Zero Covid รวมถึงการกีดกันทางด้านเทคโนโลยีจากนโยบายรัฐบาลจีน ดังนั้นมูลค่าของตลาดหุ้นจีนในปัจจุบันที่ลงมาจนอยู่ในระดับที่ต่ำ จึงเป็นโอกาสเข้าลงทุนได้ในระยะยาว

ส่วนตลาดหุ้นเวียดนาม จากต้นปีถึงตอนนี้ปรับตัวลงมาแล้วถึง 40% เหตุผลที่ปรับตัวลงมาจากปัจจัยลบภายในประเทศเวียดนามเอง ถึงแม้ว่าขณะนี้ยังไม่ใช่จังหวะที่จะเข้าไปทะยอยสะสม แต่หากพิจารณาในแง่ตลาดหุ้นเกิดใหม่ ตลาดหุ้นเวียดนามน่าสนใจสำหรับการลงทุนระยะยาวเช่นกัน

ที่มา: เมคอะเว็ลท์ คอนซัลติ้ง

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version