คุณปัณฑ์ชนิต สเนป ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร ประจำประเทศไทย มาเลเซีย สิงคโปร์ และเอเชีย กลุ่มบริษัทซาโนฟี่ในประเทศไทย กล่าวว่า "เพื่อสนับสนุนให้เกิดความยั่งยืนของสังคม ซาโนฟี่มีความมุ่งมั่นในการสร้างการเปลี่ยนแปลงและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของสังคมและชุมชน ร่วมถึงการปลูกจิตสำนึกของพนักงานของเราในการเป็นจิตอาสาช่วยเหลือชุมชนที่ยากไร้ ด้วยเวลา แรงกาย แรงใจ ทักษะและความสามารถของพวกเรา ผ่านกิจกรรม CSR ต่างๆ ที่จัดขึ้นในแต่ละปี และที่สำคัญ ในปีนี้ซาโนฟี่ทั่วโลกได้ประกาศนโยบาย We Volunteer และ Volunteering Time-Off เพื่อเปิดโอกาสให้พนักงานทุกคนสามารถใช้เวลาเพื่อไปร่วมทำกิจกรรมเพื่อสังคมได้ปีละ 2 วัน โดยไม่นับเป็นวันลาพักร้อน ซึ่งเป็นนโยบายที่สะท้อนถึงความตั้งใจจริงของบริษัทในการส่งเสริมให้พนักงานร่วมส่งต่อสิ่งดีๆ คืนสู่สังคมอย่างเป็นรูปธรรม"
กิจกรรมเพื่อสังคมที่ซาโนฟี่ทำอย่างต่อเนื่องทุกปี มีแนวทางปฏิบัติในแกนหลัก 4 ประการสำคัญ ได้แก่ Access to Healthcare เน้นการนำองค์ความรู้ด้านการส่งเสริมสุขภาพที่ดีไปมอบให้แก่ชุมชน Innovation for Vulnerable การนำนวัตกรรมทางการรักษาโรคไปมอบให้แก่ชุมชนที่ยากไร้ Planet Care การมีส่วนร่วมในการดูแลรักษ์โลก และ Beyond the Workplace การส่งเสริมพัฒนาและสร้างการมีส่วนร่วมกับชุมชนที่ด้อยโอกาส
สำหรับปี 2565 นี้ ซาโนฟี่ ประเทศไทย ได้สานต่อกิจกรรมเพื่อสังคมผ่านกิจกรรม We Volunteer ด้วยการสนับสนุนโรงเรียนหมู่บ้านเด็ก (มูลนิธิเด็ก) ที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำแควใหญ่ จังหวัดกาญจนบุรี เนื่องจากเด็กๆ ที่นี่ยังขาดโอกาสในหลายๆ ด้าน เช่น ด้านกระบวนการทางความคิด ความรัก ความเข้าใจ ประสบการณ์การเรียนรู้ต่างๆ ซึ่งเด็กส่วนใหญ่มาจากครอบครัวยากจน กำพร้าพ่อแม่ บ้างก็พ่อแม่ติดยาเสพติด หรืออยู่ในเรือนจำ อีกทั้งพ่อแม่ส่วนใหญ่ไม่มีความพร้อมในการเลี้ยงดูและบางครั้งก็อาจใช้ความรุนแรงกับเด็ก ทำให้เด็กไม่ได้รับโภชนาการที่ดีหรือการดูแลสุขภาพที่ถูกต้อง ส่งผลให้เด็กมีปัญหาด้านสุขภาพ มีสุขภาพจิตที่ไม่สมบูรณ์ หรือมีพัฒนาการช้ากว่าวัย และกว่าครึ่งที่เป็นเด็กพิเศษ เช่น ออทิสติก ดาวน์ซินโดรม สมาธิสั้น หรือมีระดับสติปัญญาต่ำกว่าวัย เป็นต้น
คุณเพ็ญศรี ดาวเรือง ผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงเรียนหมู่บ้านเด็ก เล่าให้ฟังว่า "ปัจจุบัน โรงเรียนหมู่บ้านเด็ก มีเด็กทั้งชายและหญิงที่ต้องดูแล ประมาณ 125 คน โดยมีทั้งเด็กที่อยู่ประจำ และเดินทางไปกลับ ในโรงเรียนจะมีบ้าน 12 หลัง โดยแต่ละหลังจะมีคุณครูหรือคุณแม่อาสาที่คอยดูแลอบรมสั่งสอนเด็กๆ ที่อยู่ร่วมกันในบ้านแต่ละหลัง สำหรับการเรียนการสอนที่โรงเรียนจะมีเด็กตั้งแต่ระดับอนุบาล ประถม และมัธยม มีการส่งเสริมด้านวิชาชีพ เช่น สอนการเกษตร ปลูกผักสวนครัว ปลูกเห็ด เลี้ยงไก่ เลี้ยงปลา การฝีมือ เป็นต้น เพื่อให้เด็กได้รับทั้งการศึกษาควบคู่ไปกับด้านวิชาชีพ เพื่อเป็นแนวทางสำหรับเส้นทางในอนาคตที่เด็กๆ มีความถนัดหรือมีความสนใจเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นสถาบันระดับอาชีวศึกษาหรือระดับปริญญาตรี มีรายได้สามารถเลี้ยงดูตัวเองและครอบครัวได้ โดยคุณครูและคุณแม่อาสาต่างก็มุ่งหวังให้เด็กๆ มีต้นทุนชีวิตที่ดีในอนาคต"
คุณศันสนีย์ วนเมธิน หนึ่งในจิตอาสาซาโนฟี่ เล่าให้ฟังพร้อมกับรอยยิ้มว่า วันนี้เป็นอีกวันที่รู้สึกเต็มอิ่มและสุขใจมาก เพราะพวกเราจิตอาสาซาโนฟี่กว่า 50 คน ตั้งใจและตื่นเต้นที่จะได้มาเจอน้องๆ ในวันนี้ มีการจัดเตรียมอุปกรณ์และสื่อการเรียนการสอนด้านโภชนาการและสุขอนามัย เช่น การล้างมือที่ถูกต้อง การแปรงฟันที่ถูกวิธี ประโยชน์ของอาหารทั้ง 5 หมู่ การป้องกันไข้หวัด รวมถึงหลักปฐมพยาบาลเบื้องต้น โดยวันนี้เราได้แบ่งกลุ่มจิตอาสาให้ความรู้น้องๆ โดยแบ่งตามฐานความยากง่ายในแต่ละระดับชั้น มีเล่นเกม สันทนาการต่างๆ เพื่อมอบความสุขให้กับน้องๆ โรงเรียนหมู่บ้านเด็ก
นอกจากนี้ ซาโนฟี่ ประเทศไทย ยังมอบอุปกรณ์การศึกษา เมล็ดพันธุ์ผัก และอาหารกลางวันให้กับเด็กๆ รวมถึงได้ปรับแต่งภูมิทัศน์ใหม่ให้กับโรงเรียนหมู่บ้านเด็ก จังหวัดกาญจนบุรี อาทิ ทำศาลาใหม่ ทำรั้วใหม่ล้อมรอบสวนหย่อม ทาสีรั้วใหม่ ปลูกพืชผักสวนครัว เก็บเห็ด ซึ่งวันนี้สัมผัสได้ว่าเด็กๆ สนุกมาก เห็นรอยยิ้ม ได้ยินเสียงหัวเราะ หลายคนวิ่งมาช่วยทาสีรั้วใหม่ หรือมาช่วยพี่ๆ จิตอาสาขุดดินปลูกผัก สร้างความประทับใจและเป็นความทรงจำที่ดีกับบรรดาพี่ๆ จิตอาสาซาโนฟี่เป็นอย่างมาก
คุณปัณฑ์ชนิต สเนป กล่าวปิดท้ายว่า "ซาโนฟี่ขอขอบคุณทางมูลนิธิเด็กที่ให้โอกาสพวกเราได้มาร่วมกิจกรรม CSR ในครั้งนี้ ซึ่งเป็นการตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของบริษัท และความร่วมแรงร่วมใจของพนักงานจิตอาสาของเราในการส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีของเด็กๆ ในโรงเรียนหมู่บ้านเด็ก ภายใต้หลักการดูแลของมูลนิธิเด็กที่เป็นทั้งบ้าน เป็นทั้งครอบครัวที่มอบความรักและความอบอุ่น เป็นทั้งโรงเรียนและเป็นที่พักพิงให้พวกเขารู้สึกมั่นคงและปลอดภัย อีกทั้งยังเป็นแหล่งบ่มเพาะให้กับพวกเขาได้เติบโตขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่ที่ดีและมีคุณภาพ เป็นอนาคตของสังคมไทยต่อไป"
ที่มา: ซาโนฟี่ ประเทศไทย