PACO เผยงบQ3/2565 รายได้โต 36% แตะ 260 ล้านบาท กำไรสุทธิเพิ่มเป็น 35 ล้านบาท

จันทร์ ๑๔ พฤศจิกายน ๒๐๒๒ ๑๔:๕๘
ยอดขายโต ออเดอร์แน่นถึงกลางปีหน้า แถมบาทอ่อน เร่งขยายธุรกิจ REM & OEMบอร์ดใจดี แจก วอร์แรนท์ฟรี 5:1 ราคาใช้สิทธิ 3 บาท กำหนด XW 23 ธ.ค.65 นี้"PACO" หรือ บมจ. เพรสซิเด้นท์ ออโตโมบิล อินดัสทรีส์ โชว์รายได้ และกำไรสุทธิเติบโตต่อเนื่อง แถมมีออร์เดอร์ล่างหน้าเต็มยาวถึงกลางปีหน้า บอร์ดใจปั้มอนุมัติแจกวอร์แรนท์ฟรี 5:1 รองรับธุรกิจขยายตัวต่อเนื่อง ลุยขยายธุรกิจ OEM & REM ทั้งไทยและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง มั่นใจรายได้ปีนี้เติบโต 20%
PACO เผยงบQ3/2565 รายได้โต 36% แตะ 260 ล้านบาท กำไรสุทธิเพิ่มเป็น 35 ล้านบาท

นายสมชาย เลิศขจรกิตติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เพรสซิเด้นท์ ออโตโมบิล อินดัสทรีส์ จำกัด (มหาชน) "PACO" ผู้นำด้านการผลิตชิ้นส่วนแอร์รถยนต์ชั้นนำของไทย เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2565 ว่า "บริษัทฯ มีรายได้รวม 260 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36% และกำไรสุทธิ เพิ่มขึ้น 9%เป็น 35 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ของปีก่อน ที่มีรายได้รวม 192 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 32 ล้านบาท ซึ่งสาเหตุการเติบโตของรายได้รวมและกำไรสุทธิของ PACO ดีขึ้น ตามอุตสาหกรรมการผลิตยานยนต์ และปริมาณรถยนต์ที่สะสมเพิ่มมากขึ้น รวมถึงสภาวะเศรษฐกิจไทย เศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวและกลับสู่การเติบโตอีกครั้ง สำหรับงบการเงินในงวด 9 เดือน (ม.ค.-ก.ย.65) มีรายได้อยู่ที่ 688 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19 % จากงวดเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 578 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 80.4 ล้านบาท เทียบกับงวดเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 92 ล้านบาท"

นอกจากนี้ คณะกรรมการบริษัทฯ ได้อนุมัติการออกใบสำคัญแสดงสิทธิ (วอร์แรนท์ PACO-W1) ให้กับผู้ถือหุ้นเดิมทุกราย ในอัตรา 5 หุ้นเดิมต่อ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ และมีอัตราการใช้สิทธิแปลงใบสำคัญแสดงสิทธิเป็นหุ้นสามัญที่ราคา 3 บาท ทั้งนี้เพื่อเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินรองรับการขยายตัวของธุรกิจที่คาดว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทฯกำหนดวันปิดสมุดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่จะได้รับสิทธิในวันที่ 23 ธันวาคม 2565 "

"PACO มุ่งเน้นการขยายทั้งธุรกิจเดิมคือ REM ตลาดอะไหล่ทดแทน (Aftermarket Parts) ซึ่งมีอัตรากำไรสุทธิ (Net Margin) ที่ดีเนื่องจากสามารถกำหนดราคาขายสินค้าได้เอง และมีการแข่งขันด้านราคาที่น้อยกว่า และ ธุรกิจใหม่คือ OEM ผลิตภัณฑ์แอร์รถยนต์ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งและมั่นคงให้บริษัทฯ ซึ่ง PACO ประสบความสำเร็จในการเซ็นต์สัญญากับลูกค้าใหญ่รายแรกคือ ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่มุ่งเน้นรถยนต์ไฟฟ้า EV และ Plug-in Hybrid (PHEV) ซึ่งเป็นเทรนด์ใหม่ของโลกที่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นๆ อย่างต่อเนื่อง ซึ่ง PACO ได้รับออเดอร์มูลค่าถึง 1,200 ล้านบาท ทำให้มีรายได้ที่มั่นคงรองรับกว่า 5 ปี สำหรับธุรกิจ OEM และ รองรับรายได้ 10 ปีสำหรับธุรกิจรับจ้างผลิตอะไหล่ (OES) ยิ่กว่านั้น บริษัทฯ ได้รับการติดต่อจากผู้ผลิตหลายแห่ง เพื่อนำเสนองานรับจ้างผลิตชิ้นส่วนแอร์รถยนต์และชิ้นส่วนอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง ทำให้บริษัทฯ มองเห็นศักยภาพการเติบโตของธุรกิจ OEM ที่ชัดเจน มีโอกาสเติบโตสูง เนื่องจากอุตสาหกรรมกลับมาขยายตัวอีกครั้งจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก PACO มีไลน์การผลิต อุปกรณ์เครื่องจักรมาตรฐานสากล พร้อมผลิตสินค้าให้ลูกค้าได้ทันทีโดยไม่ต้องลงทุนเพิ่ม อีกทั้งมีคู่แข่งน้อยรายในธุรกิจ จึงเชื่อมั่นว่า PACO มีโอกาสรับงานรับจ้างผลิต OEM ได้อีกจำนวนมาก"

ขณะเดียวกันบริษัทฯ มีคำสั่งซื้อสินค้าล่วงหน้า (ออเดอร์) ยาวไปจนถึงกลางปี 2566 สำหรับรายได้ปีนี้คาดว่าจะเติบโตตามเป้าที่ 900 ล้านบาท หรือ 30% ตามที่ตั้งไว้ ทั้งนี้บริษัทฯ เตรียมขยายตลาดส่งออก ซึ่งปีนี้คาดว่าจะเติบโตได้ดี เนื่องจากธุรกิจ REM หรือ อะไหล่ทดแทน จะได้ประโยชน์จากสภาวะเศรษฐกิจถดถอย ทำให้ลูกค้าชะลอการซื้อรถใหม่ อีกทั้ง ปัญหาเรื่องการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ ได้คลี่คลายลงอย่างมาก ทำให้บริษัทฯ สามารถส่งออกเพิ่มขึ้นได้ โดยบริษัทฯ มุ่งเน้น ตลาดตะวันออกกลาง สหรัฐอเมริกา และอาเซียน และในช่วงไตรมาส 3 นี้ บริษัทฯ ได้ปรับราคาสินค้าขึ้นเพื่อรักษาอัตรากำไรในไตรมาสที่ผ่านมา และราคาอลูมิเนียมทั่วโลกได้ปรับตัวลดลงมาตามลำดับ ทำให้กำไรสุทธิอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ PACO มุ่งมั่นที่จะขยายทั้งตลาดส่งออก และตลาดในประเทศ คาดว่าธุรกิจจะขยายตัวได้เติบโตจากครึ่งปีแรก โดยได้รับปัจจัยจากการที่บริษัทปรับราคาขายสินค้าขึ้นมาเพื่อให้สะท้อนต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น ทั้งอลูมิเนียม เหล็ก น้ำมัน และพลาสติก ขณะเดียวกันยังมีปัจจัยหนุนจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงมา"

ส่วนในประเทศ PACO จะขยายเครือข่ายร้านอะไหล่แอร์รถยนต์ครบวงจร ภายใต้แบรนด์ PACO Auto Hub (พาโก้ ออโต้ ฮับ) เพื่อสร้างแบรนด์ PACO ให้เป็นที่รู้จักในกลุ่มผู้ใช้รถยนต์ในประเทศ เพื่อเพิ่มยอดขายในประเทศและเสริมความแข็งแกร่งด้านช่องทางการจำหน่ายสินค้า และสร้างความเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ แบรนด์ของคนไทย โดยเราตั้งเป้าหมายที่ จะมีร้าน PACO Auto Hub จำนวน 300 สาขาภายในปีนี้ จากปัจจุบันได้เปิดไปแล้วกว่า 170 สาขา ทั่วประเทศ โดยภายในร้านจะจำหน่ายผลิตภัณฑ์ คอยล์ร้อนและคอยล์เย็นแบรนด์ PACO เป็นหลัก และมีสินค้าอื่นๆ อาทิเช่น ท่อน้ำยาแอร์ น้ำยาแอร์ เพื่อเป็นการให้บริการลูกค้าแบบครบวงจรในที่เดียว (One-Stop Solution) บริษัทวางเป้าหมายการจำหน่ายสินค้าผ่าน PACO Auto Hub ในแง่ของการเข้ามาช่วยสนับสนุนรายได้จากตลาดในประเทศที่มีสัดส่วน 55% ของรายได้รวมในปี 65 ที่จะผลักดันให้เติบโตไม่ต่ำกว่า 10% โดยจะขยายสาขาอย่างต่อเนื่องให้ครบ 500 สาขาในอนาคต

ขณะที่แนวโน้มของตลาดรถยนต์ EV กำลังอยู่ในกระแสความนิยมที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ท่ามกลางสถานการณ์ราคาน้ำมันแพง ประกอบกับนโยบายการส่งเสริมอุตสาหกรรมผลิตยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ของรัฐบาล ที่ต้องการให้ประเทศไทยเป็น 1 ในศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (EV Hub) ของเอเชีย ทำให้ผู้ผลิตรถ EV รายใหญ่จากทั่วโลกหลายรายพุ่งเป้าเข้ามาตั้งฐานการผลิตในประเทศไทย ซึ่งนับว่าเป็นโอกาสทางธุรกิจที่ PACO จะเข้าไปมีส่วนร่วมเต็มรูปแบบสำหรับอุตสาหกรรมรถ EV เนื่องจาก PACO เป็นผู้รับจ้างผลิตชิ้นส่วนแอร์รถยนต์ (OEM Manufacturer) ที่มีความพร้อมด้านเทคโนโลยี และมีประสบการณ์ในการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้า คือ Battery cooler และ ชิ้นส่วนแอร์รถยนต์สำหรับรถไฟฟ้า (EV) แบบ BEV (Battery EV) และ PHEV (Plug-in Hybrid) ในรูปแบบอะไหล่ทดแทน (REM) เพื่อจำหน่ายในประเทศและส่งออกไปต่างประเทศ"

บริษัท เพรสซิเด้นท์ ออโตโมบิล อินดัสทรีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ PACO มีทุนจดทะเบียน 500 ล้านบาท ก่อตั้งมาแล้วกว่า 30 ปี เป็น 1 ในผู้บุกเบิกการผลิตชิ้นส่วนแอร์รถยนต์ของไทย และได้พัฒนาผลิตภัณฑ์อะไหล่แอร์รถยนต์แบบครบวงจร ทั้ง คอยล์ร้อน และคอยล์เย็น สำหรับรถที่มียอดจำหน่ายปานกลางถึงสูง ทั้งรถญี่ปุ่น ยุโรป และอเมริกัน รวมมากถึง 2,600 รุ่น โดยบริษัทฯ มี โรงงานผลิต 3 แห่ง ตั้งอยู่ในจังหวัดสมุทรสาคร และศูนย์กระจายสินค้า 1 แห่ง ตั้งอยู่ในเขตบางบอน กรุงเทพมหานคร บริษัทฯ ได้รับการรับรองมาตรฐานสากล ISO 9001:2015 และได้จำหน่ายสินค้าภายในประเทศ และ ส่งออกไปทวีปอเมริกาเหนือ ยุโรป อเมริกาใต้ เอเชียและออสเตรเลีย"

ที่มา: แบรนด์ เวลท์

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO